29 มกราคม 2556
โอ้ท : มิสเตอร์มีอะไร ทำไมตำรวจที่ซานฟรานซิสโก ส่งจดหมายมา (เห็นจดหมายแต่ไม่ได้อ่าน)
มิสเตอร์ : ไม่รู้ ตำรวจให้โทรไปหา
30 มกราคม 2556
มิสเตอร์เปิดประตูเข้าบ้านมา หน้าเข้ม...
โอ้ท : มิสเตอร์มีอะไร งานมีปัญหาเหรอ?
มิสเตอร์ : ยูน่ะ มีปัญหา
โอ้ท : อะไร? (เสียงตกใจ) ไอไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
มิสเตอร์ : ก็จดหมายตำรวจน่ะ เรื่องของยู ยูส่งของอะไรให้ใคร
โอ้ท : ของอะไร ? (ทำหน้า งง เสียง งง)
มิสเตอร์ : ส่่งชุดชั้นในให้ใครที่แคลิฟอเนียล่ะ
โอ้ท : ป่าวนะ ไม่ได้ส่ง ทำไม?
มิสเตอร์ : ตำรวจที่ส่งจดหมายมา ไอคุยวันนี้ ส่งภาพซองไปรษณีย์ กับของที่ยูส่ง ลายมือยู่ ที่อยู่ผู้ส่งก็ยู ยูทำอะไรในอีเบย์ หรือ รีแฮชหรือเปล่าเมื่อเดือน สิงหาคม ปีที่แล้ว (เปิดอีเมล์ให้ดูภาพ) นี่ไง
โอ้ท : ไอแลกของใช้ผู้หญิงที่เวบรีแฮช ใช่ๆ นี่ของไอ (ชุดนอนเซ็กซี่ สองชิ้น เสื้อ กับ กกน.)
มิสเตอร์: ก็ยูส่งไปให้คนที่เขาไม่อยากได้
โอ้ท : ไม่ใช่แล้วนะ เพราะเวบนี้แลกของกัน ผู้หญิงทั้งนั้น แล้วไอก็ไม่เคยส่งให้ใครที่เขาไม่อยากได้ด้วย ไอจะเป็นคนส่งของก่อน แล้วเขาได้รับ จะส่งมาให้ไอ จะเช็คในเวบดูนะ
หลังจากจัดการเช็คข้อมูลในเวบรีแฮช www.rehashclothes.com ปรากฎว่าข้อมูลทั้งหมดยังอยู่ ยกเว้น หนึ่งรายที่ทำการแลกเปลียนกันไป ไม่มีข้อมูล แต่มีแจ้งไว้ว่าข้อมูลของบุคคลนั้นถูกลบออกโดยเจ้าของข้อมูล โอ้ทเปิดให้มิสเตอร์ดู และปริ้นทุกหน้าที่เห็นข้อความที่แจ้งว่าข้อมูลถูกลบจากเจ้าของข้อมูล ยังดีที่ในประวัติการแลกที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วมีรายละเอียดบอกทั้งหมด แลกเมื่อไร ของแลกคืออะไรบ้าง รวมทั้งแลกกับใคร แต่ในข้อมูลตอนนี้แสดงเพียง ชื่อบุคคลที่ลบข้อมูลออกไปแล้ว โอ้ทปริ้นทุกหน้า พร้อมทั้งให้ชื่อล๊อกอินและพาสเวิร์ด(ใหม่เปลียนเพื่อให้ตำรวจเช็คแล้วหลังจากจบเรื่องจะเปลียนอีกรอบ)
โอ้ท: มิสเตอร์ เอกสารทั้งหมดนะ ยูเข้าไปดูก่อนคุยกับตำรวจนะ จะเห็นภาพของทั้งหมดที่ไอแลก กับแต่ละคน มีชื่อ ที่อยู่คนที่ไอแลกด้วย ยกเว้น คนนี้ข้อมูลลบไปแล้ว
ก่อนนอนโอ้ทนีกได้ว่าแลกกับเสื้อตัวไหน ได้เอาให้มิสเตอร์ดู เป็นเสื้อสายเดี่ยว ลักษณะเดียวกับชุดนอนของโอ้ทเพียงแต่ของโอ้ทมี กกน. ด้วย
31 มกราคม 2556
มิสเตอร์กลับมาบ้าน...
โอ้ท : ตำรวจว่าอย่างไรบ้าง?
มิสเตอร์ : ยังไม่ตอบมาเลย
โอ้ท : โทรไม่ติดเหรอ?
มิสเตอร์ : เปล่า ไอส่งอีเมล์ไป
ขณะที่โอ้ทกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว...
มิสเตอร์ : ตำรวจตอบมาแล้ว
โอ้ท : (รีบมาดูอีเมล์) ว่าไง?
มิสเตอร์: บอกว่ายูไม่มีความผิด อินโนเซ้นท์ innocent
โอ้ท : เยๆๆ ก็บอกแล้วไอไม่ได้ทำอะไรผิด (อ่านข้อความที่ตำรวจส่งมา) ...หมายความว่ามีคนอื่นๆในเวบนี้โดนเหมือนไอด้วยใช่ไหม ที่ตำรวจเขียนมาเนี่ย
มิสเตอร์ : ใช่ ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้หญิงคนนี้มาแลกของแล้วให้ส่งไปที่อยู่แฟนเก่า โดยมีประสงค์ไม่ดี แต่ใช้คนอื่นเป็นคนส่ง
ปล.โอ้ทเขียนแจ้งไปทางเวบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้ระมัดระวังคนแบบนี้แฝงเข้ามา คนไม่รู้เรื่องกลายเป็นแพะ เป็นคดีความได้ เมื่อวานกังวลมาก กลัวต้องไปนอนในคุก ทั้งๆที่ไม่ได้ทำความผิด
Thursday, January 31, 2013
Sunday, January 27, 2013
Wednesday, January 23, 2013
ได้ความล่ะ...
24 มค 2556...
วันนี้โทรกลับไปโรงเรียน ได้คุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว ได้ข้อมูลและสิ่งที่ต้องทำ ต้องเตรียม และเริ่มจัดการ...
1. ดูเวบประเมินผลการศึกษาจากของเราให้ใช้สมัครเรียนที่นี่ได้ พร้อมปริ้นแบบฟอร์มเอกสารที่ต้องกรอก และส่งให้พ่อที่ไทย เพื่อไปติดต่อขอทรานสคริปภาษาอังกฤษพร้อมส่งตรงจากมหาวิทยาลัยมาที่สำนักประเมินผล แต่จะได้เรื่องอย่างไรต้องติดตาม
2. กรอกแบบฟอร์มเพื่อสมัคร ใช้บริการของเวบประเมินผล www.wes.org ที่โรงเรียนแจ้งมา แต่เมื่อถึงขั้นตอนชำระค่าบริการ ฉุกคิดว่าหากเอกสารยังไม่ได้เร็วนี้ ถ้าชำระค่าบริการ(แพงเหมือนกัน หลักร้อย มีให้เลือกตามสิ่งที่เราต้องการประเมิน)ไปแล้วจะมีกำหนดระยะที่ต้องส่งเอกสารไปไหม โทรติดต่อ รอสายนานมาก ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ สุดท้ายยังไม่ชำระ รอให้เอกสารถึงพ่อ แล้วพ่อติดต่อที่มหาวิทยาลัยก่อนดีกว่า
3.กรอกแบบฟอร์มสมัครเข้าเรียนของโรงเรียน และจัดการพร้อมส่งไปรษณีย์ พร้อมค่าสมัคร $10 (แต่ละโรงเรียนต่างกัน) จากนั้นรอทางโรงเรียนติดต่อ แจ้งว่าต้องทำอะไรต่อไป ที่รู้มาโอ้ทต้องทดสอบการอ่าน การเขียน และ คณิตศาสตร์พื้นฐานด้วย เมื่อไรทางโรงเรียนจะแจ้งหลังจากใบสมัครรับเข้าระบบแล้ว ในการสมัครโอ้ทต้องเตรียมหลักฐานยืนยันว่าเป็นพลเมืองของรัฐนี้ด้วย เพื่อจะใช้สิทธิอัตราหน่วยกิตของรัฐซึ่งถูกกว่าอัตราอื่นๆ
4.จดรายการเอกสารที่ต้องเตรียมไว้ อะไรเสร็จแล้วจะได้รู้ อะไรยังไม่มี ไม่เสร็จจะได้รู้
มิสเตอร์กลับมาตอนเย็น รายงานความคืบหน้า พร้อมบอกไปด้วยว่า
"ไอตื่นเต้นที่จะได้เป็นนักเรียน"
วันนี้โทรกลับไปโรงเรียน ได้คุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว ได้ข้อมูลและสิ่งที่ต้องทำ ต้องเตรียม และเริ่มจัดการ...
