Monday, December 31, 2012
Tuesday, December 25, 2012
Friday, December 21, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 33 สิ้นปี 20 ธค 2555
วันนี้เป็นวันทำงานสุดท้ายของปีนี้ สัปดาห์หน้าแจ๋วต้องไปคริสมาสต์บ้านแม่ย่า กับ มิสเตอร์ วันนี้รับค่าแรงพร้อมของขวัญที่นายจ้างเตรียมไว้ให้ ก่อนกลับนายจ้างให้ชิม พริสเซิลเคลือบชอคโกแลตด้วย นายจ้างใจดี แจ๋วก็อยากทำงานต่อไปนานๆๆ ถ้าไม่ย้าย หรือ ได้งานที่แจ๋วรักซะก่อนนะ ก็แจ๋วอยากเป็นตากล้องนะซิ
แล้วเม้าท์กันใหม่ ปีหน้านะค่ะ ขอให้ผู้อ่านมีความสุขทุกคน รับทรัพย์ๆๆ ด้วย
Tuesday, October 30, 2012
แจ๋วรับจ๊อบร้านเย็บผ้า
มีประสบการณ์ทำงานอีกงานมาเล่าจ้า
เป็นงานที่ร้านเย็บผ้าทำหนึ่งเดือน สัปดาห์ล่ะ สองวัน วันละ สาม ชั่วโมง พุธ 15.00-18.00 ศุกร์ 14.00-17.00 ค่าจ้างไม่มาก พอรับได้ แม้จะน้อยกว่าที่แจ๋วได้รับ หน้าที่หลัก เลาะผ้า หน้าที่รองลงมา แล้วแต่เจ้าของร้านมอบหมายให้ เช่นตัดผ้า ทำดอกไม้ เมื่อมีลูกค้าเข้าร้านช่วย วัด กลัดเข็มกลัดที่เสื้อผ้า ที่ต้องการซ่อม หรือ ตัดชาย เขียนใบรับ ส่งมอง- รับเงินลูกค้าที่มารับเสื้อผ้าที่ส่งซ่อมไว้
งานไม่ยาก และเป็นงานผ้าที่ชอบอยู่ด้วย สามชั่วโมงแต่ละวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวมระยะเวลาที่ทำได้หนึ่งเดือน (นับวันที่ทำงานก็ 8 วันเท่านั้น) หลังจากนี้ หากมีงานอีก ทางร้านจะโทรมา
รู้จักร้านนี้จากเพื่อนที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน เมื่อครั้งที่เจ้าของร้านหาครูสอนโครเชท์ แล้วไม่มีนักเรียนมาสักที โอ้ทเลยบอกเลิก เพราะรอจนเบื่อ ไม่แน่นอน หายไปสักระยะ วันหนึ่งโอ้ทไปซื้อกับข้าวร้านจีนติดกับร้านนี้ ถือโอกาสแวะทักทาย หลังจากวันนี้เจ้าของร้านโทรมา เข้าไปคุยกัน ต้องการให้ช่วยงานที่ร้าน ชั่วคราว
งานไม่ยาก และเป็นงานผ้าที่ชอบอยู่ด้วย สามชั่วโมงแต่ละวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวมระยะเวลาที่ทำได้หนึ่งเดือน (นับวันที่ทำงานก็ 8 วันเท่านั้น) หลังจากนี้ หากมีงานอีก ทางร้านจะโทรมา
รู้จักร้านนี้จากเพื่อนที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน เมื่อครั้งที่เจ้าของร้านหาครูสอนโครเชท์ แล้วไม่มีนักเรียนมาสักที โอ้ทเลยบอกเลิก เพราะรอจนเบื่อ ไม่แน่นอน หายไปสักระยะ วันหนึ่งโอ้ทไปซื้อกับข้าวร้านจีนติดกับร้านนี้ ถือโอกาสแวะทักทาย หลังจากวันนี้เจ้าของร้านโทรมา เข้าไปคุยกัน ต้องการให้ช่วยงานที่ร้าน ชั่วคราว
Friday, October 19, 2012
เป๋อหน้าตาย
เมื่อบ่ายนี้ (19 ตค 2555) มิสเตอร์กลับมาบ้าน ลางานครึ่งวัน ไปรับรถเอาไปซ่อมตั้งแต่เมื่อวานเย็น เพราะระหว่างกลับบ้านเมื่อวานความร้อนขึ้นสูง มิสเตอร์บอกว่าน้ำแห้ง สันนิษฐานว่าตั้งแต่ขับข้ามรัฐเมื่อฤดูร้อน ไม่ได้เติมน้ำเลย
(ปกติอยู่ไทยโอ้ทจะตรวจรถทุกวันก่อนเดินทาง (พ่อสอนไว้) แต่ที่นี่จำได้ว่า ปีแรกที่มา เติมน้ำในหม้อน้ำ ในฤดูหนาวพอดี น้ำ กลายเป็นน้ำแข็งในหม้อน้ำ ต้องใช้น้ำยาเคมีเติม ก็ไม่รู้นี่นา ตั้งแต่นั้นมาโอ้ทไม่เคยเช็คอีกเลย ไม่คุ้นกับระบบที่นี่)
รถต้องทิ้งค้างคืนที่ศูนย์และนัดรับบ่ายนี้ มิสเตอร์เอารถคันที่โอ้ทใช้ไปทำงาน กลับมาตอนเที่ยง ไปรับรถด้วยกัน มิสเตอร์บอกว่าทางศูนย์แจ้งตัวปัญหา คือพัดลมพัง แต่ด้วยความที่โอ้ทติดใจว่า รถยังใหม่อยู่เพิ่งซื้อไม่น่าพัง ไปถึง เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมา แจ้งว่าซ่อมพัดลม ค่าใช้จ่าย..โอ้ททำหน้าตาย ถามไปว่า
โอ้ท : ทำไมถึงพังได้ล่ะ รถยังใหม่อยู่เลยนะ
เจ้าหน้าที่ : อะไรนะ? ( ฟังภาษาอังกฤษโอ้ทไม่เข้าใจ พูดเร็วไปนิด..อิอิ)
โอ้ท : ทำไมถึงพังได้ล่ะ รถยังใหม่อยู่ ปีเดียวเอง...
มิสเตอร์ : ปี 2009 (พูดพร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถามกลับมาว่า)
เจ้าหน้าที่ : ซื้อมือสองเหรอ เพราะรถ สามปีแล้วนะ
โอ้ทได้ยินมิสเตอร์บอกปีที่ซื้อ นีกได้ เออวะ ! ผ่านมาหลายปีแล้วนี่หว่า ปีนี้ 2012 แต่ไม่อยากเสียฟอร์ม ก็ตั้งใจคอมเพลน (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรน๊าคำนี้) แล้ว ยังไม่ยอมเงียบ อีก
โอ้ท : ก็รถยังใหม่อยู่ ไม่น่าเสียได้เลยนะ
เจ้าหน้าที่ : ยูซื้อประกัน(ชิ้นส่วนรถยนต์จากศูนย์) หรือเปล่า
มิสเตอร์ : ไม่ได้ซื้อ
โอ้ท : เราไม่มีปัญหาว่ามีประกันไหม ค่าใช้จ่าย เราจ่ายได้ (มิสเตอร์จ่ายได้) แต่สงสัยว่าทำไมรถยังใหม่อยู่ เสียแล้ว
มิสเตอร์ : ปี 2009 (ยังคงพูดอยู่ข้างๆ)
โอ้ท : เราซื้อกันปลายปีนะ (ในใจนับๆๆ ว่าถึงปัจจุบัน 3 ปีนี่หว่า)
เจ้าหน้าที่ : ( ทำหน้า งง เงียบไป แล้วอธิบายต่อว่า...) ระยะวิ่งเท่านี้...ไมล์ รถปีนี้ ก็ได้เวลาแล้วล่ะนะ
โอ้ท : เหรอ ไอก็แค่สงสัยเองว่าทำไมพังแล้ว รถยังใหม่อยู่ (ยังไม่เลิก...ทั้งรู้ว่าตัวเองข้อมูลผิดแล้วแต่ไม่อยากเสียฟอร์ม) ขอบคุณนะ
มิสเตอร์ : โอเค ขอบคุณนะ (รับเอกสารยื่นให้แคชเชียร์ เพราะชักจะทนเมียไม่ไหว)
เมื่อชำระเงินเรียบร้อย เดินออกจากประตูสำนักงาน
โอ้ท : ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก...ไอจำผิด นีกว่า เพิ่งผ่านไปปีเดียว
มิสเตอร์ : อะไร ของยู ไอบอกปี 2009 ตั้ง สามครั้ง
โอ้ท : ไอได้ยินแล้ว และ รู้ว่าตัวเองจำผิด แต่ไออยากคอมเพลน แล้วพูดไปแล้วด้วย ไม่อยากเสียฟอร์มนี่นา พูดทำหน้าตาเฉยๆๆ ไม่เห็นเหรอ
มิสเตอร์ : เขาจะคิดว่า ยูบ้าน่ะซิ รถ สามปี พูดอยู่ได้ว่า ปีเดียว
โอ้ท: ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เมียยูมั่นใจมากเลยเน่อะ
(ปล. พัดลมเจ้ง เปลียนตัวใหม่ 10xx ดอลล่าร์ ทำไมแพงขนาดนี้ฟะ ถ้าตัวเองคนเดียว ไม่มีปัญญาซ่อมนะเนี่ย )
จบ.
(ปกติอยู่ไทยโอ้ทจะตรวจรถทุกวันก่อนเดินทาง (พ่อสอนไว้) แต่ที่นี่จำได้ว่า ปีแรกที่มา เติมน้ำในหม้อน้ำ ในฤดูหนาวพอดี น้ำ กลายเป็นน้ำแข็งในหม้อน้ำ ต้องใช้น้ำยาเคมีเติม ก็ไม่รู้นี่นา ตั้งแต่นั้นมาโอ้ทไม่เคยเช็คอีกเลย ไม่คุ้นกับระบบที่นี่)
รถต้องทิ้งค้างคืนที่ศูนย์และนัดรับบ่ายนี้ มิสเตอร์เอารถคันที่โอ้ทใช้ไปทำงาน กลับมาตอนเที่ยง ไปรับรถด้วยกัน มิสเตอร์บอกว่าทางศูนย์แจ้งตัวปัญหา คือพัดลมพัง แต่ด้วยความที่โอ้ทติดใจว่า รถยังใหม่อยู่เพิ่งซื้อไม่น่าพัง ไปถึง เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมา แจ้งว่าซ่อมพัดลม ค่าใช้จ่าย..โอ้ททำหน้าตาย ถามไปว่า
โอ้ท : ทำไมถึงพังได้ล่ะ รถยังใหม่อยู่เลยนะ
เจ้าหน้าที่ : อะไรนะ? ( ฟังภาษาอังกฤษโอ้ทไม่เข้าใจ พูดเร็วไปนิด..อิอิ)
โอ้ท : ทำไมถึงพังได้ล่ะ รถยังใหม่อยู่ ปีเดียวเอง...
มิสเตอร์ : ปี 2009 (พูดพร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถามกลับมาว่า)
เจ้าหน้าที่ : ซื้อมือสองเหรอ เพราะรถ สามปีแล้วนะ
โอ้ทได้ยินมิสเตอร์บอกปีที่ซื้อ นีกได้ เออวะ ! ผ่านมาหลายปีแล้วนี่หว่า ปีนี้ 2012 แต่ไม่อยากเสียฟอร์ม ก็ตั้งใจคอมเพลน (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรน๊าคำนี้) แล้ว ยังไม่ยอมเงียบ อีก
โอ้ท : ก็รถยังใหม่อยู่ ไม่น่าเสียได้เลยนะ
เจ้าหน้าที่ : ยูซื้อประกัน(ชิ้นส่วนรถยนต์จากศูนย์) หรือเปล่า
มิสเตอร์ : ไม่ได้ซื้อ
โอ้ท : เราไม่มีปัญหาว่ามีประกันไหม ค่าใช้จ่าย เราจ่ายได้ (มิสเตอร์จ่ายได้) แต่สงสัยว่าทำไมรถยังใหม่อยู่ เสียแล้ว
มิสเตอร์ : ปี 2009 (ยังคงพูดอยู่ข้างๆ)
โอ้ท : เราซื้อกันปลายปีนะ (ในใจนับๆๆ ว่าถึงปัจจุบัน 3 ปีนี่หว่า)
เจ้าหน้าที่ : ( ทำหน้า งง เงียบไป แล้วอธิบายต่อว่า...) ระยะวิ่งเท่านี้...ไมล์ รถปีนี้ ก็ได้เวลาแล้วล่ะนะ
โอ้ท : เหรอ ไอก็แค่สงสัยเองว่าทำไมพังแล้ว รถยังใหม่อยู่ (ยังไม่เลิก...ทั้งรู้ว่าตัวเองข้อมูลผิดแล้วแต่ไม่อยากเสียฟอร์ม) ขอบคุณนะ
มิสเตอร์ : โอเค ขอบคุณนะ (รับเอกสารยื่นให้แคชเชียร์ เพราะชักจะทนเมียไม่ไหว)
เมื่อชำระเงินเรียบร้อย เดินออกจากประตูสำนักงาน
โอ้ท : ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก...ไอจำผิด นีกว่า เพิ่งผ่านไปปีเดียว
มิสเตอร์ : อะไร ของยู ไอบอกปี 2009 ตั้ง สามครั้ง
โอ้ท : ไอได้ยินแล้ว และ รู้ว่าตัวเองจำผิด แต่ไออยากคอมเพลน แล้วพูดไปแล้วด้วย ไม่อยากเสียฟอร์มนี่นา พูดทำหน้าตาเฉยๆๆ ไม่เห็นเหรอ
มิสเตอร์ : เขาจะคิดว่า ยูบ้าน่ะซิ รถ สามปี พูดอยู่ได้ว่า ปีเดียว
โอ้ท: ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เมียยูมั่นใจมากเลยเน่อะ
(ปล. พัดลมเจ้ง เปลียนตัวใหม่ 10xx ดอลล่าร์ ทำไมแพงขนาดนี้ฟะ ถ้าตัวเองคนเดียว ไม่มีปัญญาซ่อมนะเนี่ย )
จบ.
