Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุข ก็ทำไป

เรื่องราวที่เขียนในบล๊อกเป็นประสบการณ์ และชิวิตประจำวันของโอ้ทเอง เขียนไว้เป็นบันทึก เก็บไว้อ่านย้อนหลังเมื่อวันเวลาผ่านไป ซึ่งเอากลับมาไม่ได้ หากสิ่งที่เขียนเป็นประโยชน์กับบางคน หรือหลายคนด้วยก็ดีใจ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ

Monday, November 9, 2009

นก

ย้อนไป 3-4 ปี เจอนกครั้งแรกที่บ้านแม่ วันนั้นนกไปบ้านแม่กับเอ็กซ์(น้องสาวโอ้ท) จำได้ว่าไม่ได้คุยกันเลยสักแอะ และนกตัวเล็กจิ๊ดเดียว ขี้เหล่ด้วย(อิอิ...อันนี้พูดเองWink) แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยจนหลายเดือน เอ็กซ์ให้ไปรับที่สนามบินซึ่งนกเดินทางด้วย วันนั้นเป็นครั้งที่ 2 ที่เห็นนก ที่บอกว่าเห็นเพราะไม่ได้คุยกันอีกนั่นแหละ จนกระทั่งอีกหลายเดือนผ่านไป เอ็กซ์บอกว่านกกำลังหางานและประจวบกับที่บริษัทฯที่โอ้ททำอยู่ขณะนั้นกำลังต้องการคน เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกัน ทำงานด้วยกันได้ระยะหนึ่งกระทั่งนกเปลี่ยนงานใหม่ และโอ้ทออกจากงาน



ระหว่างทำงานด้วยกัน นกมาค้างที่อพาร์ทเม้นท์ด้วยบ่อย แม้จะเปลี่ยนงานแล้ว ก็ยังมาค้างด้วยบ่อย โอ้ทย้ายกลับมาเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ใกล้ๆ บ้านพ่อ หลังนกเลิกงานเรามักจะไปหาของอร่อยหม่ำๆๆๆ กัน โอ้ทไปรับนกที่ทำงานเสมอ ไปดูหนังกันบ้าง แต่จะหม่ำซะมากกว่า มีร้านประจำที่โปรดปรานสำหรับเราสองคนคือ ร้านส้มตำนายควร วัชรพล นี่ถ้ากลับไปพร้อมกันอีก จะไปหม่ำให้หนำใจทีเดียว และไม่คาดหมายเราได้เดินทางมาอเมริกาด้วยกัน นกได้วีซ่านักเรียนวันเดียวกับที่โอ้ทสัมภาษณ์วีซ่าผ่านนั่นแหละ อันที่จริงเราไปสัมภาษณ์พร้อมกัน นั่งรถไปด้วยกันเลย...ฮ่าฮ่า



เมื่อมาอยู่อเมริกานกมาพักด้วยกันที่บ้านดาริน นกกับโอ้ทไม่ได้เกี่ยงข้องเป็นญาติกันทางไหนเลยด้วยซ้ำแต่ก็รักกันเหมือนพี่น้อง เราอยู่ด้วยกัน รู้จักกันนานมากพอ แล้วก็มาถึงวันที่นกต้องย้ายออกไปมีครอบครัวของตัวเอง เพราะน้องนกของเรามาปิ้งหนุ่มตาใสที่นี่ซะแล้ว



นกย้ายไปเมื่อวันเสาร์ที่7 ที่ผ่านมา เดวิดคู่หมั่นมารับด้วยรถคันบะเริ่มเทิ่ม เพราะสมบัติมากมาย....อิอิ ตอนแรกนึกว่าจะขนไม่หมดซะแล้วนะเนี่ย



นกพูดเสมอว่าตัวเองไม่สวย แต่จะบอกว่านกน่ะจิตใจดีมากๆๆ พูดก็เพราะ แต่ขี้เบื่อสูงปรี๊ดดดดดดดด...ฮ่าฮ่า นกชอบแต่งตัว ทั้งหวาน คิขุ จะชอบแต่งแบบญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เพราะนกนี่ละทำให้โอ้ทใส่ต่างหูแฟชั่นได้จนทุกวันนี้ ตอนทำงานด้วยกันนกจะใส่ต่างหูทุกวัน โอ้ทอยากใส่มากๆ อยู่แล้วเพราะเห็นต่างหูสวยๆ ขายเยอะแยะแต่ใส่ทีไรคันทุกที นกบอกว่าต้องทนๆๆๆๆๆ โอ้ทก็ทนได้ไม่ถึงเดือน ไม่เอาล่ะ เลือดไหลด้วย คัน และเจ็บ นกก็บอกอีก ว่าทนๆๆๆๆๆถ้าอยากใส่ โอ้ทก็อยากใส่อยู่มากๆ เห็นนกใส่มาทุกวันเปลียนแบบทุกวันอีก เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน....โอ้ยเลือดไหลเป็นหนองอยู่ 3 เดือน เจ็บจนลืมหายเจ็บไม่รู้ตัว แล้วก็ใส่ได้จนทุกวันนี้