1. ดูเวบประเมินผลการศึกษาจากของเราให้ใช้สมัครเรียนที่นี่ได้ พร้อมปริ้นแบบฟอร์มเอกสารที่ต้องกรอก และส่งให้พ่อที่ไทย เพื่อไปติดต่อขอทรานสคริปภาษาอังกฤษพร้อมส่งตรงจากมหาวิทยาลัยมาที่สำนักประเมินผล แต่จะได้เรื่องอย่างไรต้องติดตาม
2. กรอกแบบฟอร์มเพื่อสมัคร ใช้บริการของเวบประเมินผล www.wes.org ที่โรงเรียนแจ้งมา แต่เมื่อถึงขั้นตอนชำระค่าบริการ ฉุกคิดว่าหากเอกสารยังไม่ได้เร็วนี้ ถ้าชำระค่าบริการ(แพงเหมือนกัน หลักร้อย มีให้เลือกตามสิ่งที่เราต้องการประเมิน)ไปแล้วจะมีกำหนดระยะที่ต้องส่งเอกสารไปไหม โทรติดต่อ รอสายนานมาก ไม่มีเจ้าหน้าที่รับ สุดท้ายยังไม่ชำระ รอให้เอกสารถึงพ่อ แล้วพ่อติดต่อที่มหาวิทยาลัยก่อนดีกว่า
3.กรอกแบบฟอร์มสมัครเข้าเรียนของโรงเรียน และจัดการพร้อมส่งไปรษณีย์ พร้อมค่าสมัคร $10 (แต่ละโรงเรียนต่างกัน) จากนั้นรอทางโรงเรียนติดต่อ แจ้งว่าต้องทำอะไรต่อไป ที่รู้มาโอ้ทต้องทดสอบการอ่าน การเขียน และ คณิตศาสตร์พื้นฐานด้วย เมื่อไรทางโรงเรียนจะแจ้งหลังจากใบสมัครรับเข้าระบบแล้ว ในการสมัครโอ้ทต้องเตรียมหลักฐานยืนยันว่าเป็นพลเมืองของรัฐนี้ด้วย เพื่อจะใช้สิทธิอัตราหน่วยกิตของรัฐซึ่งถูกกว่าอัตราอื่นๆ
4.จดรายการเอกสารที่ต้องเตรียมไว้ อะไรเสร็จแล้วจะได้รู้ อะไรยังไม่มี ไม่เสร็จจะได้รู้
มิสเตอร์กลับมาตอนเย็น รายงานความคืบหน้า พร้อมบอกไปด้วยว่า
"ไอตื่นเต้นที่จะได้เป็นนักเรียน"
Tuesday, January 22, 2013
ก้าวแรก...
22 มค 2556
08.00น. หมุนโทรศัพท์ไปโรงเรียนที่จะสมัครเข้าเรียน
โอ้ท: สวัสดีค่ะ ดิฉันภาวินี ต้องการสมัครเข้าเรียนฤดูร้อนนี้ ขอนัดเข้าไปคุยรายละเอียดการสมัครเรียนค่ะ ดิฉันไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกัน แต่มีกรีนการ์ด
ปลายสาย : ต้องโทรกลับไปใหม่ หลัง 10.00น. (โอ้ทได้ยินเขาบอกว่าหลัง) เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่อีกคน พร้อมแจ้งชื่อ นามสกุลให้ เป็นผู้ดูแลนักศีกษาต่างชาติ
โอ้ท: แต่ดิฉันมีกรีนการ์ดนะคะ
ปลายสาย : ใช่ แต่ต้องติดต่อกับ (แจ้งชื่อ นามสกุล)
10.30น. โทรกลับไปอีกครั้ง
โอ้ท: ขอสายคุณ (แจ้งชื่อ นามสกุลเจ้าหน้าที่)
ปลายสาย: คุณ..... ออกไปแล้ว และจะไม่กลับเข้ามา ต้องโทรมาใหม่พรุ่งนี้ 10.00น.
โอ้ท: 10.00น. ตรงเท่านั้นใช่ไหมค่ะ
ปลายสาย : ใช่ค่ะเพราะคุณ...จะเข้ามา 10.00น. แล้วจะออกไปทั้งวัน
โอ้ท : ขอบคุณค่ะ พรุ่งนี้จะโทรมาใหม่
ปลายสาย : ยินดีค่ะ
สรุปยังไม่ได้เรื่องอะไร
08.00น. หมุนโทรศัพท์ไปโรงเรียนที่จะสมัครเข้าเรียน
โอ้ท: สวัสดีค่ะ ดิฉันภาวินี ต้องการสมัครเข้าเรียนฤดูร้อนนี้ ขอนัดเข้าไปคุยรายละเอียดการสมัครเรียนค่ะ ดิฉันไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกัน แต่มีกรีนการ์ด
ปลายสาย : ต้องโทรกลับไปใหม่ หลัง 10.00น. (โอ้ทได้ยินเขาบอกว่าหลัง) เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่อีกคน พร้อมแจ้งชื่อ นามสกุลให้ เป็นผู้ดูแลนักศีกษาต่างชาติ
โอ้ท: แต่ดิฉันมีกรีนการ์ดนะคะ
ปลายสาย : ใช่ แต่ต้องติดต่อกับ (แจ้งชื่อ นามสกุล)
10.30น. โทรกลับไปอีกครั้ง
โอ้ท: ขอสายคุณ (แจ้งชื่อ นามสกุลเจ้าหน้าที่)
ปลายสาย: คุณ..... ออกไปแล้ว และจะไม่กลับเข้ามา ต้องโทรมาใหม่พรุ่งนี้ 10.00น.
โอ้ท: 10.00น. ตรงเท่านั้นใช่ไหมค่ะ
ปลายสาย : ใช่ค่ะเพราะคุณ...จะเข้ามา 10.00น. แล้วจะออกไปทั้งวัน
โอ้ท : ขอบคุณค่ะ พรุ่งนี้จะโทรมาใหม่
ปลายสาย : ยินดีค่ะ
สรุปยังไม่ได้เรื่องอะไร
Monday, January 21, 2013
Sunday, January 20, 2013
Friday, January 18, 2013
ผลสรุป เรียน เรียน...ยังจ่ะยังไม่สรุป...(มีนตี๊บ)
18 มกราคม 2556...