Tuesday, October 9, 2012
อเมริกันซิติเซ่น คนใหม่...ซะเมื่อไรกันล่ะ
โอ้ทตั้งใจว่าปีนี้ 2555 จะยื่นเอกสาร ขออเมริกันซิติเซ่น อยากได้พาสปอร์ตเร็วๆๆ ยิ่งเมื่อไปนอร์ธดาโกต้าครั้งนี้ มิสเตอร์กับญาติคุยกันว่า น่าไปล่องเรือ ไปอลาสก้าด้วยกัน ยิ่งทำให้อยากได้พาสปอร์ตเร็วๆๆ เผื่อจะวางแผนออกนอกประเทศด้วย
กลับจากนอร์ธดาโกต้า จนเริ่มปีใหม่ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป โอ้ทเริ่มหาข้อมูลในเวบ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ก่อนอื่นจัดการปริ้นข้อมูล และ แบบฟอร์มออกมาก่อน และจัดการอ่านเอกสารแนะนำ ซึ่งมีหลายหน้า ต้องค่อยๆๆอ่าน ค่อยๆๆ เตรียมเอกสาร และ กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ซึ่ง ณ วันนี้เริ่มกรอกไปบ้างนิดหน่อยเท่านั้น และ อ่านข้อมูลแนะนำบ้างเล็กน้อย
จากนั้น เสริจหาว่ามีที่ไหนสอน เตรียมตัวสำหรับคนที่จะยื่นขอซิติเซ่นบ้าง ได้ข้อมูลมาหลายที่เหมือนกัน แต่เลือกโทรสอบถามที่ใกล้บ้าน ปรากฎว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยเรียนภาษาอังกฤษแล้วไม่ชอบคนสอนแล้วเลิกเรียนกลางคัน แล้วทำให้ฉุกคิดถึงกลุ่มที่โอ้ทกำลังเรียนอยู่ จัดแจงโทรไปสอบถาม แจ้งความจำนงค์ไว้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ที่ติดต่อด้วยไม่อยู่ ณ ขณะนั้น ฝากเบอร์โทรกลับไว้
27 มกราคม 2555
เจ้าหน้าที่จากกลุ่มจัดสอนภาษาอังกฤษที่ติดต่อไว้โทรกลับมาแจ้งว่าไม่มีเปิดสอน แต่มีข้อมูลฝากกับครูมาให้ เก็บไว้อ่านได้จนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย
เมื่อที่นี่ไม่มีสอน โอ้ทต้องหาที่สอนใหม่ เสริจหา หา หา ไม่เจอรัฐที่ตัวเองอยู่เลย หาไปหามา เข้าไปเวบเรื่องขอสัญชาติอเมริกันอีก แล้วก็ได้ข้อมูล เลือกที่ใกล้บ้านที่สุด ส่งอีเมล์ไป รอตอบกลับ
13 กุมภาพันธ์ 2555
เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดสอนภาษาอังกฤษ องค์กรที่เรียนอยู่ ฝากบัตรคำถาม-คำตอบมาให้อ่าน
9 ตุลาคม 2555
อัพเดท ณ ปัจจุบัน เปลี่ยนใจยังไม่ยื่น เพราะตัวขี้เกียจเกาะหนึบ ได้ตำรามานานหลายเดือนแล้ว ยังวางอยู่นิ่งๆ
23 พฤจิกายน 2555
คิดไปคิดมา หาข้อมูลหลังกรีนการ์ด 10 ปีหมดแล้วทำยังไงต่อดีกว่า มีพาสปอร์ตอเมริกันสะดวกในการเดินทางหลายๆ ประเทศ แต่ต้องจ่ายภาษีแพงๆๆตามหน้าที่พลเมืองอเมริกันนี่ ไม่น่าสนใจเลนสักนิด
Tuesday, September 18, 2012
ไม่ลำบาก และไม่หวังอะไรมากกว่านี้ และ ไม่กอบโกย
ทุกวันนี้ลืมตาขึ้นมา ไม่ต้องทำอะไรมาก วัน ๆ ไร้สาระ ทำงานบ้าน ดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ อยากไปนอกบ้าน ไปช้อปปิ้ง ไปกินอาหารนอกบ้าน อยากทำอะไรก็ทำได้ตามอิสระ งานจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เดือดร้อน อยากได้อะไรบอกมิสเตอร์ ถ้าไม่เกินกำลังของเขาไม่เคยแม้สักครั้งที่จะไม่ได้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนจริงๆที่มิสเตอร์บอก "ไม่"
ไม่ต้องฝันเฟื่อง ไม่ต้องคิดอยากได้อะไรมากไปกว่านี้แล้ว เท่านี้ก็สบายกาย สบายใจแล้ว มีแต่อย่างเดียวเท่านั้นคืออยู่ไกลบ้านอะไร ๆ ก็ไม่สะดวกเหมือนอยู่บ้าน
ทุกคนที่บ้านสบายดี เราติดต่อกันได้การสื่อสารที่ทันสมัย ได้เห็นภาพ เห็นวิดิโอกันอยู่
จะดิ้นรนอะไรไปมากกว่านี้อีกเน่อะ บางครั้งนีกอยากเรียน สิ่งที่ชอบ แต่ค่าเทอมแพง ระยะเวลาเรียนอย่างน้อยสองปีขี้นไป ก็ต้องใช้ปัจจัยของมิสเตอร์อีก เลิกคิดดีกว่า เรียนมาจะใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทุกวันนี้ก็สุขสบายดี ไม่ลำบาก
ไม่ต้องแข่งขันกับใคร ไม่ต้องอยากได้อะไร ไม่ต้องหวังเพิ่งใคร ต้องเพิ่งตัวเองให้มากที่สุด
นีกถึงพ่อที่อยู่อย่างพอเพียง ไม่ดิ้นรน ไม่แข่งขันกับใคร ไม่เบียดเบียนใคร อยู่นิ่งๆ ใครไม่หวังดีเข้ามายุ่งกับเรา เราก็เฉยๆซะ อย่าไปยุ่งกับเขา เรื่องทุกข์ก็มีบ้างเป็นปรกติของคน แต่จะเก็บมาทุกข์ทำไม ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ พ่อเคยพูดไว้เหมือนกัน ปล่อยไปตามธรรมชาติ
วันหน้า อนาคต จะคิดไปทำไม พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ พ่อบอกไว้ ต้องมองวันนี้ซิ วันนี้เราจะกินอะไร เราจะทำอะไร ให้ผ่านพ้นไป มองไปไกล ตอนเช้ายังอยู่ดี บ่ายๆๆ อาจเดินหกล้ม หัวฟาดพื้น ตายก็เป็นไปได้
ทุกวันนี้มีความสุขดีอยู่ แม้จะอยู่ไกลบ้านก็ยังมีมิสเตอร์ แต่หากวันหน้า มิสเตอร์เกิดเป็นอะไรไปก่อน น้อง ๆ พี่คงต้องขอไปอาศัยน้องๆๆล่ะนะ เพราะพี่คงมีแต่ตัวกลับไป สมบัติของเขา ก็ยกให้ครอบครัวเขา แค่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเท่านั้นล่ะ พี่บอกเขาไปแล้ว พินัยกรรมก็ทำแล้ว อะไรที่เป็นของเขา สุดท้ายก็เป็นของเขา
ทุกวันสวดมนต์ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีคนคิดร้าย เดินทางไปไหนปลอดภัย รวมทั้งตัวเองด้วย
คิดดี จิตใจไม่เป็นทุกข์
Tuesday, September 4, 2012
ทำความสะอาดบ้านพักพนักงานร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าของคนไทย
บ้านหลังเล็กๆ สองชั้น ในภาพเป็นสองหลังชนกัน ทำหลังที่เห็นหน้าบ้าน พี่เจ้าของบ้านให้ทำ สามชั่วโมง บอกไว้แล้วว่าสกปรกมาก ต้องล้างบ้านเลยล่ะ คิดว่ามี ฝุ่นเยอะเท่านั้น แต่เมื่อไปถึงเดินสำรวจ ทั่วบ้าน ทั้งสองชั้น นีกในใจ สามชั่วโมงทำได้สบายๆๆ แต่เมื่อเข้าไปในครัว พิจารณาแล้ว คงไม่เสร็จ เพราะแค่ขัด ล้าง เตาก็ปาไปชั่วโมงกว่าแล้ว ไหนจะพื้นอีก เป็นพื้นหิน แต่คราบน้ำมัน คราบกาแฟ ขัดออกยากมาก เตาเองก็คราบน้ำมันจากสีขาวเป็นสีเหลือง (ไม่ได้ถ่ายภาพก่อนทำไว้เพราะเกรงใจ)
เช็ดเครื่องซักผ้าเฉพาะฝา เพราะเวลาไม่พอ เช็ด ปัดฝุ่นทีวี ชั้นวางทีวี ชั้นวางของ ดูดฝุ่นพื้นห้องนั่งเล่น ไม่ได้ทำบันไดบ้านเลย น้องคนไทยหยุดวันนี้หนึ่งคนช่วยล้างห้องน้ำ สรุปว่า สามชั่วโมงจัดการในครัวได้บ้าง ดูดีกว่าก่อนทำ แต่คงต้องไปทำอีก สอง หรือ สามครั้งนั่นละถึงจะสะอาด เอี่ยม ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแล้วแต่เจ้าของบ้าน
เจ้าของบ้านเตรียมน้ำยาฟอกขาวไว้ กับ น้ำยาล้างจาน และ สเปรย์ฉีดทำความสะอาดครัว เราเตรียมไปบ้างเพราะไม่แน่ใจว่ามีอะไรให้ใช้บ้าง แต่น้ำยาที่มีก็ไม่ช่วยให้สะอาดได้ดี แล้วต้องออกแรงขัดด้วย เป็นวันแรกที่ทำความสะอาดบ้านแล้วเหงื่อท่วม เพราะน้ำมันขัดออกยากมาก ต้องนั่งขัดพื้นกันเลยล่ะ
เวลาจำกัด ทำเท่าที่ทำได้ล่ะ ก็ยังดูดีกว่าก่อนทำขึ้นเยอะ จากนั้น แวะรับทรัพย์ และ ซื้อน้ำปั่นเย็นๆๆ ก่อนกลับบ้านThursday, July 26, 2012
เลนส์ ? สองคนคุยกัน
โอ้ท : มิสเตอร์ ไอได้เลนส์ซ่อมกลับมาแล้วนะ
มิสเตอร์ : อ้าว ไอนีกว่ายูขายไปแล้ว
โอ้ท : เปล่า ไอขายฟิชอายต่างหาก
มิสเตอร์ : ทำไมถึงขายฟิชอาย
โอ้ท: ไอปรับแมนนวลโฟกัสไม่เก่ง แล้วมันเก็บภาพกว้างเกินไป ไอไม่ชอบ
มิสเตอร์: แล้วยูจะซื้อตัวใหม่ไหม
โอ้ท : ไอซื้อมาแล้วไง ระยะกว้างกว่าตัวที่ซ่อม แต่ไม่ใช่ฟิชอาย
มิสเตอร์ : แล้วตกลงยูจะซื้อฟิชอายใหม่หรือเปล่า
โอ้ท: ถ้าไอไม่ชอบ ตัวใหม่ ก็จะซื้อแต่ไม่ใช่ตอนนี้
มิสเตอร์: ซื้อของแคนอนเหรอ
โอ้ท: ใช่ แคนนอน 10-20มม ซูมได้ด้วย แมนนวลโฟกัสด้วย
มิสเตอร์ : ไอไม่เข้าใจ 10มม แคบกว่า 8มม เหรอ
โอ้ท : ใช่ ตัวเลขน้อย กว้างกว่า ตัวเลขมาก เลนส์ตัวใหม่ 15-85 กว้างกว่า ตัวที่ซ่อม 17-85 เหมือน กับ ค่าF ตัวเลขน้อย แสงสว่างมาก แสงเข้าได้มากกว่า ตัวเลขมาก ยูจำได้ไหม
มิสเตอร์ : ไอ เฮท ดีส!
