ภาพปี 2553 แพ้มากกว่าปี2552
เมื่อเช้าไปส่งนกที่โรงเรียน ถามนกคลินิคที่ไปหามาเมื่อวันเสาร์อยู่ตรงไหน นกบอกจะไปเป็นเพื่อนตอนบ่าย แต่โอ้ทกล้วมาไม่ทันสอนภาษาไทยให้มาเรีย (มาเรียมีสะใภ้คนลาวพูดภาษาไทย อยากพูดไทยกับสะใภ้ มาเรียเคยเรียนกับเพื่อนของโอ้ทแต่เพื่อนไม่ว่างดังนั้นแนะนำให้โอ้ทสอน แต่ไม่ได้เงินนะ แลกเปลี่ยนด้วยการที่มาเรียสอนภาษาอังกฤษให้โอ้ท คนละหนึ่งชั่วโมงสลับกัน ) นกไม่ได้บอกอะไร แยกจากนกขับตรงไปตามสถานที่แต่ไม่รู้จุดที่แน่นอน วนเข้าไปดูด้านโรงพยาบาล ไม่มีแฮะ งั้นคงอีกฝากนึง ออกมา เจอแล้ว..เย เก่งมากหาจนเจอ เข้าไปยื่นบัตรประกันสุขภาพ กรอกเอกสารคนไข้ใหม่แล้วนั่งรอ คนไข้มีไม่เยอะแต่มาเรื่อยๆ จุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล เดาว่าเหมือนแผนกฉุกเฉิน แต่เปิดรับคนไข้ทั่วไปด้วย มีป้ายในห้องหมอเขียนไว้ว่ากรณีมีคนป่วยเจ็บหนักเข้ามา เจ้าหน้าที่ต้องรับก่อน ซึ่งอาจทำให้คนไข้อื่น ๆ ต้องรอนาน ฉะนั้นคนไข้ต้องยอมรับข้อนี้ด้วย เจ้าที่หน้าเรียกเข้าไป สอบถามเป็นอะไรมา กินยาอะไรมาหรือเปล่า ประจำเดือนล่าสุดเมื่อไร วัดความดัน วัดไข้ แล้วให้กลับไปนั่งรอด้านนอก รออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ นั่งหนาว เพราะแอร์เย็นจัง ดูอุณหภูมิ 70 ฟาเรนไฮต์ แต่ทำไมเย็น
พยาบาลมาเรียกเข้าไปนั่งรอหมอในห้องแป้บนึง หมอเข้ามาดูแขน ถามความเป็นมาว่าทำอะไร ก็บอกไปทำสวน ปลูกต้นไม้ และมีเพื่อนบอกว่าน่าจะเป็น poison ivy (พ้อยชันไอวี่) เกิดจากต้นไม้ชนิดหนึง หาข้อมูลในอินเตอร์เนตแล้ว แผลคล้าย ๆ กับที่เป็น เล่าให้หมอฟังว่า เป็นตุ่มเล็ก ๆ ก่อน แล้วกลายเป็นทางยาวมีน้ำใส ๆ แล้วมีตุ่มใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ทาครีมเจลอยู่สัปดาห์นึงไม่หายเลยไปซื้อคาลาไมน์มาทา แถมคันตามตัวด้วยอีกต่างหาก แต่ไม่เป็นตุ่มเหมือนที่แขน หมอบอกดีเพราะคาลาไมน์ช่วยทำให้แห้ง แต่หมอไม่ได้บอกว่าตกลงเป็นอะไร บอกแต่จะเขียนใบสั่งยาให้ ต้องกิน 2 สัปดาห์ โอ้ทบอกว่าไม่มีปัญหา ขอให้หายเถอะ หมอให้ยาที่กินแล้วง่วงแนะนำให้กินก่อนนอนเพราะจะได้นอนสบาย หมอบอกว่าอาบน้ำร้อนจะยิ่งคันให้ปรับไม่ให้ร้อนไม่ให้เย็นมาก เรียบร้อยหมอออกจากห้อง รอพยาบาลแป้บเดียว เข้ามาพร้อมใบสั่งยาให้เอาไปซื้อเอง พร้อมยา 1 เม็ดให้กินเลย