วันนี้วันที่ สี่หลังจากตัดสินใจ และ หาโรงเรียน แต่ยังคงไม่สรุปว่าจะเรียนที่ไหน เรียนอะไร โอ้ยๆ เครียด แบบนี้ล่ะเครียดภายใน ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ความเครียดภายใน ทำให้ป่วยได้ ยังคิดไม่ตก
1. รู้ว่าจะเรียนอะไร
2. หาโรงเรียน ใกล้ๆ ไกลๆ แต่ค่าเทอมแพงมาก
3. พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดูโครงสร้างหลักสูตร วิชาที่สอนของแต่ละโรงเรียน
4. นัดเข้าไปคุย แต่จนวันนี้ เปลียนใจไม่ไป สามโรงเรียนแล้ว หลังจากดูโครงสร้างหลักสูตรแต่ละโรงเรียนอีกหลายรอบ พิจารณา พินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ถามตัวเองให้แน่ๆ เรียนแล้วไม่เบื่อแน่ๆน่ะ ? เรียนจบแล้วสนุก และ ชอบกับงานแขนงนี้/สายนี้แน่นะ?
5. ล่าสุด(วันนี้) ติดต่อโรงเรียนในรัฐ ซึ่งมีแบ่งเป็น สี่แห่ง ตามวิชาที่มีสอน แล้ววิชาที่สนใจก็ไปเรียนที่ไกลซะด้วย เฮ้อ! ไม่พ้นการเดินทาง ไกลที่สุดใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง แต่วิชาที่สนใจ ณ วันนี้เรียนที่เดินทางหนึ่งชั่วโมง
6.วิชาที่พิจารณา วันนี้ คือสิ่งที่ทำได้ดี ณ ขณะนี้ และ ต่อยอด
- Multimedia
- Photo image
เมื่อวาน พิจารณาวิชา Engineering Technology Computer Aid Design ชอบและอยากเรียนตั้งแต่จบ พาณิชย์ แต่ไม่เก่งคำนวน สอบไม่ติด ตอนนั้น ครั้งนี้มีโอกาสแล้ว...แต่ไม่ใช่เด็กจบมัธยมใหม่ๆ จะไหวไหมน๊า? ถ้าเรียนคงไหว ตั้งใจ เพราะเราก็ไม่โง่ แต่...เราชอบทำงานสาขานี้จริงเหรอ? (ดูยูทูป และอ่าน ว่ามีงานอะไรบ้างสาขานี้) ว้า! เราต้องเบื่อแน่ๆเลย (มากเรื่อง เรื่องมากอีก)
- วิชาแขนงนี้คือการออกแบบเขียนแบบด้วยโปรแกรมออโต้แคด 2D 3D แต่ปัจจุบันมีโปรแกรมสำเร็จรูปขายไม่แพง Revit และมียูทูปสอนฟรีอีกด้วย ดังนั้นมีตัวเลือกอื่น ไม่ต้องเรียนในระบบการศึกษาก็ได้ ไม่ต้องเรียนวิชาพื้นฐานให้ มีน ซื้อโปรแกรมมาเรียนเองก็ได้เน่อะ
7. ปล่อยวางทั้งหมด แล้ว หันมามองสิ่งที่เราทำได้ดี ณ ขณะนี้ แล้วดูโครงสร้างหลักสูตรใหม่ ถามตัวเองอีก...งานสาขานี้เราชอบไหม? ทำแล้วสนุกกับงานไหม? ที่สำคัญอิสระ หลากหลาย แม้รายได้จะน้อยกว่าสาขา อื่นๆ ที่กล่าวมา
8. หาโรงเรียนออนไลน์...แต่ต้องเป็นที่ยอมรับของวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย ในกรณีอาจจะเรียนต่อ หรือ ธุรกิจ บริษัทฯ ต่างยอมรับเมื่อเข้าตลาดงาน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Accredited ซึ่งออนไลน์มีไม่มาก
9. เอ! เรียน สองสาขาควบกันได้ไหมน๊า? ข้อมูลที่หาได้บอกว่า ขึ้นอยู่กับสถาบันนั้นๆ
10. เอาล่ะ...ตอนนี้ รอข้อมูลเพิ่มเติมที่ขอทางโรงเรียนในสามสาขานั้นมาพิจารณาอีกครัังก่อนก็แล้วกัน แล้วคุยกับนายทุนให้แน่ๆ อีกครั้ง
11. ที่แน่ๆ รู้ตัวเองว่าต้องเรียนกับครู จะได้ผลกว่าเรียนเอง เพราะไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบฟัง และ ดู เป็นวิธีที่เข้าใจมากที่สุด
โรงเรียนที่พิจารณา ณ วันนี้ Delaware Technology Community College
วันนี้วันที่ สี่หลังจากตัดสินใจ และ หาโรงเรียน แต่ยังคงไม่สรุปว่าจะเรียนที่ไหน เรียนอะไร โอ้ยๆ เครียด แบบนี้ล่ะเครียดภายใน ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ความเครียดภายใน ทำให้ป่วยได้ ยังคิดไม่ตก
1. รู้ว่าจะเรียนอะไร
2. หาโรงเรียน ใกล้ๆ ไกลๆ แต่ค่าเทอมแพงมาก
3. พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดูโครงสร้างหลักสูตร วิชาที่สอนของแต่ละโรงเรียน
4. นัดเข้าไปคุย แต่จนวันนี้ เปลียนใจไม่ไป สามโรงเรียนแล้ว หลังจากดูโครงสร้างหลักสูตรแต่ละโรงเรียนอีกหลายรอบ พิจารณา พินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ถามตัวเองให้แน่ๆ เรียนแล้วไม่เบื่อแน่ๆน่ะ ? เรียนจบแล้วสนุก และ ชอบกับงานแขนงนี้/สายนี้แน่นะ?
5. ล่าสุด(วันนี้) ติดต่อโรงเรียนในรัฐ ซึ่งมีแบ่งเป็น สี่แห่ง ตามวิชาที่มีสอน แล้ววิชาที่สนใจก็ไปเรียนที่ไกลซะด้วย เฮ้อ! ไม่พ้นการเดินทาง ไกลที่สุดใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง แต่วิชาที่สนใจ ณ วันนี้เรียนที่เดินทางหนึ่งชั่วโมง
6.วิชาที่พิจารณา วันนี้ คือสิ่งที่ทำได้ดี ณ ขณะนี้ และ ต่อยอด
- Multimedia
- Photo image
เมื่อวาน พิจารณาวิชา Engineering Technology Computer Aid Design ชอบและอยากเรียนตั้งแต่จบ พาณิชย์ แต่ไม่เก่งคำนวน สอบไม่ติด ตอนนั้น ครั้งนี้มีโอกาสแล้ว...แต่ไม่ใช่เด็กจบมัธยมใหม่ๆ จะไหวไหมน๊า? ถ้าเรียนคงไหว ตั้งใจ เพราะเราก็ไม่โง่ แต่...เราชอบทำงานสาขานี้จริงเหรอ? (ดูยูทูป และอ่าน ว่ามีงานอะไรบ้างสาขานี้) ว้า! เราต้องเบื่อแน่ๆเลย (มากเรื่อง เรื่องมากอีก)
- วิชาแขนงนี้คือการออกแบบเขียนแบบด้วยโปรแกรมออโต้แคด 2D 3D แต่ปัจจุบันมีโปรแกรมสำเร็จรูปขายไม่แพง Revit และมียูทูปสอนฟรีอีกด้วย ดังนั้นมีตัวเลือกอื่น ไม่ต้องเรียนในระบบการศึกษาก็ได้ ไม่ต้องเรียนวิชาพื้นฐานให้ มีน ซื้อโปรแกรมมาเรียนเองก็ได้เน่อะ
7. ปล่อยวางทั้งหมด แล้ว หันมามองสิ่งที่เราทำได้ดี ณ ขณะนี้ แล้วดูโครงสร้างหลักสูตรใหม่ ถามตัวเองอีก...งานสาขานี้เราชอบไหม? ทำแล้วสนุกกับงานไหม? ที่สำคัญอิสระ หลากหลาย แม้รายได้จะน้อยกว่าสาขา อื่นๆ ที่กล่าวมา
8. หาโรงเรียนออนไลน์...แต่ต้องเป็นที่ยอมรับของวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย ในกรณีอาจจะเรียนต่อ หรือ ธุรกิจ บริษัทฯ ต่างยอมรับเมื่อเข้าตลาดงาน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Accredited ซึ่งออนไลน์มีไม่มาก
9. เอ! เรียน สองสาขาควบกันได้ไหมน๊า? ข้อมูลที่หาได้บอกว่า ขึ้นอยู่กับสถาบันนั้นๆ
10. เอาล่ะ...ตอนนี้ รอข้อมูลเพิ่มเติมที่ขอทางโรงเรียนในสามสาขานั้นมาพิจารณาอีกครัังก่อนก็แล้วกัน แล้วคุยกับนายทุนให้แน่ๆ อีกครั้ง
11. ที่แน่ๆ รู้ตัวเองว่าต้องเรียนกับครู จะได้ผลกว่าเรียนเอง เพราะไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบฟัง และ ดู เป็นวิธีที่เข้าใจมากที่สุด
โรงเรียนที่พิจารณา ณ วันนี้ Delaware Technology Community College
Wednesday, January 16, 2013
เครียด กลัวโรงเรียนไม่รับ
16 มกราคม 2556...