มิสเตอร์ : อ้าว ไอนีกว่ายูขายไปแล้ว
โอ้ท : เปล่า ไอขายฟิชอายต่างหาก
มิสเตอร์ : ทำไมถึงขายฟิชอาย
โอ้ท: ไอปรับแมนนวลโฟกัสไม่เก่ง แล้วมันเก็บภาพกว้างเกินไป ไอไม่ชอบ
มิสเตอร์: แล้วยูจะซื้อตัวใหม่ไหม
โอ้ท : ไอซื้อมาแล้วไง ระยะกว้างกว่าตัวที่ซ่อม แต่ไม่ใช่ฟิชอาย
มิสเตอร์ : แล้วตกลงยูจะซื้อฟิชอายใหม่หรือเปล่า
โอ้ท: ถ้าไอไม่ชอบ ตัวใหม่ ก็จะซื้อแต่ไม่ใช่ตอนนี้
มิสเตอร์: ซื้อของแคนอนเหรอ
โอ้ท: ใช่ แคนนอน 10-20มม ซูมได้ด้วย แมนนวลโฟกัสด้วย
มิสเตอร์ : ไอไม่เข้าใจ 10มม แคบกว่า 8มม เหรอ
โอ้ท : ใช่ ตัวเลขน้อย กว้างกว่า ตัวเลขมาก เลนส์ตัวใหม่ 15-85 กว้างกว่า ตัวที่ซ่อม 17-85 เหมือน กับ ค่าF ตัวเลขน้อย แสงสว่างมาก แสงเข้าได้มากกว่า ตัวเลขมาก ยูจำได้ไหม
มิสเตอร์ : ไอ เฮท ดีส!
Friday, June 1, 2012
แจ๋วแจ่มใส #32
31 พ.ค 2555... วันนี้แจ๋วไปทำงานปกติ ไปถึงบ่ายโมง แม่บ้านเขียนโน้ตไว้ว่าไปทำกายภาพ
(ขอท้าวความย้อนเล็กน้อย...เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม่บ้านไปผ่าตัดข้อมือ เพราะชาไม่มีความรู้สีกทั้งมือ และนิ้วทั้งห้า เป็นที่เส้นเอ็น ภาษาอังกฤษเรียกว่า คาเปลเทอเนล (http://www.carpaltunnel.com/home/) แจ๋วเคยเจ็บข้อมือแล้วสันนิษฐานว่าเป็นแบบนี้ แต่ไปหาหมอแล้วไม่ใช่ รอดไป ไม่ต้องผ่าตัด..ทำให้ยังไม่สามารถทำอะไรได้สะดวก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แจ๋วไปทำงานเพิ่มนิดหน่อยเมื่อวันศุกร์ แค่พับผ้าปูที่นอน และปั่นผ้าซัก ตาก แจ๋วไม่รับค่าแรงเพราะทำแป้บเดียว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ นายจ้างใจดีมากแจ๋วไปทำงานไม่ครบสามชั่วโมง แต่จ่ายให้ครบเสมอ ถึงครั้งนี้ถือเป็นการไม่เอาเปรียบกัน)
เมื่อไปถึงแจ๋ว เริ่มด้วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนทุกห้อง (สามห้อง) และเริ่มทำความสะอาดบ้าน ตามปรกติ จนกระทั่งแม่บ้านกลับมา บอกแจ๋วว่า
แม่บ้าน : เพื่อนไอถามว่ายูจะไปทำความสะอาดให้ได้ไหม ไอบอกว่าไม่น่าจะอยากขับรถไปไกลกว่า 30 นาที
แจ๋ว : อยู่ที่ไหน แล้ว ชีจะจ่ายค่าแรงเท่าไร
แม่บ้าน : แมรี่แลนด์
แจ๋ว : ถ้าไม่เกิน 30 นาที ก็ไปได้ อยู่ที่ว่าชีจะจ่ายค่าแรงไอเท่าไร เพราะต้องเสียค่าน้ำมันด้วย
แม่บ้าน : ไอบอกชีไปว่า ให้มารับยู
แจ๋ว : แต่ไอสะดวกขับไปเอง แล้วยูบอกไหมว่า ไอไม่มีอะไรเลย ไปทำความสะอาดอย่างเดียว
แม่บ้าน : ไอบอกว่าชีต้องเตรียมทุกอย่างให้ยูด้วย
แจ๋ว : ไออยากดูบ้านก่อน ว่าใหญ่แค่ไหน แล้วต้องทำอะไรบ้าง พรุ่งนี้ไอสะดวก
แม่บ้าน : งั้นไอโทรหาชีเลยก็แล้วกัน
หลังจากแม่บ้านคุย แจ๋วคุยกับเพื่อนแม่บ้านเองด้วย สรุปว่า นัดไปพบกัน ไปดูบ้าน และลงมือทำเลยเนื่องจาก ขับไปไกล เกือบชั่วโมง ไม่ใช่30นาที ไปแล้วไม่เสียเวลา แจ๋วถามถึงค่าจ้าง และ บอกไปด้วยว่าไม่คิดจะเอาเปรียบ แต่ระยะทาง การเดินทาง และเหมาะทำเคยคุยกับเพื่อนที่ทำลักษณะนี้เขาได้รับค่าแรง ขั้นต่ำ 100 กรณีแจ๋วทางคนจ้างบอกมาที่ 120 ตกลงกันตามนี้ คนจ้างบอกให้รอโทรศัพท์ยืนยันอีกที เพราะต้องโทรถามน้องสาวว่าสะดวกให้ไปทำพรุ่งนี้ไหม
ผ่านไป ประมาณ สองชั่วโมงแจ๋วได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวคนจ้าง แจ้งว่าต้องขอโทษด้วยเพราะได้เซ็นสัญญาจ้างคนอื่นไปแล้ว แจ๋วตอบว่าไม่เป็นไร และไม่ต้องยกเลิก เพราะตกลงจ้างแล้วยกเลิกไม่ดี อีกอย่างแจ๋่วคิดว่าคนที่จะไปทำคงอยู่ในละแวกนั้นด้วย สะดวกกว่าแจ๋ว
แม่บ้านอีเมล์มาว่าอย่าเสียใจ ที่ตัดสินใจไม่ทำ แจ่วตอบไปว่า ไม่ได้เสียใจเลย และแจ๋วไม่ได้เป็นคนตัดสินใจไม่ทำ แต่น้องสาวของคนจ้างแจ้งมาว่าจ้างคนอื่นไปแล้วต่างหาก...
แต่วันนี้ฟ้าครึ้ม ดีแล้วล่ะที่แจ๋วไม่ได้ไปทำงาน อยู่บ้านดีกว่า ดูทีวี รีดผ้า
(ขอท้าวความย้อนเล็กน้อย...เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม่บ้านไปผ่าตัดข้อมือ เพราะชาไม่มีความรู้สีกทั้งมือ และนิ้วทั้งห้า เป็นที่เส้นเอ็น ภาษาอังกฤษเรียกว่า คาเปลเทอเนล (http://www.carpaltunnel.com/home/) แจ๋วเคยเจ็บข้อมือแล้วสันนิษฐานว่าเป็นแบบนี้ แต่ไปหาหมอแล้วไม่ใช่ รอดไป ไม่ต้องผ่าตัด..ทำให้ยังไม่สามารถทำอะไรได้สะดวก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แจ๋วไปทำงานเพิ่มนิดหน่อยเมื่อวันศุกร์ แค่พับผ้าปูที่นอน และปั่นผ้าซัก ตาก แจ๋วไม่รับค่าแรงเพราะทำแป้บเดียว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ นายจ้างใจดีมากแจ๋วไปทำงานไม่ครบสามชั่วโมง แต่จ่ายให้ครบเสมอ ถึงครั้งนี้ถือเป็นการไม่เอาเปรียบกัน)
เมื่อไปถึงแจ๋ว เริ่มด้วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนทุกห้อง (สามห้อง) และเริ่มทำความสะอาดบ้าน ตามปรกติ จนกระทั่งแม่บ้านกลับมา บอกแจ๋วว่า
แม่บ้าน : เพื่อนไอถามว่ายูจะไปทำความสะอาดให้ได้ไหม ไอบอกว่าไม่น่าจะอยากขับรถไปไกลกว่า 30 นาที
แจ๋ว : อยู่ที่ไหน แล้ว ชีจะจ่ายค่าแรงเท่าไร
แม่บ้าน : แมรี่แลนด์
แจ๋ว : ถ้าไม่เกิน 30 นาที ก็ไปได้ อยู่ที่ว่าชีจะจ่ายค่าแรงไอเท่าไร เพราะต้องเสียค่าน้ำมันด้วย
แม่บ้าน : ไอบอกชีไปว่า ให้มารับยู
แจ๋ว : แต่ไอสะดวกขับไปเอง แล้วยูบอกไหมว่า ไอไม่มีอะไรเลย ไปทำความสะอาดอย่างเดียว
แม่บ้าน : ไอบอกว่าชีต้องเตรียมทุกอย่างให้ยูด้วย
แจ๋ว : ไออยากดูบ้านก่อน ว่าใหญ่แค่ไหน แล้วต้องทำอะไรบ้าง พรุ่งนี้ไอสะดวก
แม่บ้าน : งั้นไอโทรหาชีเลยก็แล้วกัน
หลังจากแม่บ้านคุย แจ๋วคุยกับเพื่อนแม่บ้านเองด้วย สรุปว่า นัดไปพบกัน ไปดูบ้าน และลงมือทำเลยเนื่องจาก ขับไปไกล เกือบชั่วโมง ไม่ใช่30นาที ไปแล้วไม่เสียเวลา แจ๋วถามถึงค่าจ้าง และ บอกไปด้วยว่าไม่คิดจะเอาเปรียบ แต่ระยะทาง การเดินทาง และเหมาะทำเคยคุยกับเพื่อนที่ทำลักษณะนี้เขาได้รับค่าแรง ขั้นต่ำ 100 กรณีแจ๋วทางคนจ้างบอกมาที่ 120 ตกลงกันตามนี้ คนจ้างบอกให้รอโทรศัพท์ยืนยันอีกที เพราะต้องโทรถามน้องสาวว่าสะดวกให้ไปทำพรุ่งนี้ไหม
ผ่านไป ประมาณ สองชั่วโมงแจ๋วได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวคนจ้าง แจ้งว่าต้องขอโทษด้วยเพราะได้เซ็นสัญญาจ้างคนอื่นไปแล้ว แจ๋วตอบว่าไม่เป็นไร และไม่ต้องยกเลิก เพราะตกลงจ้างแล้วยกเลิกไม่ดี อีกอย่างแจ๋่วคิดว่าคนที่จะไปทำคงอยู่ในละแวกนั้นด้วย สะดวกกว่าแจ๋ว
แม่บ้านอีเมล์มาว่าอย่าเสียใจ ที่ตัดสินใจไม่ทำ แจ่วตอบไปว่า ไม่ได้เสียใจเลย และแจ๋วไม่ได้เป็นคนตัดสินใจไม่ทำ แต่น้องสาวของคนจ้างแจ้งมาว่าจ้างคนอื่นไปแล้วต่างหาก...
แต่วันนี้ฟ้าครึ้ม ดีแล้วล่ะที่แจ๋วไม่ได้ไปทำงาน อยู่บ้านดีกว่า ดูทีวี รีดผ้า
Thursday, April 26, 2012
แจ๋วแจ่มใส #31
แจ๋วลืมเล่าไปได้อย่างไรเนี่ย นีกว่าเล่าไปแล้ว มาดูอ้าว! ยังไม่ได้เล่านี่นา ..