นกไปแล้วก็เหงาเป็นธรรมดา เคยมีคนคอยพูดคุยด้วย (โอ้ทจะพูดซะมากกว่า นกเป็นผู้ฟังที่ดี) และเธอจะเป็นดาราเจ้าบทบาทเนื่องจากทุกครั้งของการสนทนานกจะมีท่าทางและลีลาประกอบเสมอ น่ารัก ตลก ปนกันไป เราพูดล้อกันบ่อยว่า นี่ถ้าไม่ลาวงการมาซะก่อนป่านนี้ได้รับตุ๊กตาทองไปแล้ว...Party



ขอให้นกมีความสุขตลอดไป ถึงแม้จะไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน เราก็ยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม เนอะOpen-mouthed



สมบัติของนกล่ะ จะขนไปหมดมั้ยเนี่ย


ดารินบอกว่าถ่ายนกคู่จักรยานประจำตำแหน่งก่อน (ได้มาจากข้างบ้านเขาไม่เอาแล้ว ฟรีจ้า)


ขนๆๆๆๆกัน เกือบจะไม่มีที่เลยเชียว


กอดพุง แด๊ดดี้ก่อนไป

ก่อนนกออกเดินทาง

Sunday, November 8, 2009

เรื่องจากปีที่แล้ว กวาดใบไม้ครั้งที่1

เสาร์ 8 พ.ย.51...กว่าจะตื่นก็ปาไปเที่ยง เป็นปกติของวันเสาร์-อาทิตย์ ขี้เกียจทำอาหารเลยตกลงกันว่าไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่า ตั้งใจไปร้าน เพอร์กิ้น Perkins ใกล้ๆ แต่คนเยอะ ไม่มีที่นั่งเลย แถมมีคิวรออยู่อีกยาว ต้องรอ 15 นาที ไม่อาววว ไปร้านอื่นก็ได้ อย่าถามถนนหนทางน่ะจ่ะ บอกไม่ได้ จำไม่ได้ ร้านนี้ล่ะที่ไปกินกัน Craker Barrel แครกเกอร์ บาร์เรล เป็นร้านไสตล์ชนบท old american country ร้านแบ่งเป็นส่วนร้านอาหาร กับร้านขายของ บรรยากาศข้างในแต่งเป็นโบราณทำให้นึกถึงห้องแถวริมคลองระแหง จ.ปทุมธานี ดารินเคยไปมาแล้ว วันนี้โอ้ทกินอาหารหมดไม่ต้องห่อกลับ อาหย่อยถูกปาก เป็นแซนด์วิชไก่ย่างกับเบคอน ในเมนูไม่รู้ว่าเป็นแซนด์วิช แต่มาเซิร์ฟพลิกดูมีขนมปัง 2 แผ่นต้องประกบกัน แต่ชิ้นใหญ่มาก ดารินบอกว่าใช้มีดตัดเป็นชิ้นๆ กินเอา อิ่มหน่ำ แล้วบอกดารินว่าจะหาซื่้อกางเกงใส่อุ่นๆ ได้ที่ไหน ไม่รู้ว่าเรียกอะไรแบบรัดๆ บังเอิญดีวีดีที่ดูกันเมื่อคืนผู้หญิงใส่ปีนเขาเลยบอกดารินว่าแบบนี้ ดารินพาไปร้าน เอ้าท์ดอร์ outdoor เป็นร้านขายชุดกีฬา มีกางเกงแบบที่อยากได้ด้วยแต่แพง ตัวละ 110 เหรียญแน่ะ ไม่เอาดีกว่า ดารินบอกว่าคุณภาพดีก็ต้องราคาแพง จะได้อุ่น แต่อยากได้ 2 ตัวอ่ะดิ ดารินบอกว่าจะซื้อให้1ตัว ยังยินยันว่าไม่เอาจะเอาถูกกว่านี้เชื่อว่าต้องมีสักร้าน ดารินบอกไปดูที่มอล์ลไหมน่าจะมี (หมายถึงคริสติน่ามอล์ล แต่คนที่นี่จะเรียกมอล์ลเฉยๆ เพราะละแวกนี้จะมีห้างที่ใหญ่อยู่ที่เดียวคือที่นี่แหละ) ไปซิ ร้านไม่ได้อยู่ในตัวห้าง อยู่ด้านนอกเป็นร้านโดด (ที่นี่ในบริเวณห้าง จะมีอาคารแยกไปเป็นร้านใคร ร้านมัน และ เป็นตัวห้างเลย ไมเคิลที่โอ้ทมาซื้ออุปกรณ์งานฝีมือก็จะอยู่ที่นี่แต่จะเป็นอาคารต่างหากเหมือนกัน) ร้านดิกเกอร์ Dickers ได้ล่ะ ตัวละ ไม่เกิน 50 เหรียญ แบบนี้ละพอใจซื้อ เอาไปลอง 10 ตัวได้ แต่ใส่ได้เหมาะๆ 2 ตัว เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไว้ปีหน้ารู้ว่าหนาวแค่ไหนค่อยซื้อใหม่ จากนั้นแวะไปร้านวีดีโอคืน จากนั้นดารินพาไปดูอพาร์ทเม้นท์ที่เคยอยู่ก่อนซื้อบ้าน ปีกว่า และขับดูรอบๆ (เป็นเขตแมรี่แลนด์) กลับบ้าน ดูหนังที่เช่ามา แต่ไม่ได้ทำอาหารเย็นเพราะยังอิ่มอยู่ คืนนี้ดารินทำแซนด์วิชกินคนเดียว