หลังจากค้นพบตัวเอง (ปล่อยเวลาผ่านไปตั้งสี่ปี ยังไม่สาย บอกตัวเอง) เมื่อวาน ในหัวเหม่งก็ไม่คิดอะไรอื่น หาข้อมูล อ่านๆ เทียบโครงร่างหลักสูตรแต่ละสถาบัน ค่าใช้จ่าย ดูยูทูป อ่านฟีดแบคผู้ที่เคยเรียน และใน ที่สุดได้ล่ะ โรงเรียนที่มีการเรียน การสอนตรงกับที่ต้องการ Delaware College Art and Design หลักสูตรสูงสุดของสถาบันนี้สองปี ได้ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเทียบเท่าอะไร เรียกว่า Associate interior design จากนั้นหากต้องการต่อ ปริญญาตรีสามารถโอนวิชาเรียนต่อที่สถาบัน Partnership (ร่วมกันวางรูปแบบ DCAD) สองมหาวิทยาลัย คือ Pratt ที่นิวยอร์ก และ Cororan ที่วอชิงตันดีซี หากจะเรียนให้จบปริญญาตรี หรือ เรียนต่อเนื่องจนจบ ปริญญาโท ต้องเรียนกับสองสถาบันนี้ซึ่งคงเป็นไปได้ยากเนื่องจากไกลบ้าน ระยะทางใช้เวลาเดินทาง อย่างน้อย สองชั่วโมง และความต้องการของโอ้ท คือต้องการเรียนปฎิบัติควบคู่กับทฤษฎีซึ่ง สองสถาบันปฎิบัติจะน้อย สรุปสถาบันที่เป็นหนึ่งในดวงใจตอนนี้คือ DCAD (Delaware College Art and Design)
โอ้ท : มิสเตอร์ ยูจ่ายค่าเทอมให้ไอได้แน่ๆนะ แต่ไอกลัวโรงเรียนไม่รับ เพราะไอวาดรูปไม่เป็น
มิสเตอร์ : ไอหามาให้ได้ ถ้ายูสัญญาว่าจะวาดรูปให้เป็น
ปล่อยเวลาล่วงเลยมาซะป่านนี้เพิ่งค้นพบตัวเอง ก็ยังดีกว่าไม่หวนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบ
เมื่ออยู่ไทยนีกเสมอว่า เรียนด้านนี้ค่าเทอมแพง พ่อ แม่คงจะลำบาก งั้นเรียนวิชาท้องตลาด ค่าเทอมไม่แพงมากก็แล้วกัน จบมาทำงานที่ไม่ตรงสาขาที่เรียนอีก
โอ้ทจบคณะบริหารธุรกิจ สาขาโฆษณาประชาสัมพันธ์ เอกประชาสัมพันธ์ ครั้งแรกที่เข้าไปเป็นลูกพ่อขุนโอ้ทเรียนการจัดการทั่วไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเองจบพาณิชย์ไม่คิดว่าจะเรียนอะไรอื่นๆ ได้เพราะไม่มีพื้นฐาน ทั้งๆที่ชอบคอมพิวเตอร์มากๆ อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ คิดเอง เออเองทั้งหมด เพราะไม่มีใครให้ปรีกษา เรียนการจัดการไปหนึ่งปีไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบบริหาร จะกระโดดไปเรียนคณะมนุษยศาสตร์ด้านภาษา ก็คิดไม่ออกว่าทำได้อีก ดังนั้นคงยังอยู่ในคณะบริหารฯ เลือกสาขาโฆษณา เรียนไปอีกหนึ่งปี คิดอีกว่าจบไปในตลาดงานจะสู้นักศีกษาที่จบนิเทศน์ได้อย่างไรเพราะเขาปฎิบัติเยอะส่วนเราทฤษฎีเยอะ แต่จะย้ายคณะตอนนี้ไม่ทันแล้ว เก็บหน่วยกิจได้เยอะแล้ว สุดท้ายอะไรที่ไม่เสียหน่วยกิจวิชาเทียบกันได้ ก็การประชาสัมพันธ์นี่ล่ะ มีวิชาเลือกอิสระ ชอบมากๆๆ เรียนสบาย เพลิน สนุก ซึ่งใครๆก็ขำ และ ส่ายหัวเพราะวิชาเลือกส่วนมากจะเลือกที่เป็นแนวเดียวกับสาขาที่เรียน แต่โอ้ทเลือกเรียนการวาดภาพ และ เขียนภาพ และเป็นวิชาเดียวที่ได้ G จี (ระบบรามฯ จะมีเกรดเพียงสองตัว คือ G ดีมาก กับ P ผ่าน) เป็นไงล่ะ และจำได้ว่า เคยเรียนเขียนแบบพื้นฐานเมื่อเรียนพาณิชย์ ก็ชอบ ได้ A ด้วย เมื่อทำงานเป็นเซลล์ มีโอกาสเรียนคอมพิวเตอร์ ออโต้แคด ชอบอีก แต่แล้วก็ไม่เคยคิดถึงว่าตัวเองชอบอะไร มาอยู่อเมริกาคิดแต่ว่าเรียนอะไรที่จะมีงาน ซึ่งไม่ได้เรียนอะไรเลยเนื่องจากสาขาวิชาชีพที่จะได้งาน ไม่ใช่สิ่งที่ชอบ ถามตัวเองดีแล้วว่าเรียนไปคงเรียนไม่จบแน่ๆ บทสรุปสี่ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เรียนอะไรจริงจัง เรียนปั้นสิ่งที่สนใจ และชอบเพราะลงมือปฎิบัติ แต่เรียนกับร้านแค่ปั้นเป็น ต่อมาสนใจการถ่ายรูปแบบจริงจัง ค่าเรียนแพงมาก และพิจารณาดีแล้วว่า คงไม่ได้ใช้ประกอบอาชีพ เรียนเองดีที่สุด แต่มาวันนี้สิ่งที่คิดอยากทำที่ไทย ถ้ามีทุน และโอกาสเหมาะ ทำให้นีกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบมานาน อยู่ที่นีชอบดูรายการตกแต่งบ้าน ซื้อบ้าน ขายบ้าน ทุกวันก็ว่าได้ ยกเว้นวันไหนไม่อยู่บ้านนะ มิสเตอร์ยังบอกว่า ใช่ๆ ไอรู้ ถามมิสเตอร์ว่า คิดว่าโอ้ทจะเรียนสำเร็จไหม จะได้งานทำไหมด้านดี มิสเตอร์ตอบมาว่าอาจจะ ก็ถูกเพราะยังไม่ได้เริ่มต้นเลย...