เมื่อว้นจันทร์ที่ 23 เมย 2555... แจ๋วไปถึงบ้านทำความสะอาด แม่บ้านกำลังซักผ้าอยู่ห้องใต้ดิน แจ๋วเดินลงไปหา แม่บ้านพาไปที่ห้องน้ำลูกชาย ที่ห้องใต้ดินนั่นแหละ แล้วถามว่า ปกติเช็ดผนัง กับ ประตูกระจกด้วยอะไร แล้วมุมที่พื้นก็เป็นคราบด้วย (เสียงแม่บ้านเป็นลักษณะคุยกันไม่ได้ตำหนิ) แจ๋วตอบไปว่า ไม่ได้ล้างทุกครั้ง จะเช็ดกระจกด้วยสเปรย์ฉีดกระจกปกติ จากนั้นแม่บ้านพาขึ้นไปบนบ้าน เอาน้ำยามาให้ดูสองกระป๋อง เพิ่งซื้อมาใหม่ พร้อมกับอ่านวิธีผสม แล้วสองคนจัดการ ผสม แล้วขัด เช็ดห้องน้ำลูกชาย (ใช่แล้วแม่บ้านช่วยทำด้วย)
โอโห! แจ๋วแทบจะทนไม่ไหว น้ำยากลิ่นแรงมากๆๆ บอกได้ว่า เป็นเคมีแรง กลิ่นขนาดนี้ แม่บ้านเปิดประตูด้านหลัง และ เอาพัดลมมาเปิดดูดกลิ่นให้ เพราะพัดลมดูดกลิ่นในห้องน้ำไม่พอ ขัดไปจนเสร็จทุกที่ ปล่อยให้น้ำยาทำงาน แล้วโอ้ทลงมือทำความสะอาดอื่นๆๆตามปกติ
เมื่อทำความสะอาดอ่างล้างหน้า เช็ดกระจก โถชำระเรียบร้อย ก็จัดการเทน้ำล้างน้ำยาที่ปล่อยไว้ ดูดีขี้นมานิด แล้วเช็ดกระจกบานเลื่อนห้องอาบน้ำต่อ ใช้น้ำยาสเปรย์อีกกระป๋อง กลิ่นเหมือนจะน้อยกว่า น้ำยาล้างพื้น แต่เช็ดไปเรื่อยๆๆ ชักไม่ไหวเหมือนกัน แต่ผลอกมาคือ แม่บ้านชอบใจมาก กระจกใสแจ๋วเลย
เมื่อเสร็จจากห้องน้ำลูกชาย แจ๋วกลับขี้นไปข้างบนทำความสะอาดห้องต่างๆ ตามปกติ แต่ยังใช้น้ำยาสเปรย์เช็ดผนังขวดใหม่ แม่บ้านเข้าไปดูในห้องน้ำของพ่อบ้าน ได้กลิ่น จีงเปิดหน้าต่างให้ แจ๋วเปิดพัดลมดูดอากาศไว้แล้ว
วันนี้ใช้เวลาล้างห้องน้ำลูกชายนาน ทำให้งานอื่นๆๆยังไม่เสร็จเมื่อถึงเวลาโอ้ทต้องกลับ แม่บ้านบอกให้กลับได้ไม่มีปัญหา แต่โอ้ทอยู่ทำจนเสร็จงานวันนี้ เพราะไม่ได้รีบไปไหน แล้วอีกอย่างโอ้ทไม่ได้ไปทำงานตรงเวลาด้วย ถือเป็นการทำงานให้เสร็จของวัน เรื่องเวลาไม่คำนึง พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อว้นจันทร์ที่ 23 เมย 2555... แจ๋วไปถึงบ้านทำความสะอาด แม่บ้านกำลังซักผ้าอยู่ห้องใต้ดิน แจ๋วเดินลงไปหา แม่บ้านพาไปที่ห้องน้ำลูกชาย ที่ห้องใต้ดินนั่นแหละ แล้วถามว่า ปกติเช็ดผนัง กับ ประตูกระจกด้วยอะไร แล้วมุมที่พื้นก็เป็นคราบด้วย (เสียงแม่บ้านเป็นลักษณะคุยกันไม่ได้ตำหนิ) แจ๋วตอบไปว่า ไม่ได้ล้างทุกครั้ง จะเช็ดกระจกด้วยสเปรย์ฉีดกระจกปกติ จากนั้นแม่บ้านพาขึ้นไปบนบ้าน เอาน้ำยามาให้ดูสองกระป๋อง เพิ่งซื้อมาใหม่ พร้อมกับอ่านวิธีผสม แล้วสองคนจัดการ ผสม แล้วขัด เช็ดห้องน้ำลูกชาย (ใช่แล้วแม่บ้านช่วยทำด้วย)
โอโห! แจ๋วแทบจะทนไม่ไหว น้ำยากลิ่นแรงมากๆๆ บอกได้ว่า เป็นเคมีแรง กลิ่นขนาดนี้ แม่บ้านเปิดประตูด้านหลัง และ เอาพัดลมมาเปิดดูดกลิ่นให้ เพราะพัดลมดูดกลิ่นในห้องน้ำไม่พอ ขัดไปจนเสร็จทุกที่ ปล่อยให้น้ำยาทำงาน แล้วโอ้ทลงมือทำความสะอาดอื่นๆๆตามปกติ
เมื่อทำความสะอาดอ่างล้างหน้า เช็ดกระจก โถชำระเรียบร้อย ก็จัดการเทน้ำล้างน้ำยาที่ปล่อยไว้ ดูดีขี้นมานิด แล้วเช็ดกระจกบานเลื่อนห้องอาบน้ำต่อ ใช้น้ำยาสเปรย์อีกกระป๋อง กลิ่นเหมือนจะน้อยกว่า น้ำยาล้างพื้น แต่เช็ดไปเรื่อยๆๆ ชักไม่ไหวเหมือนกัน แต่ผลอกมาคือ แม่บ้านชอบใจมาก กระจกใสแจ๋วเลย
เมื่อเสร็จจากห้องน้ำลูกชาย แจ๋วกลับขี้นไปข้างบนทำความสะอาดห้องต่างๆ ตามปกติ แต่ยังใช้น้ำยาสเปรย์เช็ดผนังขวดใหม่ แม่บ้านเข้าไปดูในห้องน้ำของพ่อบ้าน ได้กลิ่น จีงเปิดหน้าต่างให้ แจ๋วเปิดพัดลมดูดอากาศไว้แล้ว
วันนี้ใช้เวลาล้างห้องน้ำลูกชายนาน ทำให้งานอื่นๆๆยังไม่เสร็จเมื่อถึงเวลาโอ้ทต้องกลับ แม่บ้านบอกให้กลับได้ไม่มีปัญหา แต่โอ้ทอยู่ทำจนเสร็จงานวันนี้ เพราะไม่ได้รีบไปไหน แล้วอีกอย่างโอ้ทไม่ได้ไปทำงานตรงเวลาด้วย ถือเป็นการทำงานให้เสร็จของวัน เรื่องเวลาไม่คำนึง พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
Friday, April 20, 2012
มิสเตอร์โมโหหิว
วันศุกร์ที่ 20 เมย 2555...มิสเตอร์กลับมาถึงบ้าน โอ้ทกำลังถอนหญ้า ปลูกต้นไม้ในสนามอยู่ ทักทายตามปกติ แต่ไม่เดินตามเข้าไปในบ้าน ตั้งใจว่าปลูกต้นไม้ใส่กระถางสามต้นแล้วจะเข้าไปทำสเต๊ก แต่ปรากฎว่า สักพัก(ไม่ใหญ่) มิสเตอร์เดินดุ้มๆๆ ไปที่รถ
โอ้ท : ยูจะไปไหน
มิสเตอร์ : ไปซื้ออาหารเย็น
โอ้ทหันมาปลูกต้นไม้ต่อจนเสร็จ เก็บใบไม้ที่ตัดทิ้ง แล้วรดน้ำต้นไม้ก่อนเข้าบ้าน สักสิบห้านาทีมิสเตอร์กลับมา พร้อมไก่ทอดป้อปอาย โอ้ทจัดการเสริฟน้ำเย็น และพร้อมเสนอหน้า...อิอิ
โอ้ท : ยูจะเอาชิพด้วยไหม (ขนมถุงกรอบๆๆนั่นแหละ)
มิสเตอร์ : ไม่เอา
โอ้ท: ยูโกรธไอเหรอ?
มิสเตอร์ : ไอไม่เข้าใจว่า ยูเห็นไอกลับมาแล้ว ทำไมยังปลูกต้นไม้อยู่
โอ้ท: อ้าว! ก็ไอไม่คิดว่ายูจะหิวแล้ว กินเร็วนี่นา
มิสเตอร์ : ก็ไอหิว
โอ้ท: โอเคไอผิด (เดินไปบีบไหล่) ขอโทษๆ (ทำหน้าเป็นด้วยนะเนี่ย)
มิสเตอร์: ยูจะกินไก่ด้วยไหม
โอ้ท : ไม่เป็นไร ไอหุงข้าวแล้ว (แต่เดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ แล้วขอไก่ชิ้นหนึ่ง เออ ยังไงเนี่ย)
เมื่อมิสเตอร์กินไก่ป้อปอายจนอิ่มสบายพุง เดินไปดูแผ่นหนังที่ส่งมาทางไปรษณีย์ โอ้ทเสนอหน้าตามไปอีก แล้วกอดพุงโตๆ
โอ้ท: สบายใจแล้วซิ ไอขอโทษน่ะ แล้วครั้งต่อไป ยูก็บอกไอเลยว่า ให้เข้าบ้านไปทำกับข้าว ไอหิว ไม่ใช่เดินดุ้มๆๆ ออกไปเฉยๆ
มิสเตอร์ : ยิ้ม และ ตอบ โอเค
เย็นนี้มีความผิด เลยไม่ขึ้นบ้านแปะที่หน้าคอม แต่นอนอยู่หน้าทีวี ครึ่งหลับครึ่งตื่น
โอ้ท : ยูจะไปไหน
มิสเตอร์ : ไปซื้ออาหารเย็น
โอ้ทหันมาปลูกต้นไม้ต่อจนเสร็จ เก็บใบไม้ที่ตัดทิ้ง แล้วรดน้ำต้นไม้ก่อนเข้าบ้าน สักสิบห้านาทีมิสเตอร์กลับมา พร้อมไก่ทอดป้อปอาย โอ้ทจัดการเสริฟน้ำเย็น และพร้อมเสนอหน้า...อิอิ
โอ้ท : ยูจะเอาชิพด้วยไหม (ขนมถุงกรอบๆๆนั่นแหละ)
มิสเตอร์ : ไม่เอา
โอ้ท: ยูโกรธไอเหรอ?