ค่าเสียหายวันนี้ค่าหมอ $22.60 เพราะมีประกัน ถ้าไม่มีคงจะมากกว่านี้เยอะเชียว ออกมาโทรหานกว่าต้องไปซื้อยา นกบอกมีร้านขายยาด้วยในตึกนั่น เดินกลับเข้าไป เห็นป้ายอยู่น่ะแต่ไม่แน่ใจนึกว่าเป็นของโรงพยาบาลจ่ายคนไข้เหมือนที่บ้านเรา ไปถึงยื่นบัตรประกันสำหรับซื้อยา (คนละใบกับบัตรประกันหาหมอ) พร้อมใบสั่งยา แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าครั้งแรก เจ้าหน้าที่ให้เขียนที่อยู่ เบอร์โทร แพ้ยาอะไร แล้วรอ ไม่นานได้รับยา มียาตัวที่ไม่ต้องมีใบสั่งยาด้วยต้องจ่ายเองแยกจากประกัน $6.21
เสร็จสรรพ วันนี้สบายใจล่ะไปหาหมอมาแล้ว แถมคุยรู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาลเข้าใจด้วย แบบนี้อยู่ได้นาน ไม่ต้องรอมิสเตอร์ถึงวันพฤหัส
ปล. เหตุที่คันคะเยอไม่รู้ว่าเพราะอะไรนี่เข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้ว
......................................................................
จบเรื่องแล้วขอเล่าเรื่องหาหมอที่นี่ให้รู้กันหน่อยนึง
ถ้าไม่สบายจะไปหาหมอเลยเหมือนที่บ้านเราน่ะไม่ได้เด็ดขาด โดยปกติต้องนัดก่อนทุกครั้ง จู่ ๆ เข้าไปเลยไม่ได้รับการรักษา ว่าไปแล้วทุกอย่างก็ว่าได้จะทำอะไรต้องทำการนัดกันก่อน
มาที่เรื่องป่วย ยกเว้นกรณีเลือดตก ยางออก ขั้นปางตายจะมีแผนกฉุกเฉิน หรือไปที่โรงพยาบาลได้เลยฉับพลัน หรือจะเรียกรถพยาบาลก็ได้รับถึงที่ แต่เมื่อเจอสถานที่ไม่ต้องนัดนีเป็นสิ่งที่ไม่ปกติเพราะไม่ต้องนัดก็ได้ แต่ก็ดีเพราะไม่ต้องรอ แต่มีน้อย
คนที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ประกันสุขภาพ (ประกันชีวิตร่วมกันหรือเปล่าข้อนี้ไม่รู้) และจะมีบัตรแยกระหว่างหาหมอ กับซื้อยาต่างหาก ของโอ้ทเองประกันหลักคือมิสเตอร์ แล้วเอาชื่อเข้าร่วม แต่จะมีบัตรแยกให้ต่างหากมีชื่อ ระบุชื่อและเจ้าของประกัน ตอนหาหมอยื่นบัตรหาหมอ ตอนซื้อยายื่นบัตรซื้อยา ประกันสุขภาพที่นี่รวมหาหมอฟันด้วยเพราะไปใช้มาแล้วไม่มีปัญหา ของโอ้ทจะง่ายเพราะใช้ที่เดียวกับมิสเตอร์มีชื่อ นามสกุลตรงกัน เลยไม่ยุ่งยาก ไปถึงไม่มีบัตรยื่นก็ไม่ต้องรอค้น
การจ่ายยา โรงพยาบาลจะไม่จ่ายยาให้ต้องนำใบสั่งยาที่หมอเขียนไปซื้อเองที่ ฟามาร์ซี ซึ่งมีอยู่ทั่วไป ที่นี่จะมียาที่ซื้อเองได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา ซึ่งมีขายตามห้างฯ ทั่วไปที่เคาน์เตอร์ยา หรือ ที่ฟามาร์ซีจัดให้แต่ต้องจ่ายแยกจากประกัน ยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้นที่ฟามาร์ซีจะขายให้ จู่ ๆ เดินไปซื้อเอง ไม่ได้ละจ้า
No comments:
Post a Comment
ขอบคุณมิตรภาพ และความคิดถึงที่เอามาฝากไว้ที่นี่ค่ะ
Thank you for visiting.