อาทิตย์ 9 พ.ย.51...วันนี้ตื่นเช้ากว่าเมื่อวาน ทำความสะอาดบ้านตั้งใจจะรีดผ้าต่อแต่ไม่ได้รีดเพราะหลังจากกินมื้อเช้า-บ่าย (ควบเลย2มื้อ) ดารินเปลี่ยนเสื้อผ้า นึกว่าจะไปข้างนอกที่ไหนได้ ออกไปกวาดใบไม้ที่สนามหลังบ้าน ช่วยกัน...เหนื่อยเอาการ หายใจรู้สึกปวดจมูกเล็กน้อยเพราะอากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ สิบกว่าองศา ไม่มีแดด มีลมบ้างเป็นบางครั้ง ดารินจะมีเครื่องดูดใบไม้ตัวเล็กๆ โอ้ทช่วยกวาดและใชัมือกอบใส่ถังเพราะรู้สึกว่าเร็วกว่าเครื่องดูด ใบไม้เอาไปเทไว้ริมถนนหน้าบ้านเพราะจะมีเจ้าหน้าที่เก็บใบไม้มาเอาไป ออกไปข้างนอกกัน 20 นาที ดารินไปเติมน้ำมันรถ ซื้อเบียร์ โอ้ทขอติดไปลงที่เคมาร์ทอยากไปดูรองเท้าบูท แต่ไม่สวยถูกใจ ดารินเติมน้ำมันเสร็จ แวะรับที่เคมาร์ท กลับมาบ้านเปิดดูอ่างน้ำร้อนมีน้ำขัง ต้องดูดออก ดารินว่าอ่างรั้วตั้งแต่คราวไปไทยปีที่แล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนซะที รอให้หมดหนาวซะก่อน โอ้ทก็จะดูว่าทำยังไง แล้วก็ถ่ายรูปส่งให้ทางบ้านที่ไทยดู



Weekend Sept 18th-19th 08...It is usual for us to get up late on weekend, so always lunch time. This weekend we decided to go out have lunch somewhere. Start at Perkins but busy then changed to other. We ate at the old country resturant " Crekker Barrel" really nice. I finished my meal this time not need to take home as usual..hehe because really good taste. After that Darin took me to the store for get my warm pants and drove around . We passed by the community Darin lived there before bought a house. It is nice community in Marryland area. On the road trees almost no leaves but not look bad. On Sunday we helped with raking at the back yard and sucked water out of hot tub. Darin said the tub is leak , so after winter mabe get new. When I were outside with raking felt breathing not so good and little pain in my nose because of cold.






กวาดใบไม้ปีที่2จ้า

แป้บๆ จะเข้าปีที่ 2 แล้ว กวาดใบไม้อีกแล้วจ้า ดารินตั้งท่าจะกวาดตั้งแต่เมื่อวาน แต่ใบไม้หน้าบ้านยังร่วงไม่หมดเลยรออีกวัน ปีนี้เหนื่อยรอบเดียว เพราะปีที่แล้วโอ้ทเริ่มกวาดตั้งแต่ใบไม้เริ่มร่วง หลายวันกว่าจะหมด ปีนี้ไม่เอาแล้ว รวดเดียวจบเลยดีกว่า ดารินออกไปกวาดก่อน โอ้ทออกไปทีหลังใส่เสื้อแจ๊คเก็ตไปด้วย แต่พอกวาดได้สักพักไม่ไหว ร้อนแล้วจ้า ถอดๆๆๆๆ ใส่ถุงมือกวาดด้วยน่ะแต่การเสียดสีมือกับด้ามไม้กวาดยังทำให้มือพองจนเนื้อหลุดได้ ก็หลายชั่วโมงนี่นากว่าจะเสร็จ ดารินใช้เครื่องทุ่นแรงดูดใบไม้ ทำให้ใบไม้ย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน ตอนเอาไปกองหน้าบ้านจะไม่ปลิวง่ายเหมือนใบไม้ที่ยังไม่ย่อย แต่โอ้ทใจร้อนกว่าจะดูดเสร็จนาน เลยช่วยอีกแรงกอบใบไม้ใส่ถังไปด้วยเข็นไปกองหน้าบ้าน 2 แรงแข็งขันก็ปาไป3 ชั่วโมงได้ถึงเสร็จ ดารินบอกว่าตอนอยู่คนเดียวก็ทำเสร็จภายในวันเดียว โอโห ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะเนี่ย ดีหน่อยปีนี้อากาศไม่เย็นเท่าปีที่แล้ว ดารินใส่เสื้อยืดบางๆ กับกางเกงขาสั้นได้ ปีที่แล้วดารินใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวออกมากวาด แล้วตกกลางคืนอาการปวดแขน ปวดไหล่เริ่มออก หวังว่าเช้าคงหายน่ะ รูปจ้า
กวาดใบไม้เสร็จ ยังมีแรงตัดหญ้าต่อ