มิสเตอร์ : ไอไม่เข้าใจว่า ยูเห็นไอกลับมาแล้ว ทำไมยังปลูกต้นไม้อยู่
โอ้ท: อ้าว! ก็ไอไม่คิดว่ายูจะหิวแล้ว กินเร็วนี่นา
มิสเตอร์ : ก็ไอหิว
โอ้ท: โอเคไอผิด (เดินไปบีบไหล่) ขอโทษๆ (ทำหน้าเป็นด้วยนะเนี่ย)
มิสเตอร์: ยูจะกินไก่ด้วยไหม
โอ้ท : ไม่เป็นไร ไอหุงข้าวแล้ว (แต่เดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ แล้วขอไก่ชิ้นหนึ่ง เออ ยังไงเนี่ย)
เมื่อมิสเตอร์กินไก่ป้อปอายจนอิ่มสบายพุง เดินไปดูแผ่นหนังที่ส่งมาทางไปรษณีย์ โอ้ทเสนอหน้าตามไปอีก แล้วกอดพุงโตๆ
โอ้ท: สบายใจแล้วซิ ไอขอโทษน่ะ แล้วครั้งต่อไป ยูก็บอกไอเลยว่า ให้เข้าบ้านไปทำกับข้าว ไอหิว ไม่ใช่เดินดุ้มๆๆ ออกไปเฉยๆ
มิสเตอร์ : ยิ้ม และ ตอบ โอเค
เย็นนี้มีความผิด เลยไม่ขึ้นบ้านแปะที่หน้าคอม แต่นอนอยู่หน้าทีวี ครึ่งหลับครึ่งตื่น
Wednesday, February 29, 2012
เศร้า 🥲
คืนนี้มีน้องคนหนึ่ง เพิ่งมาจากไทย เช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ มาขอใช้อินเตอร์เนต เพราะที่บ้านเช่ายังไม่มี หลังจากนั้นได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า ดีใจที่โอ้ทจะมีเพื่อนใหม่ อยู่ใกล้บ้าน เพราะตัวกำลังจะย้าย...แง
เล่าให้มิสเตอร์ฟัง น้ำตาแทบไหล มิสเตอร์บอกให้หาเพื่อนใหม่ แต่เพื่อนดี ๆ ที่คุยกันเข้าใจ หาไม่ง่ายเลย ยิ่งคนไทยด้วย มีอยู่น้อย ที่มีอีกคนก็ไกลกัน
แต่ทุกคนมีภาระ หน้าที่ โอ้ทขอให้เพื่อนประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าทำแล้วดีต่อตัวเพื่อนเองสนับสนุน
เฮ้อ! เศร้า ๆ น้ำตาคลอเลย
เล่าให้มิสเตอร์ฟัง น้ำตาแทบไหล มิสเตอร์บอกให้หาเพื่อนใหม่ แต่เพื่อนดี ๆ ที่คุยกันเข้าใจ หาไม่ง่ายเลย ยิ่งคนไทยด้วย มีอยู่น้อย ที่มีอีกคนก็ไกลกัน
แต่ทุกคนมีภาระ หน้าที่ โอ้ทขอให้เพื่อนประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าทำแล้วดีต่อตัวเพื่อนเองสนับสนุน
เฮ้อ! เศร้า ๆ น้ำตาคลอเลย
Friday, February 24, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 30
23 กุมภาพันธ์ 2555... ไปทำงานอีกวันในสัปดาห์นี้ ถามแม่บ้านถึงเชือกผูกรองเท้า แม่บ้านตอบมาว่าขอบใจที่เตือน เพราะต้องไปซื้อใหม่ ซื้อมาแล้วสายเล็กไป แล้วไม่เป็นไร พ่อบ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร
แจ๋วทำงานตามปกติ กระทั่งหยิบเครื่องดูดฝุ่นมาใช้ อ้าว! ทำไมไม่ดูดล่ะ มีแต่เสียง แม่บ้านเดินมาถามว่าเครื่องดูดฝุ่นมีปัญหาเหรอ โอ้ทบอกไป แม่บ้านบอกว่าปิด แล้วกดปุ่มแดง รีเซท ก็ใช้ได้แล้วล่ะ ทุกครั้งถ้ามีอะไรติด แล้วเครื่องไม่ดูดให้กดปุ่มนี้ จากนั้นแม่บ้านลงมือทำอาหาร แจ๋วก้มหน้าก้มตาดูดฝุ่น
แม่บ้าน: ไอต้องซื้อเครื่องดูดฝุ่นใหม่แล้วเน่อะ
แจ๋ว : ยังใช้ได้อยู่เลยนะ แต่ไอรู้สีกไม่ดีเลย เหมือนไอจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นยูเสีย
แม่บ้าน : ไม่ใช่ ยูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เครื่องดูดฝุ่นเก่ามากแล้ว วันนี้ไอเจอเครื่องดูด
ฝุ่นลดราคา จะถามพ่อบ้านก่อนว่าซื้อใหม่ดีไหม
วันนี้แม่บ้านถามถึงภาษีว่า มิสเตอร์กับโอ้ทได้รับเอกสารหรือยัง แม่บ้านบอกว่าของตัวเองได้แล้ว โอ้ทสงสัยว่าทำไมแม่บ้านเกษียณแล้วไม่มีรายได้ยังต้องเสียอีกเหรอ
แม่บ้านให้ข้อมูลว่า : ไอเป็นครูเกษียณ ได้รับเงินทุกเดือน แล้วถูกหักภาษีจากเงินที่ได้รับนั่นแหละะ แต่ดีตรงที่รัฐจ่ายค่าประกันสุขภาพให้
เป็นข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า เกษียณแล้ว ยังต้องถูกหักภาษีเงินบำเน็จด้วย
แจ๋วทำงานตามปกติ กระทั่งหยิบเครื่องดูดฝุ่นมาใช้ อ้าว! ทำไมไม่ดูดล่ะ มีแต่เสียง แม่บ้านเดินมาถามว่าเครื่องดูดฝุ่นมีปัญหาเหรอ โอ้ทบอกไป แม่บ้านบอกว่าปิด แล้วกดปุ่มแดง รีเซท ก็ใช้ได้แล้วล่ะ ทุกครั้งถ้ามีอะไรติด แล้วเครื่องไม่ดูดให้กดปุ่มนี้ จากนั้นแม่บ้านลงมือทำอาหาร แจ๋วก้มหน้าก้มตาดูดฝุ่น
แม่บ้าน: ไอต้องซื้อเครื่องดูดฝุ่นใหม่แล้วเน่อะ
แจ๋ว : ยังใช้ได้อยู่เลยนะ แต่ไอรู้สีกไม่ดีเลย เหมือนไอจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นยูเสีย
แม่บ้าน : ไม่ใช่ ยูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เครื่องดูดฝุ่นเก่ามากแล้ว วันนี้ไอเจอเครื่องดูด
ฝุ่นลดราคา จะถามพ่อบ้านก่อนว่าซื้อใหม่ดีไหม
วันนี้แม่บ้านถามถึงภาษีว่า มิสเตอร์กับโอ้ทได้รับเอกสารหรือยัง แม่บ้านบอกว่าของตัวเองได้แล้ว โอ้ทสงสัยว่าทำไมแม่บ้านเกษียณแล้วไม่มีรายได้ยังต้องเสียอีกเหรอ
แม่บ้านให้ข้อมูลว่า : ไอเป็นครูเกษียณ ได้รับเงินทุกเดือน แล้วถูกหักภาษีจากเงินที่ได้รับนั่นแหละะ แต่ดีตรงที่รัฐจ่ายค่าประกันสุขภาพให้
เป็นข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า เกษียณแล้ว ยังต้องถูกหักภาษีเงินบำเน็จด้วย
แจ๋วแจ่มใส # 28
9 กุมภาพันธ์ 2555...วันนี้แจ๋วไปทำงานตามปกติ แต่ไม่อยากไปเลยเพราะหิมะตกเมื่อคืน เช้านี้หนาวมาก เพราะหิมะกลายเป็นน้ำแข็ง อุณหภูมิ 30 ฟาเรนไฮต์ ก่อนออกจากบ้านต้องสตาร์ทรถ เปิดความร้อนให้น้ำแข็งที่เกาะกระจกหน้า-หลัง ละลาย ปัดออกซะก่อน ระหว่างปัดก็ร้อง อูยๆๆ ไปด้วย ก็หนาวๆๆๆ
ไปถึงบ้านทำงาน แม่บ้านกำลังทำอาหารง่วนอยู่ในครัว และบอกว่าจะทำความสะอาดห้องครัวให้ด้วย เพราะช่างมาซ่อมเครื่องล้างจาน น้ำไหล เลอะเทอะ
แจ๋วเริ่มงานด้วยการเดินสำรวจห้องต่างๆ มีขยะไหม ต้องเช็ดกระจก เช็ดอ่างล้างหน้า ล้างโถชักโครก และเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าน่าจะจัดระเบียบได้หรือยัง
วันนี้เห็นสภาพชั้นเสื้อ กางเกงตู้พ่อบ้าน เกือบจะโค่นแล้ว แจ๋วเดินไปบอกแม่บ้านในครัว ว่า ต้องการจัดชั้นเสื้อและต้องการแม่บ้านมาช่วยด้วย เพราะโอ้ทเอื้อมไม่ถึง จะเมื่อไรก็ได้ สรุปว่า แม่บ้านลงมือ รื้อลงมากองบนเตียง ในขณะที่โอ้ทยังทำงานบ้านปกติไม่เสร็จ
แม่บ้านให้แจ๋วพับเสื้อ ให้ดูเป็นตัวอย่าง แจ๋วตอบไปว่า พับตามวิธียูเลย ง่ายดีเพราะยูพับแบบไอไม่ได้ (แม่บ้านเป็นคนบอกเองว่าพับไม่เหมือน) ระหว่างนั้น โอ้ทขอไปทำงานบ้านต่อให้เสร็จ แล้วจะกลับมาช่วย โอ้ทเข้ามาในห้องที่แม่บ้านพับผ้าอยู่หลังจากเหลือ ดูดฝุ่น กับ เช็ดน้ำมันที่พื้น แม่บ้านพับ และ จัดบนชั้นเรียบร้อย เกือบเสร็จ หันมาบอกแจ๋วว่า ไม่เป็นไร ยูไปทำงานต่อให้เสร็จ ไอทำได้
สรุปว่า แม่บ้าน จัดการพับ และจัดเสื้อผ้า เข้าที่ด้วยตัวเอง ทำเหมือนตอนที่โอ้ทจัดให้ครั้งแรกด้วย เป็นตั้งเรียบร้อยขึ้น
ไปถึงบ้านทำงาน แม่บ้านกำลังทำอาหารง่วนอยู่ในครัว และบอกว่าจะทำความสะอาดห้องครัวให้ด้วย เพราะช่างมาซ่อมเครื่องล้างจาน น้ำไหล เลอะเทอะ
แจ๋วเริ่มงานด้วยการเดินสำรวจห้องต่างๆ มีขยะไหม ต้องเช็ดกระจก เช็ดอ่างล้างหน้า ล้างโถชักโครก และเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าน่าจะจัดระเบียบได้หรือยัง
วันนี้เห็นสภาพชั้นเสื้อ กางเกงตู้พ่อบ้าน เกือบจะโค่นแล้ว แจ๋วเดินไปบอกแม่บ้านในครัว ว่า ต้องการจัดชั้นเสื้อและต้องการแม่บ้านมาช่วยด้วย เพราะโอ้ทเอื้อมไม่ถึง จะเมื่อไรก็ได้ สรุปว่า แม่บ้านลงมือ รื้อลงมากองบนเตียง ในขณะที่โอ้ทยังทำงานบ้านปกติไม่เสร็จ
แม่บ้านให้แจ๋วพับเสื้อ ให้ดูเป็นตัวอย่าง แจ๋วตอบไปว่า พับตามวิธียูเลย ง่ายดีเพราะยูพับแบบไอไม่ได้ (แม่บ้านเป็นคนบอกเองว่าพับไม่เหมือน) ระหว่างนั้น โอ้ทขอไปทำงานบ้านต่อให้เสร็จ แล้วจะกลับมาช่วย โอ้ทเข้ามาในห้องที่แม่บ้านพับผ้าอยู่หลังจากเหลือ ดูดฝุ่น กับ เช็ดน้ำมันที่พื้น แม่บ้านพับ และ จัดบนชั้นเรียบร้อย เกือบเสร็จ หันมาบอกแจ๋วว่า ไม่เป็นไร ยูไปทำงานต่อให้เสร็จ ไอทำได้
สรุปว่า แม่บ้าน จัดการพับ และจัดเสื้อผ้า เข้าที่ด้วยตัวเอง ทำเหมือนตอนที่โอ้ทจัดให้ครั้งแรกด้วย เป็นตั้งเรียบร้อยขึ้น
แจ๋วแจ่มใส # 29
18 กุมภาพันธ์ 2555... สัปดาห์นี้แจ๋วทำงานวันอังคาร แทนวันจันทร์ เนื่องด้วยวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ (มิสเตอร์ไม่หยุด) ทุกคนที่บ้านที่ทำงาน อยู่ครบ ไปทำงานคงเกะกะ อยู่ในพื้นที่จึงสับเปลี่ยนวัน