พล่ามมาซะยืดยาว เพราะตอนนี้กำลังไฟลุกโชน เครียดด้วย กลัวโรงเรียนไม่รับ แต่ยังไม่ตีตนไปก่อนไข้ รอได้ไปคุยกับทางโรงเรียนก่อนดีกว่า
ความคิดดีเริ่มต้นปี...ใช้ได้เลย ^_^
หลังจากค้นพบตัวเอง (ปล่อยเวลาผ่านไปตั้งสี่ปี ยังไม่สาย บอกตัวเอง) เมื่อวาน ในหัวเหม่งก็ไม่คิดอะไรอื่น หาข้อมูล อ่านๆ เทียบโครงร่างหลักสูตรแต่ละสถาบัน ค่าใช้จ่าย ดูยูทูป อ่านฟีดแบคผู้ที่เคยเรียน และใน ที่สุดได้ล่ะ โรงเรียนที่มีการเรียน การสอนตรงกับที่ต้องการ Delaware College Art and Design หลักสูตรสูงสุดของสถาบันนี้สองปี ได้ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเทียบเท่าอะไร เรียกว่า Associate interior design จากนั้นหากต้องการต่อ ปริญญาตรีสามารถโอนวิชาเรียนต่อที่สถาบัน Partnership (ร่วมกันวางรูปแบบ DCAD) สองมหาวิทยาลัย คือ Pratt ที่นิวยอร์ก และ Cororan ที่วอชิงตันดีซี หากจะเรียนให้จบปริญญาตรี หรือ เรียนต่อเนื่องจนจบ ปริญญาโท ต้องเรียนกับสองสถาบันนี้ซึ่งคงเป็นไปได้ยากเนื่องจากไกลบ้าน ระยะทางใช้เวลาเดินทาง อย่างน้อย สองชั่วโมง และความต้องการของโอ้ท คือต้องการเรียนปฎิบัติควบคู่กับทฤษฎีซึ่ง สองสถาบันปฎิบัติจะน้อย สรุปสถาบันที่เป็นหนึ่งในดวงใจตอนนี้คือ DCAD (Delaware College Art and Design)
โอ้ท : มิสเตอร์ ยูจ่ายค่าเทอมให้ไอได้แน่ๆนะ แต่ไอกลัวโรงเรียนไม่รับ เพราะไอวาดรูปไม่เป็น
มิสเตอร์ : ไอหามาให้ได้ ถ้ายูสัญญาว่าจะวาดรูปให้เป็น
ปล่อยเวลาล่วงเลยมาซะป่านนี้เพิ่งค้นพบตัวเอง ก็ยังดีกว่าไม่หวนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบ
เมื่ออยู่ไทยนีกเสมอว่า เรียนด้านนี้ค่าเทอมแพง พ่อ แม่คงจะลำบาก งั้นเรียนวิชาท้องตลาด ค่าเทอมไม่แพงมากก็แล้วกัน จบมาทำงานที่ไม่ตรงสาขาที่เรียนอีก
โอ้ทจบคณะบริหารธุรกิจ สาขาโฆษณาประชาสัมพันธ์ เอกประชาสัมพันธ์ ครั้งแรกที่เข้าไปเป็นลูกพ่อขุนโอ้ทเรียนการจัดการทั่วไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเองจบพาณิชย์ไม่คิดว่าจะเรียนอะไรอื่นๆ ได้เพราะไม่มีพื้นฐาน ทั้งๆที่ชอบคอมพิวเตอร์มากๆ อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ คิดเอง เออเองทั้งหมด เพราะไม่มีใครให้ปรีกษา เรียนการจัดการไปหนึ่งปีไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ชอบบริหาร จะกระโดดไปเรียนคณะมนุษยศาสตร์ด้านภาษา ก็คิดไม่ออกว่าทำได้อีก ดังนั้นคงยังอยู่ในคณะบริหารฯ เลือกสาขาโฆษณา เรียนไปอีกหนึ่งปี คิดอีกว่าจบไปในตลาดงานจะสู้นักศีกษาที่จบนิเทศน์ได้อย่างไรเพราะเขาปฎิบัติเยอะส่วนเราทฤษฎีเยอะ แต่จะย้ายคณะตอนนี้ไม่ทันแล้ว เก็บหน่วยกิจได้เยอะแล้ว สุดท้ายอะไรที่ไม่เสียหน่วยกิจวิชาเทียบกันได้ ก็การประชาสัมพันธ์นี่ล่ะ มีวิชาเลือกอิสระ ชอบมากๆๆ เรียนสบาย เพลิน สนุก ซึ่งใครๆก็ขำ และ ส่ายหัวเพราะวิชาเลือกส่วนมากจะเลือกที่เป็นแนวเดียวกับสาขาที่เรียน แต่โอ้ทเลือกเรียนการวาดภาพ และ เขียนภาพ และเป็นวิชาเดียวที่ได้ G จี (ระบบรามฯ จะมีเกรดเพียงสองตัว คือ G ดีมาก กับ P ผ่าน) เป็นไงล่ะ และจำได้ว่า เคยเรียนเขียนแบบพื้นฐานเมื่อเรียนพาณิชย์ ก็ชอบ ได้ A ด้วย เมื่อทำงานเป็นเซลล์ มีโอกาสเรียนคอมพิวเตอร์ ออโต้แคด ชอบอีก แต่แล้วก็ไม่เคยคิดถึงว่าตัวเองชอบอะไร มาอยู่อเมริกาคิดแต่ว่าเรียนอะไรที่จะมีงาน ซึ่งไม่ได้เรียนอะไรเลยเนื่องจากสาขาวิชาชีพที่จะได้งาน ไม่ใช่สิ่งที่ชอบ ถามตัวเองดีแล้วว่าเรียนไปคงเรียนไม่จบแน่ๆ บทสรุปสี่ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เรียนอะไรจริงจัง เรียนปั้นสิ่งที่สนใจ และชอบเพราะลงมือปฎิบัติ แต่เรียนกับร้านแค่ปั้นเป็น ต่อมาสนใจการถ่ายรูปแบบจริงจัง ค่าเรียนแพงมาก และพิจารณาดีแล้วว่า คงไม่ได้ใช้ประกอบอาชีพ เรียนเองดีที่สุด แต่มาวันนี้สิ่งที่คิดอยากทำที่ไทย ถ้ามีทุน และโอกาสเหมาะ ทำให้นีกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบมานาน อยู่ที่นีชอบดูรายการตกแต่งบ้าน ซื้อบ้าน ขายบ้าน ทุกวันก็ว่าได้ ยกเว้นวันไหนไม่อยู่บ้านนะ มิสเตอร์ยังบอกว่า ใช่ๆ ไอรู้ ถามมิสเตอร์ว่า คิดว่าโอ้ทจะเรียนสำเร็จไหม จะได้งานทำไหมด้านดี มิสเตอร์ตอบมาว่าอาจจะ ก็ถูกเพราะยังไม่ได้เริ่มต้นเลย...