Saturday, October 31, 2009

ทริคกะทรีท 09 ที่บ้านจ้า

วันนี้ฮาโลวีน ไปปั้นกลับถึงบ้านเกือบ 6.30 เย็น เด็กๆ เริ่มมาเคาะประตูบ้านกันตั้งแต่ 6 โมง แย่แล้ว ยังไม่ได้เตรียมลูกอมเลย ซื้อไว้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์แล้วล่ะ จะทันไหมเนี่ย ไฟก็ยังไม่ได้ต่อปลั้ก.....แต่พอถึงบ้านดีใจๆๆๆ ดารินเสียบไฟ เตรียมลูกอมไว้แล้วด้วย แถมเด็กๆ เต็มหน้าบ้านเลย...เยๆๆๆ ปีนี้ดารินเล่นด้วยแฮะ ก่อนเข้าบ้านแวะรับน้องบิ๋มมาด้วย บิ๋มมีกุ้ง กับ ปลา มานึ่งจิ่มน้ำจิ๋มทะเล โอ้ทแวะซื้อไก่เคเอฟซีก่อนเข้าบ้าน หม่ำไป ก็รอเด็กมาเคาะประตูไป....ปีนี้เด็กเยอะ และอากาศไม่หนาวเหมือนปีที่แล้ว แต่ในหมู่บ้านไม่ค่อยตกแต่งหน้าบ้านกันเหมือนปีที่แล้ว มีภาพมาให้ดูกันเล็กน้อย





Sunday, October 25, 2009

ฮาโลวีนพาเหรด

วันนี้ตื่น10.30 ตั้งใจจะเอาผ้ารองเตียงไปเปลียนเพราะดันหยิบมาผิดขนาด ปรากฎว่าเจ้าของบ้านบอกจะพาไปดูหนัง...อ้าว! แล้วจะทันไปดูพาเหรดตอนบ่าย 2 ไหมเนี่ย นัดบิ๋มไว้ด้วย ดารินเช็คเวลาหนังมีรอบ 12.50 จบก็ราว บ่าย 2.30 ทันๆๆๆๆ ชวนบิ๋ม กะ นก ไม่มีใครไป งั้นไปกัน 2 คน หนังสนุก ตลกเรื่องเมื่องผีดิบ "ZOMBIE LAND"



ดารินไปส่งแวะรับบิ๋มที่แล็บก่อน ดีจังขบวนยังไม่เริ่มเลย อากาศวันนี้เย็นพอควร ไม่ได้ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตด้วยเพราะใส่ลองจอห์นน่าจะพอทนได้ แต่น้องบิ๋มซิ ชะล้าใจไม่หยิบเสื้อติดมาอีกตัว ลมพัดทีก็เย็นเฉียบ เด็กๆ แต่งตัวเป็นสัตว์ต่างๆ เป็นเจ้าหญิง เป็นซุปเปอร์ฮี่โร่ ได้ถ่ายรูปขบวนพาเหรดมาจนจบ แต่ไม่ทันได้เก็บภาพหลังขบวนแล้วเพราะถ่านกล้องดันหมด กลับบ้านดีกว่า เดินๆๆๆๆ ได้ครึงทาง ไม่ไหว หนาวๆๆๆๆ โทรให้ดารินมารับกลางทาง จะแวะถ่ายรูปต้นไม้หน้าหมู่บ้านแก้ตัวเมื่อวานก็ไม่ได้แล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ละกัน






Friday, October 23, 2009

ชอบอะไรก็ทำไป 2

5.ร้อยลูกปัด

งานนี้ทำไม่ง่าย แต่ก็ทำได้ เริ่มจากร้อยสร้อยข้อมือ สร้อยคอเอง แล้วต่อมาก็ทำต่างหู ใช้เชือก ลวด มีอุปกรณ์มากมายขนมาด้วย มานี้ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม จะมีก็ลูกปัดสวยๆ ราคาอุปกรณ์ที่นี่ แน่นอนแพงกว่าอยู่แล้ว แต่ก็ขายตามราคาของที่นี่พอได้ ถ้าซื้อจากไทยมาได้ทำขายที่นี่คิดค่าของค่าส่งแล้วก็ยังได้มากกว่า ตอนอยู่กรุงเทพฯ ร้อยต่างหูขายตลาดนัด และใช้เองด้วย แต่ก็ทำได้ง่ายๆ มานี่ก็ร้อยต่างหูขายอีก จะดูหนังสือทำแบบใหม่ๆ บ้าง ตอนนี้กำลังหัดทำลูกปัดเองจากดินโพลีเมอร์อีกด้วย ครั้งแรกทำโดยไม่รู้อะไรเลย ไม่ได้เรียน ตอนปั้นสีสันสวยเชียว แต่อบออกมา ไหม้เกรียมเลย...ฮ่าฮ่า ผลการทดลองล้มเหลว แต่ไม่เป็นไร ลองต่อไปต้องได้สักวันล่ะ









ชอบมากๆ และทำบ่อยกว่างานอื่นๆ เคยเห็นแม่มีไม้นิตสมัยเด็กๆ แต่ไม่รู้จักว่าคืออะไร จนปีก่อนจะมาอเมริกานึกอยากทำ แต่หาคนสอนตามที่ต้องการไม่ได้ ไม่อยากเรียนแค่ทำชิ้นงาน แต่ต้องการเรียนที่อยากรู้ ตั้งแต่พื้นฐาน และออกแบบตามที่เราอยากทำ จนที่สุดคนใกล้ตัวนี่เอง เพื่อน "ฝน" รู้จักการมานานแรมสิบปีไม่รู้เลยว่าเป็นมือโปร กระทั่งไปเห็นเสื้อไหม อ้าว ทำเองเหรอเนี่ย กำลังหาคนสอนอยู่ ได้จังหวะเหมาะ แล้วก็จัดแจงถ่ายทอดวิชา เริ่มทำผืนหลายลายไว้ด้วยกัน เอาไว้ดูแต่ไม่ได้เอามาด้วย ทำไม่ทันเสร็จ อยากทำเสื้อโดยหาแบบมา เพื่อนต้องเขียนแพทเทิร์นให้เพราะอยากทำแผ่นหลัง 1 ลาย ชิ้นหน้า ซ้าย-ขวาอีก 1 ลาย ปรากฎว่าก็ไม่เสร็จ มีเหตุต้องทำหมวกก่อน เพราะจะไปภูเรือกันซื่งหนาว และในที่สุดก็สำเร็จนิตติ้งชิ้นแรก หมวกสีฟ้า ลายยากซะด้วย หมวกใบเดียวรื้อถักใหม่หลายครั้ง