ไปทำงานไม่มีอะไรผิดแผกไปจากปกติ นอกจากวันนี้แจ๋วดันดูดเชือกผูกรองเท้าของ พ่อบ้านเข้าไปติดอยู่ในเครื่องดูดฝุ่น พยายามดึงออกให้ออกมาในสภาพดี แว่กๆๆ ขาดๆๆ แถมมีเชือกติดอยู่ในล้อหมุนตรงช่องดูดฝุ่นด้วย ทำไงล่ะทีนี้? จัดแจงหยิบกรรไกรปลายแหลม งัด แงะๆๆ กว่าเชือกจะหลุดออกมาได้ นีกว่าต้องได้เลือดเพราะปลายกรรไกรทิ่มซะแล้ว
หลังจากเสร็จภาระกิจ จัดการเขียนจดหมายน้อย พร้อมหลักฐาน รองเท้า และเชือกข้างที่ขาดวางไว้ในห้องนอนแม่บ้าน เพราะ ขณะนั้นไม่มีใครอยู่ บอกไปว่าจะหักเงินก็ได้นะ และขอโทษที่ดูดเชือกรองเท้าขาดแบบนี้
พ่อบ้านจะวางรองเท้าไว้ใต้ตู้เป็นประจำ แจ๋วก็ระวังแล้วนะ แต่วันนี้ ไม่ทัน คิดช้าไปนิด
ไปทำงานไม่มีอะไรผิดแผกไปจากปกติ นอกจากวันนี้แจ๋วดันดูดเชือกผูกรองเท้าของ พ่อบ้านเข้าไปติดอยู่ในเครื่องดูดฝุ่น พยายามดึงออกให้ออกมาในสภาพดี แว่กๆๆ ขาดๆๆ แถมมีเชือกติดอยู่ในล้อหมุนตรงช่องดูดฝุ่นด้วย ทำไงล่ะทีนี้? จัดแจงหยิบกรรไกรปลายแหลม งัด แงะๆๆ กว่าเชือกจะหลุดออกมาได้ นีกว่าต้องได้เลือดเพราะปลายกรรไกรทิ่มซะแล้ว
หลังจากเสร็จภาระกิจ จัดการเขียนจดหมายน้อย พร้อมหลักฐาน รองเท้า และเชือกข้างที่ขาดวางไว้ในห้องนอนแม่บ้าน เพราะ ขณะนั้นไม่มีใครอยู่ บอกไปว่าจะหักเงินก็ได้นะ และขอโทษที่ดูดเชือกรองเท้าขาดแบบนี้
พ่อบ้านจะวางรองเท้าไว้ใต้ตู้เป็นประจำ แจ๋วก็ระวังแล้วนะ แต่วันนี้ ไม่ทัน คิดช้าไปนิด
เสบียงแจ๋วจ้า
Saturday, February 18, 2012
นักเรียนกิตติมศักดิ์
18 กุมภาพันธ์ 2555... วันนี้สอนมิสเตอร์ถ่ายรูป นีกว่าจะไม่ถ่ายให้ แต่ถ่ายตั้งหลายภาพแนะ มาดูกันว่าผลงานเป็นอย่างไร
ใช้กล้องตัวนี้ Pentax Optio W90 คอมแพคธรรมดา กันน้ำ เป็นกล้องอัตโนมัติ มีโหมดที่ปรับค่าได้คือ P แต่ปรับได้เฉพาะ ไอเอสโอ กับ ไวท์บาลานซ์ ภาพนี้ถ่ายไว้ตั้งแต่วันที่ได้กล้องมาวันแรก เทียบขนาดเท่าโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่า ประมาณ 2 ปีแล้วล่ะ
ใช้กล้องตัวนี้ Pentax Optio W90 คอมแพคธรรมดา กันน้ำ เป็นกล้องอัตโนมัติ มีโหมดที่ปรับค่าได้คือ P แต่ปรับได้เฉพาะ ไอเอสโอ กับ ไวท์บาลานซ์ ภาพนี้ถ่ายไว้ตั้งแต่วันที่ได้กล้องมาวันแรก เทียบขนาดเท่าโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่า ประมาณ 2 ปีแล้วล่ะ
ภาพแรกที่มิสเตอร์ถ่าย...พื้นที่รอบข้างมากไปนิด โอ้ทอยากได้ภาพแนวตั้ง
ภาพนี้โอ้ทถ่ายก่อนให้มิสเตอร์ถ่าย เอาให้มิสเตอร์ดู แล้วบอกให้เหลือพื้นที่ด้านข้างน้อยกว่าภาพแรก โอ้ทเก็บแขนมิสเตอร์ไม่หมด เพราะมัวแต่มองภาพบนผนัง
มิสเตอร์ถ่าย แขนด้านขวา(มองในภาพ) ขาดไป
มิสเตอร์ถ่ายอีก ได้เต็มส่วนต่างๆๆของร่างกายครบ แต่อยากได้แก้วน้ำ อีกแก้ว เต็มใบ
มิสเตอร์ถ่ายอีก...ได้แก้วน้ำเต็มใบ แต่หลอดขาด โอ้ทบอก โฟกัสที่หน้า เก็บแก้วให้เต็ม เห็นหลอดเต็มด้วย แล้วเผื่อรอบภาพทั้งสี่ด้าน สร้างกรอบให้ภาพ
มิสเตอร์ถ่ายอีก...ผลจากที่บอกไป ออกมาแบบนี้
เก่งที่สุดเลย...^@^ และโชคดีที่โอ้ทไม่โดนดุ ให้ถ่ายรูปซะหลายรูปแนะ...อิอิ
Tuesday, February 14, 2012
เรียนภาษาอังกฤษฟรี #3
14 กุมภาพันธ์ 2555
ในที่สุดก็ได้เรียน ชอบมากๆๆ วิธีการสอนของครู ข้อมูลที่ครูเตรียมมาสอนในห้อง ครูเป็นกันเอง ทำให้บรรยากาศในห้องไม่กดดัน เพื่อนๆๆทุกคนคุยสนุก ทุกคนเรียนกันหลายปี อยู่อเมริกากันมากกว่าโอ้ททั้งนั้น สิบกว่าปีก็มีหลายคน
นักเรียนในห้องนี้มีอยู่ร่วม สิบคนได้ ส่วนมากพูดภาษาสเปน มาจากโคลัมเบีย เปรู แต่ละคนมีความรู้แตกต่างกันไป ปัญหาที่สังเกตได้คือทุกคนมีประสบการณ์ รู้อะไรมากมายจากการอยู่ที่นี่หลายปี แต่พูดภาษาอังกฤษไม่คล่องเนื่องจากอยู่บ้านไม่พูด
การสอนของครูมีหลายอย่าง ทั้งคำศัพท์ มีหนังสือให้อ่าน คำเปรียบเทียบต่างๆๆ มีการบ้านให้ฝีกเขียน ครูบอกเราว่า ทุกสัปดาห์ต้องส่งผลงานนักเรียนไปที่สำนักงานประเมิณ ดูการพัฒนา และท้ายที่สุดทางสำนักงานส่งเจ้าหน้าที่มาสอบพวกเราด้วยปากเปล่า อ่านคำถามแล้วให้เราตอบเป็นการประเมิณความเข้าใจ และการสนทนา
ในระหว่างปี ทางสำนักงานกลางมีงานสังสรรค์รวมกลุ่มทุกกลุ่มย่อย ที่แยกออกไปตามเมืองต่างๆ ทั้งนักเรียนด้วย มีการมอบรางวัลเวลาเรียนตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด มอบรางวัลเวลาการสอนตามกำหนดของครู มอบรางวัลอื่นๆๆ อีกหลายรางวัล
ปีแรก โอ้ทได้รับไปรษณีย์บัตรเวลาเรียนตามกำหนดด้วย เพื่อนๆๆ งง กันเลย เพราะเรียนกันมาหลายปีไม่เคยได้ โอ้ทมาครั้งแรกได้รับแล้ว ปีที่สองโอ้ทไปไม่ถึงเพราะหลงทาง
ในระยะเวลาที่เรียนในกลุ่มนี้ โอ้ทพาเพื่อนที่มาจากไทยที่มาทำงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้บ้านไปเรียนด้วย ครูยินดีมากๆ ทุกครั้งที่พาเพื่อนไปเรียน โอ้ทเจอเพื่อนๆ ของเพื่อน คุยกันถึงหาที่เรียนภาษาอังกฤษจะแนะนำให้มาลองเรียนด้วยกันอยู่ประจำ แต่ก็ไปกันได้ระยะเวลาสั้นแล้วก็หายไป
โอ้ทใช้เวลาเรียนกับกลุ่มนี้ราวสองปี ทางสำนักงานประเมิณผล ส่งใบประกาศนียบัตร แจ้งจบหลักสูตรภาษาอังกฤษเบื้องต้น แต่ยังคงให้เข้าเรียนได้ต่อไป ยกเว้นไม่มีการส่งผลงาน หรือ เช็คเวลา เช็คคะแนนของโอ้ทอีก เพราะเป็นนักเรียนนอกสังกัดไปแล้ว
โอ้ทได้มีโอกาส ไปพูดประสบการณ์ การเรียนเป็นกลุ่ม ดีกว่า การเรียน ตัวต่อตัว (ครูหนี่ง นักเรียนหนี่ง) กับครู และได้พาเพื่อนคนไทยไปด้วยกัน ในวันนั้นได้ฝากความต้องการไว้กับครูทุกคนที่ร่วมสัมนาครั้งนั้นด้วยว่า ถ้ามีเปิดสอนใกล้ๆๆบ้าน และวันไม่ตรงกับกลุ่มที่เรียนอยู่ปัจจุบัน ขอเรียนด้วย และที่สำคัญโอ้ทแจ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานจัดการสอนไว้
ไม่นานนัก จำไม่ได้ว่า หนี่งหรือสองเดือน มีโทรศัพท์มาแจ้งว่ากำลังจะเปิดกลุ่มการอ่านที่ห้องสมุดใกล้บ้าน กลุ่มนี้ค่อนข้างยาก เป็นระดับสูงขึ้น รับนักเรียน หก คนเท่านั้น ถ้าสนใจจะนับโอ้ทเข้าไปด้วย รีบตอบตกลงทันที และบังเอิญครูที่สอนเป็นครูที่เคยเข้าไปดูการเรียนการสอนในห้องภาษาอังกฤษเบื้องต้น
ปัจจุบันนี้เรียนกับกลุ่มการอ่านอยู่เกือบปีแล้ว ได้ความรู้ที่แตกต่างจากกลุ่มภาษาอังกฤษเบื้องต้น ในขณะที่กลุ่มภาษาอังกฤษเบื้องต้นเรียนอย่างช้าๆๆ สบายๆๆ แต่มีคำศัพท์ คำเปรียบเทียบ (idioms) ใหม่ๆๆ มาเรียนทุกวัน มีการสนทนาทุกวัน
กลุ่มการอ่านก็ได้ความรู้เรื่องการจับใจความ เข้าใจมากขี้น ได้ศัพท์ยากๆๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่จำไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
ชอบเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันทั้งสองกลุ่ม ทุกคนตั้งใจเรียน ตั้งใจทำการบ้าน หาความหมายของศัพท์ ถามคำถามในห้อง ทำให้นักเรียนขี้เกียจอย่างโอ้ทได้ความรู้ใหม่ๆ ทุกครั้งที่ไปเรียน โอ้ทยังคงเรียนสบายๆๆ ไม่ต้องการกดดันตัวเอง เพราะเรียนเพื่อให้รู้ภาษาอังกฤษที่ใช้ทุกวัน ไม่ได้เรียนเพื่อเรียนต่อ คำศัพท์ยากๆๆ ที่ใช้ไม่บ่อย ไม่ได้สนใจจำ และหาความหมาย แต่ชอบฟังคนสนทนา และจำการพูด คำที่ใช้สนทนาทั่วไป เป็นปรกติมากกว่า
คิดกลับหากโอ้ทเรียนในวิทยาลัย คงต้องบังคับตัวเองให้เข้มงวด และขวนขวายมากกว่านี้ เพราะไม่เช่นนั้นคงตามเพื่อนๆๆ ไม่ทัน จะรู้น้อยกว่าคนอื่นๆๆ และต้องเสียเวลา เสียทรัพย์ด้วยกว่าจะเรียนจบ คิดแบบนี้แล้ว ขอเรียนสบายๆๆ ไม่กดดันตัวเองแบบนี้ไปเรื่อยๆๆดีกว่า
เพื่อนๆที่ เข้มงวด ขยัน เรียนด้วยกันก็ดีสำหรับเพื่อน และตัวโอ้ทเอง เพราะเพื่อนได้ความรู้ จากคำถาม และการค้นคว้า โอ้ทก็ได้ความรู้จากการฟัง แต่ไม่ค้นคว้า...อิอิ
เรียนภาษาอังกฤษีฟรี # 1
เรียนภาษาอังกฤษฟรี # 2
Friday, February 10, 2012
ต้มยำไก่แบบ"โอ้ท"
อยากกินต้มยำไก่ ทำไงๆๆ ทำแบบนี้ล่ะ เท่านี้ก็อร่อยที่สุดแล้ว
เรียงลำดับผิดไปนิดนึง ขออภัยจ้า