พล่ามมาซะยืดยาว เพราะตอนนี้กำลังไฟลุกโชน เครียดด้วย กลัวโรงเรียนไม่รับ แต่ยังไม่ตีตนไปก่อนไข้ รอได้ไปคุยกับทางโรงเรียนก่อนดีกว่า
ความคิดดีเริ่มต้นปี...ใช้ได้เลย ^_^
Tuesday, January 15, 2013
ความคิดดี เริ่มต้นปี...ใช้ได้เลย ^_^
15 มกราคม 2556...เช้านี้ หลังจากมิสเตอร์ไปทำงานแล้ว ราวๆ 9 โมงแจ๋วจัดการกางโต๊ะ(นั่ง)รีดผ้า รีดกางเกงมิสเตอร์ได้ หกตัว(ทั้งหมดที่อยู่ในกองรีด) จากนั้น หยิบเสื้อตัวที่หนึ่ง รีดได้ครึ่งตัว...ในหมองมีความคิดที่อยากทำที่ไทย โปรเจ๊คร้อยล้าน (เว่อร์ไว้ก่อน จะได้เริ่มหรือไม่อีกเรื่อง) เอาล่ะ ต่อไปนี้คิดอะไรได้ต้องเขียนไว้ เป็นโครงสร้าง เป็นการเริ่มต้น ไม่ใช่คิดแล้วปล่อยไปเป็นลม หายไปในอากาศ วางเสื้อไว้ที่โต๊ะรีดแล้วหันไปหยิบคอมฯ จดๆ สิ่งที่คิด วางลำดับ จากนั้นเช็คเฟสบุ๊คสักนิดก็แล้วกัน (ซะแล้ว) แต่ นิดเดียวพอนะ (บอกตัวเอง) ในขณะที่เช็คเฟสบุ๊คไป ในหัวเหม่งๆ ก็ยังคิดๆ ถึงโปรเจ๊คร้อยล้าน แล้วความคิดเรื่องเรียนก็ปิ๋งเข้ามา เออ! ทำไมไม่นีกถึง " การตกแต่งภายใน (Interior Design)" ตั้งนานแล้ววะเนี่ย ชอบตั้งแต่ตอนจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แต่ค่าเทอมบ้านเราแพงมาก ถึงได้จบวิชาทั่วไป ที่คิดว่าจะประกอบอาชีพได้ แต่อาชีพที่ทำก็ไม่ใช่วิชาที่จบมาเล้ย
คิดได้แล้วไม่รีรอ หาข้อมูลซิ มีสถาบันไหนใกล้ๆ บ้าน และค่าเทอมเท่าไรบ้าง เสริจเข้าไป สถานบันที่เด้งดึ๋งขึ้นมา เป็นสถาบันศิลป์ ที่เดียวกับที่ดูหลักสูตรการถ่ายภาพ โอโห ที่นี่แพงมาก เกือบ 9 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐแน่ะ หลักสูตรปริญญาตรี Interior Design - Bachelor of Scienceไม่เรียนแน่ๆ แต่อยากไปชมสถาบัน ครั้งหนึ่งบังเอิญจอดรถที่อาคารใกล้สถาบันฯ ยิ่งอยากชม ครั้งนี้ได้โอกาส กรอกข้อมูลขอเข้าชมซะเลย และได้รับการติดต่อ(ทางสถาบันโทรกลับมา) ยินยันวัน และคุยรายละเอียดวิชาที่สนใจเล็กน้อย วันจ้นทร์ที่ 21 มค 2556 นี่ล่ะ ไม่ได้เป็นนักเรียน ไปเหยียบก็ยังดีวะ (คิด)
สถาบันนี้มีหลายรัฐ และมีใกล้บ้านโอ้ทด้วยแต่อยู่คนละรัฐ จากบ้านประมาณหนึ่งชั่วโมง
ดูที่หน้าหลักสูตร Interior Design - Associate of Science ค่าเทอมทั้งหมดเกือบๆ ห้าหมื่น แต่ไม่ได้ปริญญาตรี และไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เหมือนหลักสูตรด้านบน
จากนั้นหาข้อมูลสถาบันอื่นๆ ต่อ โอ้ทรู้ตัวเองว่าหลักสูตรนี้เรียนเองยากแน่ๆ ขอให้เจอสถาบันที่ค่าเทอมไม่แพงมาก เรียนในสถาบัน เพราะออนไลน์ค่าเทอมถูกกว่ามาก แต่ขอเป็นตัวเลือกสุดท้ายจริงๆ โอ้ทจะนัดไปคุยแต่ละสถาบันที่พิจารณาแล้วไม่ไกลมาก สามารถเดินทางไปไหว แต่จะตัดสินใจเรียนแบบไหน เช่น เรียนจนจบปริญญาตรี หรือ เรียนระยะสั้นเป็นวิชาชีพ ขึ้นอยู่ว่าทางการสอบใบอนุญาตวิชาชีพนี้ต้องการอย่างไร ซึ่งโอ้ทจะหาข้อมูลต่อไป ตอนนี้ นัดไปคุยแต่ละสถาบันก่อน รวบรวมข้อมูล และเลือกที่ค่าเทอมไม่แพงมากนัก และตรงตามที่สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้
มิสเตอร์กลับจากทำงาน เปิดประตูมา
โอ้ท : (ยิ้มหน้าบาน) ไอมีข่าวร้าย
มิสเตอร์ : (สีหน้าตกใจ) อะไร?
โอ้ท : ไอจะเรียนจริงๆ แล้ว
มิสเตอร์ : (ไม่มีคำตอบ)
โอ้ท : เยส ออร์ โน (ตกลงอะป่าว)
มิสเตอร์ : ก็คงต้องได้ละมั่ง
โอ้ท : เยๆๆ (บานแฉ่ง) จากนั้นเล่าว่าหาข้อมูลอะไรได้บ้าง แล้วนัดไปสถาบันแรกวันจันทร์
ดีใจจัง นายทุนอนุมัติ และ เห็นด้วยกับเงื่อนไขของนักเรียน(ในอนาคต)ที่ว่า
โอ้ท : มิสเตอร์ ไอมีเงื่อนไข
มิสเตอร์ : (มองหน้า เงียบ)
โอ้ท : ถ้าไอได้เรียน จบแล้วได้ทำงาน มีรายได้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ไอยังคงใช้เงินยูนะ
แต่ไอจะช่วยค่าใช้จ่ายบ้าง หากช่วยได้ ^_^ แต่ถ้าไอไม่ได้เรียนทุกอย่างก็เหมือน
เดิม ไอก็ใช้เงินยู
มิสเตอร์ : ไอก็คิดอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ (ยิ้ม)
สถาบันอื่นๆ ที่สามารถเดินทางได้ จะนัดต่อไป
1. เดลาแวร์ วิทยาลัยศิลป์ Delaware College of Art ที่นี่ เดินทางประมาณ 30 นาที ค่าเทอม เทอมละราวๆ $2 หมื่น หลักสูตรเรียน สี่เทอม โอโห ไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย แต่ถ้าเรียนแค่ประกาศนียบัตรค่าเรียนคิดตามหน่วยกิต@ $915 + ค่าใช้จ่ายอื่นอีก+ค่าอุปกรณ์
หลักสูตร ตรงตามที่อยากเรียนที่สุดเมื่อเทียบกับสถาบันอื่น
2. วิทยาลัยฮาร์ฟอร์ด Harford Community College อยู่บัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ จากบ้านขับรถ เกือบชั่วโมง ค่าเทอมแบ่งตามสถานภาพ
3. เรียนออนไลน์ ได้ประกาศนียบัตร สถาบันออกแบบ ตกแต่งภายใน The Interior Design Institue ค่าเรียนจบหลักสูตร $1,099 จ่ายงวดเดียวได้ส่วนลด $100 เหลือ $990 หรือจะแบ่งจ่ายได้อีก
6 เดือน $183.17 ต่อเดือน หรือ
24 สัปดาห์ $45.79 ต่อสัปดาห์
4. หากสุดท้ายตัดสินใจไม่เสียตังค์ ยังมีที่นี่ ฟรีออนไลน์ ลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้วจ้า ไม่ได้วุฒิ ซึ่งไม่รู้ว่าสอบใบประกอบวิชาชีพได้ไหม เพราะยังไม่ได้หาข้อมูล
ดูไปดูมา เมาคับป๋ม ขอไปพักก่อนดีกว่า
อ่อ! รีดเสื้อมิสเตอร์ต่อได้อีก ตั้ง สิบตัวแน่ะ ก่อนมิสเตอร์กลับมาน๊า
เครียดกลัวโรงเรียนไม่รับ