เสื้อมาเสร็จที่อเมริกา รื้อแล้วรื้ออีก ใช้เวลา 1 ปี เต็ม
 


ช่วงคริสมาสต์ปีที่แล้วซึ่งปีแรกที่มาอเมริกา ทำหมวกหลายใบเพราะลองลาย ฝึกฝีมือด้วย จนคล่อง ไม่ได้ขายสักใบ แจกเพื่อนๆ หมดไม่มีเหลือให้ตัวเองเลย


ปัจจุบันเริ่มทำผ้าพันคอ ทำเสื้อเด็กน้อยจากแพทเทิร์น เป็นชิ้นแรกที่ทำตามแพทเทิร์น และยังมีอีกหลายชิ้นที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำเพราะงานล้นๆๆๆๆ ทุกครั้งไม่เคยทำชิ้นเดียวจนเสร็จแล้วเริ่มชิ้นใหม่ เพราะเบื่อต้องทำอย่างน้อย 3 ชิ้นพร้อมกัน เอาไว้ในห้องน้ำบ้าง บนโต๊ะกินข้าวบ้าง โต๊ะหน้าทีวีบ้าง อยู่ใกล้ตรงไหนก็หยิบชิ้นนั้นๆ มาทำ เสร็จออกมาแล้วสวยทุกชิ้น...อิอิ หวัง


7. งานปั้น

เป็นสิ่งใหม่จริงๆ ที่ไม่คิดว่าจะทำได้ เพราะตอนอยู่กรุงเทพฯ คิดคนที่ปั้นต้องมีความรู้เฉพาะเท่านั้น อยากทำแต่ไม่เคยคิด และหาข้อมูลเรียน จนมาอเมริกาเห็นถ้วย ชามบ้านเพื่อนดาริน อยากทำบ้าง ดารินเคยไปปั้นกับเพื่อนครั้งนึงก่อนโอ้ทมานี่แต่ดารินไม่ชอบ โอ้ทไปกับเพื่อนดารินครั้งนึงปั้นดูก่อนว่าชอบไหม ผลสุดท้ายก็ปั้นจนทุกวันนี้ เพื่อนดารินใจดี น่ารัก อาสาสอนให้ไม่คิดค่าสอนด้วยแต่ต้องรอนานเพราะหลังคลอดแล้วกว่าน้องจะโต ไม่รอล่ะ ลงเรียนเลยละกัน เริ่มเรียนปั้นบนล้อ 8 สัปดาห์ และต่อด้วยปั้นมือ 6 สัปดาห์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกของร้านปั้น เข้าไปฝึกเอง เจ้าหน้าที่และสมาชิกอื่น ๆ ใจดี ทุกคนมีอะไรไม่เข้าใจถามได้ และมีบางชิ้นได้ออเดอร์มาแล้วด้วย...เย เอาไปวางขายตลาดนัดก็ขายได้มีคนสนใจ ถึงแม้ราคาจะได้ไม่มากก็ตาม...ดีใจมาก
ขิ้นแรก



8.ถ่ายรูป


จะว่าบ้ากล้องก็ว่าได้ ชอบเป็นนางแบบ และถ่ายทั่วๆไป ถ่ายดะว่างั้นเถอะ มีกล้องตัวแรกปี 2003 หรือ 2004 จำไม่ได้แล้ว เป็นกล้องธรรมดามากๆ มีคนซื้อให้ ซัมซุง และตอนนั้นกล้องดิจิตอลยังแพงอยู่ ใช้ได้ประมาณ ปี กล้องก็พังเอาไปซ่อมแล้วขายต่อ ตอนนั้นไม่มีความรู้ ดูภาพไม่เป็น จะเน้นถ่ายคนอย่างเดียวโดยเฉพาะตัวเอง...อิอิ ตัวที่ 2 ขอตังค์ดารินซื้อได้ดีหน่อย โกดัก แต่ก็ยังเป็นแบบธรรมดาอยู่ ใช้ได้ประมาณ เกือบ 2 ปี เอามาใช้ที่อเมริกาด้วย หล่นบ่อย ปรากฎว่าครั้งสุดท้ายหล่นในหิมะ และ ตกพื้นกระแทกจนเลนส์ค้าง ส่งกลับไปให้พ่อก็ซ่อมไม่คุ้ม การถ่ายรูปเปลียนแปลงหลังจากเจอดารินที่กรุงเทพฯ ดารินชอบถ่ายสถานที่ มากกว่าคน ดูภาพแล้วสวยจัง โอ้ทเอาบ้าง ถ่ายดะเลยตั้งแต่นั้นมา ทั้งคน ทั้งวิว แต่ก็ย้งดูไม่รู้ว่าสวยเป็นยังไง หลังกลับจากบ้านแม่ดารินที่นอร์ธดาโกต้า ดารินถอยกล้องต้วใหม่ให้ก็ธรรมาดาอยู่ เพราะราคาต่ำ อีกอย่างไม่มีความรู้ อยากได้กล้องดีๆ แต่เอามาใช้ไม่คุ้มแน่ๆ เลยไม่เอาดีกว่า ใช้ได้ไม่เท่าไร เจ้งอีกแล้วเมื่อ เดือนกว่าๆ นี่เอง เลนส์ค้างอีก ตัวนี้ของนิกอนL18 ....ต้องไม่ได้ตัวใหม่แน่ๆ จัดแจงคุยกับดารินยึดกล้องดารินซะเลย ดีกว่ากล้องที่เคยใช้เยอะเลย โกดัก DX7630