พูดไป ต้มยำไก่ ต้มข่าไก่ มั่วๆๆ ชะมัด
เรียงลำดับผิดไปนิดนึง ขออภัยจ้า
พูดไป ต้มยำไก่ ต้มข่าไก่ มั่วๆๆ ชะมัด
ปลาเทร้าหมักซีอิ้ว แบบ"โอ้ท"
อยากกินปลา แต่ไม่รู้จักประเภทของปลา อยู่ไทยก็รู้แต่ชื่อ หน้าตาเป็นอย่างไรไม่รู้ ไปตลาดถ้าแม่ค้าไม่มีป้ายบอกก็ไม่รู้ว่าปลาอะไรบ้าง ร้านอาหารก็สั่งตามเมนู ปลาอะไรก็ตามนั้น โอ้ทกินแต่ปลาทอดกรอบๆๆ อยู่ต่างบ้านทอดกินสอง สามครั้ง แต่ไม่เหมือนร้าน กลัวน้ำมันอีกด้วย ปลาที่กินต้องถามเพื่อนว่าปลาอะไรดี ปลาในวิดิโอนี้ก็ไม่พ้นถามเพื่อนก่อนซื้อ
Tuesday, February 7, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 27
6 มกราคม 2555... ลืมตา มองนาฬิกา ตี 3 มิสเตอร์ยังคงกรนอยู่ข้างๆๆ หลับต่อ
ลืมตาอีกรอบ มองนาฬิกา 10 โมง มิสเตอร์ลุกไปแล้ว ดูทีวีอยู่ข้างล่างมั้ง (นีกในใจ) หลับต่อดีกว่า
ลืมตาอีกรอบ มองนาฬิกา 11.30 โมง ลุกดีกว่า เก็บที่นอน เปิดม่าน รถมิสเตอร์ไม่อยู่ สงสัยออกไปซื้อของกิน เดี๋ยวต้องกลับมามีเบอร์เกอร์ มาด้วยแน่ๆๆเลย ว่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองเรียบร้อย
ลงมาข้างล่าง มองนาฬิกา 12.30 โมง เอะ ทำไมเป็นชั่วโมง มิสเตอร์ยังไม่กลับมา ไม่โทรเข้าบ้านอีก ไปไหนเนี่ย (นีกๆๆๆ) ไม่รีรอ กดเบอร์มือถือ
มิสเตอร์ : ฮัลโหล
โอ้ท : ยู อยู่ที่ไหน
มิสเตอร์: ที่ทำงาน
โอ้ท : !##! อ้าว วันนี้วันจันทร์เหรอ ไอนีกว่าวันอาทิตย์ เท่านี้นะ ไอต้องไปทำงานเหมือนกัน
แล้วแจ๋วก็จรลี ณ บัดนาว ไม่มีเวลาหม่ำ ซีเรียลด้วย ทำงานไป ท้องร้องจ๊อกๆๆๆ ไป
ไปถึงเล่าให้นายจ้างฟัง นายจ้างบอกว่าครั้งหนึ่ง พ่อบ้านบอกมีประชุมไม่กลับ แม่บ้านลืม ทำอาหาร เตรียมอาหารไว้ แต่พ่อบ้านก็ไม่กลับสักที โมโห โทรไปถาม พ่อบ้านบอกว่า ก็บอกแล้ววันนี้มีประชุมไม่กลับบ้านไง...^__^
ปล. ดีนะที่เช้านี้ งดเรียนภาษาหนึ่งวัน ไม่เช่นนั้น ขาดเรียนๆๆๆๆ
ลืมตาอีกรอบ มองนาฬิกา 10 โมง มิสเตอร์ลุกไปแล้ว ดูทีวีอยู่ข้างล่างมั้ง (นีกในใจ) หลับต่อดีกว่า
ลืมตาอีกรอบ มองนาฬิกา 11.30 โมง ลุกดีกว่า เก็บที่นอน เปิดม่าน รถมิสเตอร์ไม่อยู่ สงสัยออกไปซื้อของกิน เดี๋ยวต้องกลับมามีเบอร์เกอร์ มาด้วยแน่ๆๆเลย ว่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองเรียบร้อย
ลงมาข้างล่าง มองนาฬิกา 12.30 โมง เอะ ทำไมเป็นชั่วโมง มิสเตอร์ยังไม่กลับมา ไม่โทรเข้าบ้านอีก ไปไหนเนี่ย (นีกๆๆๆ) ไม่รีรอ กดเบอร์มือถือ
มิสเตอร์ : ฮัลโหล
โอ้ท : ยู อยู่ที่ไหน
มิสเตอร์: ที่ทำงาน
โอ้ท : !##! อ้าว วันนี้วันจันทร์เหรอ ไอนีกว่าวันอาทิตย์ เท่านี้นะ ไอต้องไปทำงานเหมือนกัน
แล้วแจ๋วก็จรลี ณ บัดนาว ไม่มีเวลาหม่ำ ซีเรียลด้วย ทำงานไป ท้องร้องจ๊อกๆๆๆ ไป
ไปถึงเล่าให้นายจ้างฟัง นายจ้างบอกว่าครั้งหนึ่ง พ่อบ้านบอกมีประชุมไม่กลับ แม่บ้านลืม ทำอาหาร เตรียมอาหารไว้ แต่พ่อบ้านก็ไม่กลับสักที โมโห โทรไปถาม พ่อบ้านบอกว่า ก็บอกแล้ววันนี้มีประชุมไม่กลับบ้านไง...^__^
ปล. ดีนะที่เช้านี้ งดเรียนภาษาหนึ่งวัน ไม่เช่นนั้น ขาดเรียนๆๆๆๆ
Friday, February 3, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 25
30 ม.ค 2555...
แม่บ้านซื้อเตียงใหม่ให้พ่อบ้านเป็นเตียงมีลิ้นชักสี่ลิ้นชัก จัดการเสื้อผ้าที่กองชนเพดานย้ายมาใส่ไว้เรียบร้อย มีบางส่วนบนชั้น โอ้ทจัดก่อนกลับวันนี้ และจัดการต่อวันพฤหัส ต้องจัดระเบียบในลิ้นชักใหม่ด้วย
ภาพหลังจัด ก่อนจัดนึกถึงเสื้อผ้าที่กองทับกันนั่นแหละ ไม่เน้นพับให้เรียบกริบ แค่เรียงเป็นระเบียบทุกคนก็พอใจแล้ว ตอนทำวันแรกๆๆ โอ้ทพับจับให้ชายเสื้อ กางเกงเท่ากัน แต่หลังจากนั้นทำอีกไม่ไหว เพราะ สมาชิกในบ้านพับกันไม่เป็น สุดท้ายโอ้ทเป็นฝ่ายพับตามแบบสมาชิกในบ้านอีกง่ายต่อสมาชิก เพียงแต่จัดวางให้เรียบร้อย เสื้อผ้าพ่อบ้านเยอะมากกก ที่เห็นในภาพเพียงเสี้ยวเท่านั้น
ไปซื้อกับข้าวหลังจากปฎิบัติหน้าที่วันนี้ ซื้อน้อย เพราะซื้อไปแล้วครั้งหนึ่ง
Monday, January 30, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 24
26 ม.ค 2555...วันนี้อากาศไม่เย็นมาก อุณหภูมิ 40 กว่านิดๆๆ แจ๋วไปทำงานปกติ ไปถึงบ้านไม่มีใครอยู่บ้าน แจ๋วเริ่มด้วยเช็ดเคาน์เตอร์ในครัว เช็ดโต๊ะกินข้าว บนเคาน์เตอร์มีเค๊กน่าหม่ำๆๆ วางอยู่คู่หนังสือเปิดหน้าสูตรเค๊กเหมือนเค๊กบนเคาน์เตอร์เลยล่ะ เดาว่าแม่บ้านคงทำ เพราะแม่บ้านชอบทำขนมบ่อยๆๆ จากนั้นเดินสำรวจห้องน้ำ ห้องนอน เก็บขยะ และเริ่มทำความสะอาดตามปกติ ลงไปดูผ้าซัก แต่ผ้ามีน้อยไม่ต้องซัก
แจ๋วสร้างภาพไว้สองภาพ
ไม่นานได้ยินเสียงสัญญาณประตู มีคนกลับมาบ้านแล้ว แม่บ้านนั่นเอง ทักทายกันเล็กน้อย ในขณะ ที่แจ๋วยังคงปฎิบัติหน้าที่ต่อไป วันนี้เปิดลิ้นชักถุงเท้า กางเกง เสื้อ ในห้องสามีแม่บ้านจัดการจัดระเบียบเล็กน้อยเพราะ ยุ่งเหยิงแล้ว
เมื่อเสร็จภาระกิจก่อนกลับแม่บ้านให้ตัดเค๊กชิม อร่อยๆๆๆ
แจ๋วสร้างภาพไว้สองภาพ
ไม่นานได้ยินเสียงสัญญาณประตู มีคนกลับมาบ้านแล้ว แม่บ้านนั่นเอง ทักทายกันเล็กน้อย ในขณะ ที่แจ๋วยังคงปฎิบัติหน้าที่ต่อไป วันนี้เปิดลิ้นชักถุงเท้า กางเกง เสื้อ ในห้องสามีแม่บ้านจัดการจัดระเบียบเล็กน้อยเพราะ ยุ่งเหยิงแล้ว
เมื่อเสร็จภาระกิจก่อนกลับแม่บ้านให้ตัดเค๊กชิม อร่อยๆๆๆ
เย็นนี้แจ๋วทำจานนี้ให้มิสเตอร์ที่บ้านตัวเอง
และนี่ของแจ๋ว
โตะ จาย โมะ...
30 ม.ค 2555...หลังเลิกงานมุ่งหน้าไปซื้อกับข้าวก่อนกลับบ้าน จอดรถแล้วโทรหา ดร.บิ๋ม ชวนมาหม่ำบุฟเฟต์อาหารจีน แต่ ดร. ไม่รับโทรศัพท์จีงฝากข้อความไว้ และนั่งดูวิดิโอในโทรศัพท์มือถือที่อัดวันนี้ในรถก่อนสักพัก ในขณะที่กำลังดูวิดิโออยู่ มีสายเข้าแทรกมา เบอร์ไม่คุ้นเลย แต่คิดว่า ดร.โทรมาโดยใช้คอมพิวเตอร์รีบรับทันที
โอ้ท: ฮา โหล
ปลายสาย : ภาวินีหรือเปล่า
โอ้ท : (งงที่ปลายสายพูดภาษาไทยมา เพราะเรียกชื่อเต็ม ไม่ใช่เพื่อนแน่ๆ) ใช่ค่ะ
ปลายสาย : ทำพาสปอร์ตใหม่หรือยัง
โอ้ท : (ตกใจซิ ถามเรื่องพาสปอร์ตแบบนี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเนี่ย) ทำแล้วค่ะ
โทรมา จากไหนค่ะ
ปลายสาย: สถานฑูต
โอ้ท : (ตายละหว่า ทำอะไรผิดหรือเปล่าวะเนี่ย ได้ยินว่าสถานฑูตยิ่งตกใจมากขึ้น)
ปลายสาย : ขอเลขที่พาสปอร์ตใหม่
โอ้ท : ตอนนี้อยู่ข้างนอก พาสปอร์ตอยู่ที่บ้าน จำไม่ได้ค่ะ มีปัญหาอะไรเหรอค่ะ
ปลายสาย : อ่อ เรื่องเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ยื่นไว้น่ะ ตอนนี้ทางสถานฑูตกำลัง
ดำเนินการ
โอ้ท : ( โล่งใจ ที่สุดเลย นีกว่าทำอะไรผิดซะแล้ว)
ปลายสาย : ไม่เป็นไร มีเบอร์ญาติที่ไทยไหม ที่ติดต่อได้สะดวก
โอ้ท : เบอร์มือถือพ่อนะค่ะ.........(บอกเบอร์ไป)
ปลายสาย : งั้นเลขพาสปอร์ตไม่เอาก็ได้ มีคนติดต่อได้ที่ไทยแล้ว
โอ้ท : เลขพาสปอร์ตน่าจะเหมือนกันไหมค่ะ เพราะเปลี่ยนเล่ม ข้อมูลเดิม
ปลายสาย : ไม่เหมือน .... แค่นี้ก่อนนะ จะรีบดำเนินการ
โอ้ท : ค่ะ สวัสดีค่ะ
ปล. คุณเจ้าหน้าที่โทรมาไม่แนะนำตัวกันก่อน เล่นเอาตกใจซะแทบแย่
เรื่องยื่นขอลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไทยโอ้ทได้ข้อมูลจากเวบกงศุลไทยเมื่อคราวเลือกตั้งครั้งก่อนปีที่แล้ว(2554) ส่งใบคำร้องไปแต่ถูกตีกลับ ได้โอกาสเหมาะเมื่อไปต่อพาสปอร์ตใหม่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถามไถ่เจ้าหน้าที่ และแจ้งไปว่า ใบคำร้องตีกลับ เจ้าหน้าที่ทำเรื่อง เขียนใบคำร้องใหม่ และเก็บเป็นเอกสารรอไว้ จนกระทั่งมีการติดต่อมาวันนี้
โอ้ทไม่อยากเสียสิทธิ์ประชาชนไทย ในการเลือกตั้ง อะไรที่สามารถใช้สิทธิ์ใน ขณะที่อยู่ต่างประเทศได้ ถ้าทำได้ก็ทำไว้ไม่เสียหาย และไม่อยากโดนถอนสิทธิ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งด้วย มีอย่างเดียว บัตรประชาชนต้องไปต่อที่ไทย
โอ้ท: ฮา โหล
ปลายสาย : ภาวินีหรือเปล่า
โอ้ท : (งงที่ปลายสายพูดภาษาไทยมา เพราะเรียกชื่อเต็ม ไม่ใช่เพื่อนแน่ๆ) ใช่ค่ะ
ปลายสาย : ทำพาสปอร์ตใหม่หรือยัง