ผลสรุปเรียน เรียน...ยังจ่ะยังไม่สรุป...(มีนตี๊บ)
คิดได้แล้วไม่รีรอ หาข้อมูลซิ มีสถาบันไหนใกล้ๆ บ้าน และค่าเทอมเท่าไรบ้าง เสริจเข้าไป สถานบันที่เด้งดึ๋งขึ้นมา เป็นสถาบันศิลป์ ที่เดียวกับที่ดูหลักสูตรการถ่ายภาพ โอโห ที่นี่แพงมาก เกือบ 9 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐแน่ะ หลักสูตรปริญญาตรี Interior Design - Bachelor of Scienceไม่เรียนแน่ๆ แต่อยากไปชมสถาบัน ครั้งหนึ่งบังเอิญจอดรถที่อาคารใกล้สถาบันฯ ยิ่งอยากชม ครั้งนี้ได้โอกาส กรอกข้อมูลขอเข้าชมซะเลย และได้รับการติดต่อ(ทางสถาบันโทรกลับมา) ยินยันวัน และคุยรายละเอียดวิชาที่สนใจเล็กน้อย วันจ้นทร์ที่ 21 มค 2556 นี่ล่ะ ไม่ได้เป็นนักเรียน ไปเหยียบก็ยังดีวะ (คิด)
สถาบันนี้มีหลายรัฐ และมีใกล้บ้านโอ้ทด้วยแต่อยู่คนละรัฐ จากบ้านประมาณหนึ่งชั่วโมง
ดูที่หน้าหลักสูตร Interior Design - Associate of Science ค่าเทอมทั้งหมดเกือบๆ ห้าหมื่น แต่ไม่ได้ปริญญาตรี และไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เหมือนหลักสูตรด้านบน
จากนั้นหาข้อมูลสถาบันอื่นๆ ต่อ โอ้ทรู้ตัวเองว่าหลักสูตรนี้เรียนเองยากแน่ๆ ขอให้เจอสถาบันที่ค่าเทอมไม่แพงมาก เรียนในสถาบัน เพราะออนไลน์ค่าเทอมถูกกว่ามาก แต่ขอเป็นตัวเลือกสุดท้ายจริงๆ โอ้ทจะนัดไปคุยแต่ละสถาบันที่พิจารณาแล้วไม่ไกลมาก สามารถเดินทางไปไหว แต่จะตัดสินใจเรียนแบบไหน เช่น เรียนจนจบปริญญาตรี หรือ เรียนระยะสั้นเป็นวิชาชีพ ขึ้นอยู่ว่าทางการสอบใบอนุญาตวิชาชีพนี้ต้องการอย่างไร ซึ่งโอ้ทจะหาข้อมูลต่อไป ตอนนี้ นัดไปคุยแต่ละสถาบันก่อน รวบรวมข้อมูล และเลือกที่ค่าเทอมไม่แพงมากนัก และตรงตามที่สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้
มิสเตอร์กลับจากทำงาน เปิดประตูมา
โอ้ท : (ยิ้มหน้าบาน) ไอมีข่าวร้าย
มิสเตอร์ : (สีหน้าตกใจ) อะไร?
โอ้ท : ไอจะเรียนจริงๆ แล้ว
มิสเตอร์ : (ไม่มีคำตอบ)
โอ้ท : เยส ออร์ โน (ตกลงอะป่าว)
มิสเตอร์ : ก็คงต้องได้ละมั่ง
โอ้ท : เยๆๆ (บานแฉ่ง) จากนั้นเล่าว่าหาข้อมูลอะไรได้บ้าง แล้วนัดไปสถาบันแรกวันจันทร์
ดีใจจัง นายทุนอนุมัติ และ เห็นด้วยกับเงื่อนไขของนักเรียน(ในอนาคต)ที่ว่า
โอ้ท : มิสเตอร์ ไอมีเงื่อนไข
มิสเตอร์ : (มองหน้า เงียบ)
โอ้ท : ถ้าไอได้เรียน จบแล้วได้ทำงาน มีรายได้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ไอยังคงใช้เงินยูนะ
แต่ไอจะช่วยค่าใช้จ่ายบ้าง หากช่วยได้ ^_^ แต่ถ้าไอไม่ได้เรียนทุกอย่างก็เหมือน
เดิม ไอก็ใช้เงินยู
มิสเตอร์ : ไอก็คิดอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ (ยิ้ม)
สถาบันอื่นๆ ที่สามารถเดินทางได้ จะนัดต่อไป
1. เดลาแวร์ วิทยาลัยศิลป์ Delaware College of Art ที่นี่ เดินทางประมาณ 30 นาที ค่าเทอม เทอมละราวๆ $2 หมื่น หลักสูตรเรียน สี่เทอม โอโห ไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย แต่ถ้าเรียนแค่ประกาศนียบัตรค่าเรียนคิดตามหน่วยกิต@ $915 + ค่าใช้จ่ายอื่นอีก+ค่าอุปกรณ์
หลักสูตร ตรงตามที่อยากเรียนที่สุดเมื่อเทียบกับสถาบันอื่น
2. วิทยาลัยฮาร์ฟอร์ด Harford Community College อยู่บัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ จากบ้านขับรถ เกือบชั่วโมง ค่าเทอมแบ่งตามสถานภาพ
- อาศัยในเขตฮาร์ฟอร์ด | $87 per credit hour |
- อาศัยในรัฐแมรี่แลนด์แต่ไม่อยู่ในฮาร์ฟอร์ด | $174 per credit hour |
- ไม่ได้อาศัยในรัฐแมรี่แลนด์ รวมถึงต่างชาติ | $261 per credit hour |
- ค่าธรรมเนียม ที่นี่มีให้เลือก สองแขนง คือเรียนเพื่อเรียนต่ออีก 4 ปี หรือเพื่อเป็นที่ปรึกษา หลักสูตร Interior Design Associate of Applied Sciences Degree หรือเรียนเพื่อใช้แรงงาน เป็นคนลงมือทำงานนั่นเอง หลักสูตร Certificate in Interior Decorating ซึ่งหลักสูตรนี้วิชาเรียน และ ระยะเวลาเรียนจะน้อยกว่า |
Add 12% of tuition charges based on the Harford
County resident tuition rate |
3. เรียนออนไลน์ ได้ประกาศนียบัตร สถาบันออกแบบ ตกแต่งภายใน The Interior Design Institue ค่าเรียนจบหลักสูตร $1,099 จ่ายงวดเดียวได้ส่วนลด $100 เหลือ $990 หรือจะแบ่งจ่ายได้อีก
6 เดือน $183.17 ต่อเดือน หรือ
24 สัปดาห์ $45.79 ต่อสัปดาห์
4. หากสุดท้ายตัดสินใจไม่เสียตังค์ ยังมีที่นี่ ฟรีออนไลน์ ลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้วจ้า ไม่ได้วุฒิ ซึ่งไม่รู้ว่าสอบใบประกอบวิชาชีพได้ไหม เพราะยังไม่ได้หาข้อมูล
ดูไปดูมา เมาคับป๋ม ขอไปพักก่อนดีกว่า
อ่อ! รีดเสื้อมิสเตอร์ต่อได้อีก ตั้ง สิบตัวแน่ะ ก่อนมิสเตอร์กลับมาน๊า
เครียดกลัวโรงเรียนไม่รับ
ผลสรุปเรียน เรียน...ยังจ่ะยังไม่สรุป...(มีนตี๊บ)
Sunday, January 13, 2013
Wednesday, January 9, 2013
ข่าวต้นปี...จ๊าก
8 มกราคม 2556 เวลาประมาณ หก โมงเย็น เสียงเคาะประตูหน้าบ้าน...ป๊อก ป๊อก ป๊อก ใครมาน๊า บุรุษไปรษณีย์เพิ่งมาส่งของนี่นา เปิดประตูไป อ้าว! คุณตำรวจสาว (ตกใจเล็กน้อยเกิดอะไรขึ้น)
ตำรวจ : มาแจ้งข่าว เมื่อเช้าเพื่อนบ้านของคุณ (ถัดจากบ้านโอ้ทไป สาม สี่หลัง) มีคนพยายามงัด
โอ้ท : ฮ้า! ตายแล้ว กลัวจัง
ตำรวจ : ช่วงเวลา xxx ถึง xxx มีใครอยู่บ้านไหม?