ก่อนกล้องตัวก่อนจะเจ้ง ได้รู้จักเพื่อนในเนตจบด้านถ่ายภาพมาแนะนำเพื่อนๆ วิธีถ่ายรูปให้สวยและปรับกล้อง นี่ละเป็นที่มาก็การใช้กล้องและถ่ายสวยขี้น และอยากได้กล้องดีแล้ว หลังจากกล้องพังก็หมั่นพูดกับดารินบ่อยๆ ว่ากล้องดารินดีจังแต่ถ้าได้กล้องตัวที่ไปดูมาน่ะภาพคงจะสวยเริ่ดกว่านี้มากเชียว ดารินบอกว่าไม่ใช่เดือนนี้แน่นอน(เดือนที่แล้วที่กล้องพัง) เพราะค่าใช้จ่ายเยอะแล้ว เพิ่งจะซื้อเครื่องซักผ้าน่ะ ...มีความหวังแล้ว ได้ก็ดีไม่ได้ก็ยึดกล้องดารินแล้วก๊าบบบบบบ ถ่ายดะ มากกว่าเมื่อ่กอน เพราะถ่ายรูปออกมาสวย กำลังหาทางขายรูปด้วย...อิอิ






ชอบอะไรก็ทำไป 1

นับจากวันที่มาเหยียบบนผืนแผ่นดีอเมริกาจนวันนี้ก็ 1 ปี 3 เดือน 21 วัน ได้เรียนรู้ และทำหลายสิ่งหลายอย่าง โอ้ทรักงานฝีมือ ทำต้ังแต่อยู่ไทย ไม่ชอบเรียนทฤษฎี ชอบลงมือทำเลย เคยไปเรียนตามโรงเรียนวิชาชีพของ กทม สวนลุมพินี สารพัดช่างที่ค่าเรียนแสนถูกชั่วโมงละ 1 บาท ศูนย์อาชีพ กทม เรียนฟรี และตามห้างฯ ที่เปิดสอนไม่มีค่าใช้จ่าย สรรหาไปทั่ว อะไรที่เข้าสมัยนิยมจะลองทำซะทุกอย่าง มีทั้งประสบความสำเร็จ เพราะชอบ และประสบความสำเร็จแต่ไม่ทำต่อเพราะไม่ชอบ มาอยู่อเมริกาก็ยังหอบหิ้วอุปกรณ์ และ หนังสือมาด้วย มีอะไรบ้างน๊า?


แรกเริ่มไม่มีจ้กรก็เย็บมือ ชอบเย็บกระเป๋าใช้เอง ตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. ดัดแปลงเสื้อกางเกงเอง เข็มทิ่มมือเจ็บก็ทน แต่ละชิ้นกว่าจะเสร็จใช้เวลาหลายวันและนิ้วระบมเลยทีเดียว จนกระทั่ง แม่ซื้อหัวจักรให้เป็นแบบมอเตอร์แต่ไม่มีโต๊ะก็นั่งเย็บบนพื้น แล้วใช้เข่าเหยียบมอเตอร์ นี่ก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้จักร มั่วใช้จนเป็น อาศัยเป็นคนฉลาด...อิอิ (คิดเอง) ก่อนแม่จะซื้อจักรให้ก็นานเป็นปี บ้านยายมีจักรเย็บผ้าแบบถีบ ไปทีไรจะขอใช้เย็บประจำ ไม่เป็นก็มั่วๆ เอา เพราะดูแล้วไม่น่าจะยาก ก็ทำได้ ตอนไปเรียนสารพัดช่างชั่วโมงละบาทก็ได้ความรู้มาเล็กน้อยการใส่ด้าย และการใช้เครื่องโพ้ง (เอเรียกเจ้านี่หรือเปล่าน๊า) สำหรับเย็บกันริมลุ่ย เมื่อมีจักรเองแล้วเย็บบ่อยมาก ชอบทำโน่นนี่เหมือนเดิม ซ่อมเสื้อผ้าเอง ไม่เป็นก็มั่วๆ เอา ดูแล้วเดาใช้อยู่2-3 ปี ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นไม่ได้เอาจักรไปด้วย ก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นเย็บมือเหมือนเดิม แต่รักการเย็บผ้ามากขึ้น แม้จะยังเย็บไม่เป็นตามแบบแผนก็ตามที จนกระทั่้งมีหนุ่มเป็นของตัวเอง (สามี) ได้นายทุน ขอซื้อจักรอัตโนมัติที่อยากได้มานานแต่โดยตัวเองไม่มีปัญญาเพราะฉนวนราคาสูง แต่ก็ไม่ได้ซื้อที่แพงเริ่ดเพราะนั่นก็เกินความจำเป็น และที่สำคัญได้จักรตัวเก่าที่แม่ซื้อให้มาเทิร์นเป็นเงินได้ตั้ง 2000 บาท แม่บอกว่าได้กำไร 500 บาท เพราะแม่ซื้อมา 1500 ...อิอิ