โอ้ท : (ตกใจซิ ถามเรื่องพาสปอร์ตแบบนี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเนี่ย) ทำแล้วค่ะ
โทรมา จากไหนค่ะ
ปลายสาย: สถานฑูต
โอ้ท : (ตายละหว่า ทำอะไรผิดหรือเปล่าวะเนี่ย ได้ยินว่าสถานฑูตยิ่งตกใจมากขึ้น)
ปลายสาย : ขอเลขที่พาสปอร์ตใหม่
โอ้ท : ตอนนี้อยู่ข้างนอก พาสปอร์ตอยู่ที่บ้าน จำไม่ได้ค่ะ มีปัญหาอะไรเหรอค่ะ
ปลายสาย : อ่อ เรื่องเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ยื่นไว้น่ะ ตอนนี้ทางสถานฑูตกำลัง
ดำเนินการ
โอ้ท : ( โล่งใจ ที่สุดเลย นีกว่าทำอะไรผิดซะแล้ว)
ปลายสาย : ไม่เป็นไร มีเบอร์ญาติที่ไทยไหม ที่ติดต่อได้สะดวก
โอ้ท : เบอร์มือถือพ่อนะค่ะ.........(บอกเบอร์ไป)
ปลายสาย : งั้นเลขพาสปอร์ตไม่เอาก็ได้ มีคนติดต่อได้ที่ไทยแล้ว
โอ้ท : เลขพาสปอร์ตน่าจะเหมือนกันไหมค่ะ เพราะเปลี่ยนเล่ม ข้อมูลเดิม
ปลายสาย : ไม่เหมือน .... แค่นี้ก่อนนะ จะรีบดำเนินการ
โอ้ท : ค่ะ สวัสดีค่ะ
ปล. คุณเจ้าหน้าที่โทรมาไม่แนะนำตัวกันก่อน เล่นเอาตกใจซะแทบแย่
เรื่องยื่นขอลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไทยโอ้ทได้ข้อมูลจากเวบกงศุลไทยเมื่อคราวเลือกตั้งครั้งก่อนปีที่แล้ว(2554) ส่งใบคำร้องไปแต่ถูกตีกลับ ได้โอกาสเหมาะเมื่อไปต่อพาสปอร์ตใหม่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถามไถ่เจ้าหน้าที่ และแจ้งไปว่า ใบคำร้องตีกลับ เจ้าหน้าที่ทำเรื่อง เขียนใบคำร้องใหม่ และเก็บเป็นเอกสารรอไว้ จนกระทั่งมีการติดต่อมาวันนี้
โอ้ทไม่อยากเสียสิทธิ์ประชาชนไทย ในการเลือกตั้ง อะไรที่สามารถใช้สิทธิ์ใน ขณะที่อยู่ต่างประเทศได้ ถ้าทำได้ก็ทำไว้ไม่เสียหาย และไม่อยากโดนถอนสิทธิ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งด้วย มีอย่างเดียว บัตรประชาชนต้องไปต่อที่ไทย
Tuesday, January 24, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 23
23 ม.ค 2555...หลังเรียนภาษาอังกฤษช่วงเช้า บ่ายโมงออกจากห้องสมุดมุ่งหน้าไปบ้านทำงาน อุ๊บ! ถนนเป็นแบบนี้ เปิดวิดิโอให้นายจ้างดู
นายจ้าง :เวลาอัดวิดิโอแบบนี้ค่าโทรศัพท์คิดยังไง
แจ๋ว :ไม่เสียค่าโทรศัพท์เพราะไม่ได้ต่ออินเตอร์เนต
นายจ้าง : แล้วเก็บวิดิโอไว้ยังไงในโทรศัพท์
แจ๋ว : อัดเสร็จก็เก็บไว้ในโทรศัพท์ได้เลย จะไม่มีจนกว่าเราลบออก แต่ไอจะโหลดใส่คอมพิวเตอร์อีกที แล้วเอาลงยูทูป
นายจ้าง : อ๋อ...วันนี้ไอขอโทษน่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะไอกำลังยุ่งกับเอกสารภาษี
แจ๋ว : ไม่เป็นไร ไอจะทำเท่าที่ไอทำได้ แล้วมีผ้าให้ซักไหม ไอจะลงไปดู เอาใส่เครื่องซักผ้าไว้
นายจ้าง : มีนิดเดียว ไม่ต้องซัก
จากนั้นแจ๋วเดินออกจากห้อง เก็บถังขยะในห้องน้ำ ห้องนอนมาทิ้ง แล้วเดินเข้าไปหานายจ้างในห้องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
แจ๋ว : มีข่าวอีกข่าว
นายจ้าง : ยูจะย้ายแล้วเหรอ?
แจ๋ว : ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ไอกะสามีคุยกันไว้ภายใน ห้าปี
นายจ้าง : ว้า
แจ๋วกลับไปทำงานต่อ (ตั้งเวลากล้องโทรศัพท์มือถือถ่าย)
นายจ้าง :เวลาอัดวิดิโอแบบนี้ค่าโทรศัพท์คิดยังไง
แจ๋ว :ไม่เสียค่าโทรศัพท์เพราะไม่ได้ต่ออินเตอร์เนต
นายจ้าง : แล้วเก็บวิดิโอไว้ยังไงในโทรศัพท์
แจ๋ว : อัดเสร็จก็เก็บไว้ในโทรศัพท์ได้เลย จะไม่มีจนกว่าเราลบออก แต่ไอจะโหลดใส่คอมพิวเตอร์อีกที แล้วเอาลงยูทูป
นายจ้าง : อ๋อ...วันนี้ไอขอโทษน่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะไอกำลังยุ่งกับเอกสารภาษี
แจ๋ว : ไม่เป็นไร ไอจะทำเท่าที่ไอทำได้ แล้วมีผ้าให้ซักไหม ไอจะลงไปดู เอาใส่เครื่องซักผ้าไว้
นายจ้าง : มีนิดเดียว ไม่ต้องซัก
จากนั้นแจ๋วเดินออกจากห้อง เก็บถังขยะในห้องน้ำ ห้องนอนมาทิ้ง แล้วเดินเข้าไปหานายจ้างในห้องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
แจ๋ว : มีข่าวอีกข่าว
นายจ้าง : ยูจะย้ายแล้วเหรอ?
แจ๋ว : ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ไอกะสามีคุยกันไว้ภายใน ห้าปี
นายจ้าง : ว้า
แจ๋วกลับไปทำงานต่อ (ตั้งเวลากล้องโทรศัพท์มือถือถ่าย)
Tuesday, January 10, 2012
แจ๋วแจ่มใส # 22
9 มกราคม 2555...หลังจากหยุดเทศกาลยาวสองสัปดาห์ วันนี้แจ๋วกลับไปปฎิบัติหน้าที่เป็นวันแรก และ เป็นวันแรกของปีใหม่ด้วย บ้านดูโดยรวมไม่สกปรก เดาว่าแม่บ้านคงทำความสะอาดเป็นปกติ แต่เมื่อสำรวจทั่วแล้ว เห็นฝุ่นบนโต๊ะ ตู้ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆๆ และในห้องน้ำ อ่างล้างหน้าเป็นคราบ ขอบโถชำระเป็นคราบฝุ่น เดาได้ว่าไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดแต่อย่างใด แจ๋วเดินเก็บถังขยะทุกห้อง ลงไปห้องใต้ดินจัดการเอาผ้าที่ซักแล้วในเครื่องซักผ้าออกใส่ตะกร้า แล้วเอาผ้าที่กองอยู่ใส่ซักต่อ
ได้ยินเสียงแม่บ้านกลับเข้ามาจากข้างนอกพอดี แจ๋วกำลังจะเอาผ้าตาก แม่บ้านเข้ามาจัดการเอง แจ๋วจึงหันไปเตรียมถังน้ำ ไม้ถู ผงขัดห้องน้ำผ้า และอุปกรณ์ และบรรเลง ห้องน้ำ ชั้นล่างก่อน และ สองห้องข้างบน เสร็จแล้ว เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เวลาทำทุกสัปดาห์ดูเหมือน ไม่สกปรก แต่เมื่อไม่ได้ทำข้ามสัปดาห์เห็นชัดๆๆเลย
จากนั้น กวาด ถู พื้นห้องครัว วันนี้แม่บ้านลงขี้ผี้งบนพื้นไม้ห้องกินอาหารด้วยแต่แจ๋วไม่ได้ช่วยเพราะกว่างานแจ๋วจะเสร็จแม่บ้านก็ทำเสร็จแล้ว เมื่อแจ๋วทำความสะอาดพื้นห้องครัวเสร็จ ก็หันไปดูดฝุ่นห้องโถง และ ห้องนอนสองห้อง ห้องคอมพิวเตอร์
โอ้ยๆๆๆ หิวชะมัดเลย ไม่ได้หม่ำอะไรด้วยเช้านี้ เพราะมีเรียนการอ่านตอนเช้าก่อนไปปฎิบัติหน้าที่ หลังจากเสร็จหน้าที่่แจ๋ว เลยไปจับจ่ายกับข้าวก่อนเข้าบ้าน นี่ละได้ซื้อขนมปังใส่ท้องก่อนเข้าบ้าน ค่อยยังชั่ว
ได้ยินเสียงแม่บ้านกลับเข้ามาจากข้างนอกพอดี แจ๋วกำลังจะเอาผ้าตาก แม่บ้านเข้ามาจัดการเอง แจ๋วจึงหันไปเตรียมถังน้ำ ไม้ถู ผงขัดห้องน้ำผ้า และอุปกรณ์ และบรรเลง ห้องน้ำ ชั้นล่างก่อน และ สองห้องข้างบน เสร็จแล้ว เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เวลาทำทุกสัปดาห์ดูเหมือน ไม่สกปรก แต่เมื่อไม่ได้ทำข้ามสัปดาห์เห็นชัดๆๆเลย
เอี่ยมอ่อง
อีกห้อง ก่อนจัดการ (ไม่ได้เปิดหน้าต่าง เลยมองไม่เห็นว่าฉก กะ ปก)
หลังจัดการ เอี่ยมอ่อง (มองเห็นไม่แตกต่างจากก่อนหน้าเน่อะ แต่ดูดีๆๆ เงากว่าน๊า )
โอ้ยๆๆๆ หิวชะมัดเลย ไม่ได้หม่ำอะไรด้วยเช้านี้ เพราะมีเรียนการอ่านตอนเช้าก่อนไปปฎิบัติหน้าที่ หลังจากเสร็จหน้าที่่แจ๋ว เลยไปจับจ่ายกับข้าวก่อนเข้าบ้าน นี่ละได้ซื้อขนมปังใส่ท้องก่อนเข้าบ้าน ค่อยยังชั่ว
Sunday, January 8, 2012
ภาษาอังกฤษผิดไม่รู้ตัว
หลังจากกลับจากไทย กลับไปเรียน เพียงไม่กี่วัน ก็ได้หยุดคริสมาสต์ไปนอร์ธดาโกต้า กลับไปเรียนอีกทีเมื่อวันพฤหัสที่ 5 ที่ผ่านมา ในห้องเรียนครูมีเรื่องสั้นมาให้ฝีกอ่าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับสองพี่น้อง ไปห้างฯ เพื่อซื้อเลนส์กล้องถ่ายรูป และเบ็ดตกปลาเป็นของขวัญให้ลุง และท้ายเรื่องมีแบบฝีกตั้งคำถามขึ้นต้นด้วย Who, When, Why, Where, What, Will,How ครูให้นักเรียนในห้องตั้งกันคนละคำถาม ถึงโอ้ทได้คำว่า How (long,much,many) ในหนังสือเขียนไว้แบบนี้ โอ้ทจัดการตั้งเลยว่า "How long does the fishing rod cost?" ครูบอกให้ตั้งใหม่ โอ้ทมั่นใจมากกว่าประโยคถูกแล้ว พูดไป 5 ครั้ง จนครูคงทนไม่ไหว แก้มาว่า How much does the fishing rod cost?" คราวนี้ล่ะถึงบางอ้อ ตั้งคำถามไปยังไงเนี่ยคนละประเทศเลย
ในใจคิดถึง How much แต่ตา มองคำว่า long แล้วเมื่อกี้เล่าให้มิสเตอร์ฟัง มิสเตอร์ขำใหญ่ ยูตั้งประโยคแบบนี้เหรอ...
นีกแล้วขำตัวเองจริงๆๆ
ในใจคิดถึง How much แต่ตา มองคำว่า long แล้วเมื่อกี้เล่าให้มิสเตอร์ฟัง มิสเตอร์ขำใหญ่ ยูตั้งประโยคแบบนี้เหรอ...
นีกแล้วขำตัวเองจริงๆๆ
Subscribe to:
Posts (Atom)