โอ้ท : ฉันอยู่คนเดียวทั้งวัน
ตำรวจ : เห็นใครมีพิรุธ หรือ ท่าทางไม่ชอบมาพากลไหม
โอ้ท : ฉันไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่แต่ในบ้าน ไม่รู้ แล้วบ้านนั้นไม่มีคนอยู่เหรอ แล้วคนร้ายทำยังไง
ตำรวจ : ไม่มีคนอยู่บ้าน เจ้าของบ้านกลับมาเห็นประตูรั้วด้านหลัง เปิดที่หน้าต่างมีรอย พยายามจะเปิด แต่คนร้ายเปลียนใจ ยังไม่ได้เข้าไปในบ้าน
จากนั้นตำรวจขอรายละเอียด ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และแจ้งว่าหากเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลให้โทรรายงานที่สถานีตำรวจ อ้างถึงบ้านที่โดนงัด ตำรวจเดินแจ้งบ้านหลังอื่นๆต่อไป
มิสเตอร์กลับถึงบ้านโอ้ทบอกเรื่องนี้
โอ้ท : มิสเตอร์นี่(ชูไม้เบสบอลที่ซื้อจากร้านของที่ระลึก ขนาดเท่าแขน) จะช่วยไอได้ไหมถ้าคนร้ายมา
มิาเตอร์ : ยูยิงปินเป็น เรามีปิน ถ้าคนร้ายมาก็ยิงเลย
โอ้ท : .................
ตำรวจ : มาแจ้งข่าว เมื่อเช้าเพื่อนบ้านของคุณ (ถัดจากบ้านโอ้ทไป สาม สี่หลัง) มีคนพยายามงัด
โอ้ท : ฮ้า! ตายแล้ว กลัวจัง
ตำรวจ : ช่วงเวลา xxx ถึง xxx มีใครอยู่บ้านไหม?
โอ้ท : ฉันอยู่คนเดียวทั้งวัน
ตำรวจ : เห็นใครมีพิรุธ หรือ ท่าทางไม่ชอบมาพากลไหม
โอ้ท : ฉันไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่แต่ในบ้าน ไม่รู้ แล้วบ้านนั้นไม่มีคนอยู่เหรอ แล้วคนร้ายทำยังไง
ตำรวจ : ไม่มีคนอยู่บ้าน เจ้าของบ้านกลับมาเห็นประตูรั้วด้านหลัง เปิดที่หน้าต่างมีรอย พยายามจะเปิด แต่คนร้ายเปลียนใจ ยังไม่ได้เข้าไปในบ้าน
จากนั้นตำรวจขอรายละเอียด ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และแจ้งว่าหากเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลให้โทรรายงานที่สถานีตำรวจ อ้างถึงบ้านที่โดนงัด ตำรวจเดินแจ้งบ้านหลังอื่นๆต่อไป
มิสเตอร์กลับถึงบ้านโอ้ทบอกเรื่องนี้
โอ้ท : มิสเตอร์นี่(ชูไม้เบสบอลที่ซื้อจากร้านของที่ระลึก ขนาดเท่าแขน) จะช่วยไอได้ไหมถ้าคนร้ายมา
มิาเตอร์ : ยูยิงปินเป็น เรามีปิน ถ้าคนร้ายมาก็ยิงเลย
โอ้ท : .................
Monday, January 7, 2013
แจ๋วแจ่มใส # 34 วันแรก ปีใหม่ 7 มค 2556
ว้า! แจ๋วยังขี้เกียจอยู่เลยค่ะ ตั้งแต่วันหยุดเทศกาลคริสมาสต์ไปหนาวที่บ้านแม่ย่า (-18เซลเซียส หิมะด้วย) กลับมา รวมแล้วหยุดไปสองสัปดาห์ วันนี้กลับไปปฎิบัติหน้าที่วันแรกของปีใหม่ ห้องน้ำสามห้อง ต้องใช้เวลาทำนานกว่าปกติ แม่บ้านเขียนอีเมล์บอกว่าพ่อบ้านทำห้องน้ำสองห้องให้บ้างแล้วนะ แต่ไม่สะอาดเหมือนแจ๋วทำ กระจกรอยหยดน้ำ ฝุ่นเกาะเป็นฝ้าเชียว อ่างล้างหน้า มีคราบเกาะเหนียว และฝุ่นจับหนา โถส้วมไม่สกปรกเพราะการชำระ แต่ฝุ่นหนามากๆ ตามขอบ ฝา
แจ๋วเริ่มด้วยการเทน้ำยาใส่โถส้วมทั้งสามห้อง และเปลียนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สองห้องด้านบน จากนั้นลงไปจัดการห้องนอนด้านล่าง สองห้อง ห้องน้ำ ดูดฝุ่น ถู และขึ้นไปจัดการบนบ้าน ห้องน้ำสองห้อง ดูดฝุ่น ทุกห้อง เช็ดเคาน์เตอร์ครัว โต๊ะกินข้าว ถูพื้นครัว ดูดฝุ่นห้องโถง ทางเดิน เวลาผ่านไป สามชั่วโมงกว่าๆ แจ๋วพอก่อน เพราะหมดเวลา สี่โมงเย็นแล้ว ต้องกลับบ้านล่ะ ยังไม่ได้ปัดฝุ่นที่จับหนาตามเฟอร์นิเจอร์ วันพฤหัสบดีค่อยทำต่อ
แม่บ้านใจดีมากๆ รู้ว่าแจ๋วกลับมาต้องเหนื่อย เลยส่งผ้าซัก แจ๋วไม่ต้องซัก (ซักเครื่อง)
ตัวขี้เกียจยังมีเกาะอยู่บ้าง เพราะแจ๋วยังขี้เกียจอยู่เลยเนี่ย
แจ๋วเริ่มด้วยการเทน้ำยาใส่โถส้วมทั้งสามห้อง และเปลียนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สองห้องด้านบน จากนั้นลงไปจัดการห้องนอนด้านล่าง สองห้อง ห้องน้ำ ดูดฝุ่น ถู และขึ้นไปจัดการบนบ้าน ห้องน้ำสองห้อง ดูดฝุ่น ทุกห้อง เช็ดเคาน์เตอร์ครัว โต๊ะกินข้าว ถูพื้นครัว ดูดฝุ่นห้องโถง ทางเดิน เวลาผ่านไป สามชั่วโมงกว่าๆ แจ๋วพอก่อน เพราะหมดเวลา สี่โมงเย็นแล้ว ต้องกลับบ้านล่ะ ยังไม่ได้ปัดฝุ่นที่จับหนาตามเฟอร์นิเจอร์ วันพฤหัสบดีค่อยทำต่อ
แม่บ้านใจดีมากๆ รู้ว่าแจ๋วกลับมาต้องเหนื่อย เลยส่งผ้าซัก แจ๋วไม่ต้องซัก (ซักเครื่อง)
ตัวขี้เกียจยังมีเกาะอยู่บ้าง เพราะแจ๋วยังขี้เกียจอยู่เลยเนี่ย
Wednesday, January 2, 2013
Subscribe to:
Posts (Atom)