เมื่อได้จักรเป็นของตัวเองตามที่ฝันไว้แล้ว งานเย็บทำบ่อยขี้นแทบทุกวันก็ว่าได้ เสาร์-อาทิตย์ก็สรรหาจักรที่ซื้อมาเป็นของเอลน่า (ก่อนจะตัดสินใจซื้อ หาข้อมูลเปรียบเทียบเป็นเดือนเชียวล่ะ เทียบราคา และ ความสามารถของจักร และการบริการของบริษัทฯ ขายจักร) นอกจากจะได้ส่วนลดเอาจักรเก่าไปเทิร์นแล้ว ยังได้เป็นสมาชิกฟรีอีกระยะนึงด้วย ได้รับวารสารการประดิษฐ์ รับข่าวสาร รวมทั้งเข้าร่วมอบรมการทำสิ่งประดิษฐ์ ได้ไปร่วมอบรมทำตะกร้ามาครั้งนึง และเย็บขอบ กะ ใส่ซิปมาครั้งนึง งานแสดงใหญ่ของเอลน่าที่โรงแรมย่านประตูน้ำครั้งนึง



กระทั่งย้ายมาอเมริกาก็หอบหิ้วมาด้วย แต่ต้องช้ำใจเพราะบริษัทที่ส่งของมาก่อนมีการกระแทก ทำให้จักรเจ้ง ซ่อมก็ไม่ได้ เศร้าซิงานนี้ ...แต่นายทุนคนเดิมใจดีถอยให้ใหม่ วันที่ไปรับจักรเก่าคืน จะเทิร์นร้านก็ไม่รับเพราะซ่อมไม่ได้ ปัจจุบันเก็บไว้ กลับบ้านเมื่อไรจะหอบหิ้วเอาไปให้บริษัทเอลน่าซ่อม ถ้าซ่อมได้ขายต่อจ้าเพราะมีคนที่จองไว้แล้วด้วย ถ้าถึงเวลานั้นไม่เปลียนใจไปแล้ว เมื่อนายทุนตกลงซื้อจักรให้แล้วก็ไม่รีรอจัดการสอบถามคนขายซี่งเป็นคนเช็ค ซ่อมจักร คือเจ้าของร้านนั่นเอง อยากได้จักรที่เหมือนหรือใกล้เคียงตัวเดิมเพราะใช้ง่ายและเป็นมือสอง เพราะคิดว่าราคาจะถูกกว่ามาก ปรากฎว่าราคาแตกต่างกับจักรใหม่ที่ใกล้เคียงกันเพียง $10 นายทุนบอกว่าเอาใหม่ดีกว่าและได้ใช้งานจนทุกวันนี้ ราคาเทียบเป็นบาทแล้ว ถูกว่าราคาจักรที่เจ้งครึ่งนึงทีเดียวแถมดีกว่าอีกต่างหาก แบบนี้ไม่ซื้อมาก็ดีซะกว่า แต่ทำไงได้ไม่รู้นี่นา
ปล.จักรเก่าขายอีเบย์ไป ราคาพอค่าส่งไปรษณีย์เท่านั้น จำไม่ได้ว่าเท่าไร



เป็นงานที่ไม่ชอบเลย นานมาแล้วสมัยย่ายังอยู่ย่าทำเก่งมากๆ เคยสอนให้ทำก็ทำอยู่ไม่กี่วัน ย่าคงเห็นว่าสอนไปก็ไม่ได้อะไรเพราะหลานคนนี้ไม่เอาซะเลย ย่าก็หยุดสอน แต่ยังทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา สมัยเรียน ป.5-6 มีวิชางานฝีมือถักตุ๊กตาได้ตั้งตัว ถักหงส์จากสีขาวเป็นสีกะปิได้อีกตัว ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง แต่ก็ยังไม่ชอบอยูดี ถักริมผ้าเช็ดหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ชอบที่สุด เพราะเข็มทิ่มนิ้วได้เลือดและปวดมากด้วย หัวเข็มโครเชท์ปากตะขอเกียวเนื้อออกมาละก็...อี๋ยไม่อยากจะคิด (เคยโดนเข็มเล็กทิ่มปวดมาก)


จนกระทั่งเรียน ปวช. ตอนนั้นกระเป๋าถักฮิต ก็อยากมีบ้างแต่ไม่อยากใช้ซ้ำใคร นี้เป็นที่มาทำให้จับโครเชท์ทำเองโดยไม่ถามย่าด้วย ทำได้แต่โซ่อย่างเดียว ถักเป็นสี่เหลี่ยมหลายๆ ชิ้นแล้วมาเย็บต่อกันเป็นกระเป๋าทรงกล่อง ถักสายเล็กๆ ยาวๆ เย็บเป็นหูสะพาย ได้ล่ะ 1 ใบ แล้วต่อจากนั้นก็มีทำเป็นใบแบนๆ สะพายสีรุ้ง อีก 1 ใบ ทำใบกลมร้อยเชือกรูดปาก 1 ใบ เสียดายสมัยนั้นยังไม่มีกล้องดิจิตอล เลยไม่มีรูปมาให้ดู ปัจจุบันขายตลาดนัดไปหมดแล้ว ใบละ 20 บาท ทุกวันนี้หาในเนต มียูทูปช่วยทำให้เข้าใจง่าย ซื้อหนังสือลายมาหัดทำดอกไม้โครเชท์ได้ ทำชุดกระโปรงได้ ทำกระโปรงได้ แล้วยังมือหมอน ผ้าคลุมไหล่ ซองใส่มือถือ หมวก และ อื่นๆ อีก ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะทำได้


3. งานผ้าใยบัว

เห็นตามห้างฯ จะมีโต๊ะสอน ดูแล้วไม่น่าจะยาก เรื่องอะไรจะเสียเงินเรียนแพงๆ จัดแจงซื้อหนังสือมาดู ซื้ออุปกรณ์มา ทำสิ่งแรก ดอกลีลาวดี ทำได้ 2 ดอกจนปัจจุบันก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยากเอาเรื่อง ดีงผ้าหุ้มลวดแล้วผ้าเหลือเสียเยอะมาก ต้องมีเทคนิคในการดึงซึ่งไม่รู้นี่ล่ะยาก อยากทำเป็นต้นไม้เอาไว้จัดคริสมาสต์ แต่คงต้องให้มีแรงบันดาลใจมาก มาก ถึงขั้นว่าเอาล่ะต้องทำให้ได้ซะที ปจจุบันอุปกรณ์ยังคงเก็บอย่างดีเอามาอเมริกาด้วยจ้า



4.ถักเชือก (เมคราเม่)

จำได้ว่าสมัย ป5-6 ได้เรียนถักที่แขวนกระถางต้นไม้ชอบมาก แต่ไม่เคยทำอีกเลย กระทั่งเรียนมหาวิทยาลัยช่วงเวลานั้น วัยรุ่นอย่างโอ้ทนิยมใส่เชือกถัก ไม่ว่าจะเป็นข้อมือ สร้อยคอ ข้อเท้า แหวน เห็นแล้วเราทำได้น่ะ ไม่น่าจะยาก ซื้อใส่ก็ไม่ภูมิใจซิ มีเพื่อนทำเป็นให้สอนทำลายง่ายๆ จากนั้น เวลาไปเดินห้างฯ หรือ บริเวณที่วัยรุ่นเดินซื้อของกัน โดยเฉพาะหน้ารามฯ จะยืนดูแม่ค้าทำแล้วจำมาทำเอง จนทำได้เป็นโปรเชียวแต่ไม่ได้ทำขาย ทำแจกซะมากกว่า ก่อนมาอเมริกาซื้อหนังสือเมคราเม่ติดมาด้วย


ได้ถักหูร้อยแขวนถ้วยใส่อาหารนกบนต้นไม้ แต่ไม่ได้ดูในหนังสือ มีความรู้เดิมฝังอยู่ในหัวอันชาญฉลาด....อิอิ



หมดเวลาแล้ว เพราะนายทุนจะถึงบ้านอีกชั่วโมงต้องเตรียมทำอาหารแล้วล่ะ มาโม้ต่อคราวหน้านะจ๊ะ ยังมีอีกหลายอย่างเลยจะบอกให้ อยากเป็นคนเก่งน่ะ ทำมันซะมากมาย...อิอิ

คนนี้น่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดด...อิอิ

เช้านี้ต้องไปส่งนกทำงาน หลังจากดารินไปทำงานแล้วก็ไม่ได้ออกกำลังกายเบี้ยวมา 3 วันแล้วล่ะ ติดเกมส์ขายอาหารน่ะซิ อีกอย่างอยากออกไปเดิน-วิ่งนอกบ้านมากกว่าด้วยแต่อากาศเย็นแบบนี้ไม่ไหว อู้ๆๆๆ สัก4 เดือนจะดีไหมน๊า....ความตั้งใจล้มเหลว 99% ยังมีติ่งอีก 1% จะกลับไหมเนี่ย



มองดูท้องฟ้าไม่มีแดด แต่ก็ไม่ครี้ม ออกไปหลังบ้านถ่ายรูปเล่นดีกว่า ใบไม้เต็มพื้นเลย วันนี้แต่งตัวโทนแดงซะด้วย ขี้นกล้องดีแต้ๆๆ Open-mouthed เอาล่ะ แอ๊ดชั่น....แชะ แชะ แชะ

กางเกงตัวที่ใส่อยู่นี่ เข้าบ้านต้องถอดนะจ่ะ เพราะไม่เช่นนั้นคันๆๆๆๆๆ อากาศในบ้านอุ่นเพราะเปิดฮีตเตอร์นั่นเอง เป็นกางเกงยาวเหมือนถุงน่องแต่หนากว่า ปีที่แล้วไม่เจอ ไมรู้ที่ซื้อปีนี้เพื่อนพาไปแถมแคลียร์แลนซ์อีกด้วย ซื้อมาซะหลายตัวใส่เผื่อได้หลายปีทีเดียว