วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2552
คุยกะนกเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่าวันจันทร์จะไปไหนกันดีเพราะนกหยุดอยู่บ้าน 1 วัน ไปทะเล หรือ ไปพิพิธภัณฑ์ดีน๊า? ตัดสินใจยังไม่ได้งั้นค่อยว่ากันพรุ่งนี้ละกัน (วันจันทร์)
รุ่งเช้าวันจันทร์โอ้ทตื่นส่งดารินตามปกติ 8 โมงเช้า หลังจากดารินไปทำงานแล้ว เริ่มจัดการตัวเองให้เรียบร้อย รีดผ้า จนใกล้เที่ยง นกเพิ่งตื่น เลยตกลงกันว่าไปทะเลคงไม่ไหวเพราะต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ไป-กลับค่ำพอดี งั้นไปพิพิธภัณฑ์ละกัน Delaware Museum of Natural History ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ตกลงกันแล้วจัดการหาอะไรหม่ำๆ ให้อิ่มท้องก่อนออกเดินทาง นกก็บอกว่าไปหากอล์ฟ(เพื่อนคนไทยทำงานที่เดียวกับนก) ที่ร้านรถกันดีกว่า ไปก็ไปแต่คงไปเที่ยวไม่ทันเพราะเหลือเวลาแค่ครึ่งวันเท่านััน จากบ้านไปหากอล์ฟ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
กอล์ฟกับเพื่อน"นิกกี้" ร่วมกันลงทุนขายแซนด์วิชมีร้านเป็นรถในมหาวิทยาลัย ที่มาที่ไปเป็นยังไงไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่า เป็นกิจการดีทีเดียว ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย แต่กระบวนการจะทำอย่างไร ถ้าใครสนใจต้องศึกษาข้อมูลดีๆ แต่ละรัฐแต่ละเมืองแตกต่างกัน
เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยที่กอล์ฟกะเพื่อนมีรถขายแซนด์วิชอยู่ ต้องวนเพื่อหาที่จอดรถอยู่ 2-3 รอบ เพราะเป็นช่วงเวลาเรียน ซึ่งแน่นอนรถจะเยอะ จอดรถต้องหยอดมิเตอร์ แม้กระทั่งคนขายของก็ต้องหยอด กอล์ฟเองวนเวียนไปหยอดอยู่หลายรอบกว่าจะขายหมดวัน หยอดรถที่ขับมา แต่หลัง 5 โมงเย็นจอดฟรีแล้ว ส่วนรถที่ขายของไม่แน่ใจว่ายังไง ลืมถาม
เมื่อได้ที่จอดรถแล้ว ค่อนข้างไกลจากรถแซนด์วิชของกอล์ฟกะนิกกี้ ต้องเดินกันไปล่ะ อาคารที่เห็นไม่ใช่บ้านนะจ่ะ แต่เป็นสำนักงานการศึกษาของมหาวิทยาลัย ทำอะไรลืมไปแล้ว อ่านป้ายอย่างเดียวไม่ได้จำ
นี่คืออาคารเรียนอยู่ตรงข้ามที่กับที่โอ้ทจอดรถ
ถึงแล้ว หน้าตารถแซนด์วิช มีลูกค้าอยู่พอดี สาวน้อยตัวเล็กนั่น น้องนกของเรานี่เอง
รถขายกาแฟข้างๆ กัน
รถขายอาหารไทย (มั้งเห็นรูปเดาเอา เพราะคนขายเป็นคนไทยด้วย) อยู่ใกล้กันอีกด้าน
รถของกอล์ฟกะนิกกี้ มีลูกค้ามาเข้าคิวยาว เวลาขณะนั้นบ่ายแก่ๆๆ กอล์ฟบอกว่าตอนเที่ยงยุ่งมาก ทำแทบไม่ทัน มากันเป็นแถวยาวเลย นักศึกษาหิวนะซิ
นี่ล่ะ โฉมหน้าเจ้าของกิจการทั้งสองสาวสวย
นิกกี้กำลังทำแซนด์วิชให้ลูกค้าตามสั่ง รายการจะมีสเต๊ก แฮมไข่เบค่อน อะไรก็ว่าไป จำไม่ได้แล้ว ลูกค้าสั่งปุ้บ สาวสวย ก็ทำปั้บ ไม่นานลูกค้าก็ได้อิ่ม เห็นน้องนกของเราไหมจ่ะ ยืนมองด้วยความสนใจอยากทำบ้างอะดิ..อิอิ
ภายในรถมี 2 ด้าน เป็นฝั่งกะทะร้อน กับอีกด้านติดหน้าต่างรับออเดอร์ คราวนี้สาวสวยกอล์ฟทำบ้างล่ะ เสียงดัง "ฉู่ฉ่า" แซนด์วิชร้อนๆ จ้า
คนนี้ขอแจม
เมื่อขายหมดแล้ว ขนมปังเกลีั้ยงเลย เท่าไรไม่รู้ เห็นกล่องใหญ่ๆ เดาได้ว่าเยอะทีเดียว กอล์ฟพาไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านไทยใกล้ๆ ภาพนี้เดาว่าน่าจะเป็นโบสถ์ ถ่ายตอนขับผ่าน รถติดพอดี
ขับตามกอล์ฟ
ถึงแล้วจอดรถริมถนนเหมือนเดิมแต่ไม่ต้องหยอดมิเตอร์เพราะหลัง 5 โมง ฟรี ตอนจอดไม่แน่ใจว่าหยอดหรือเปล่า แต่เห็นหลังมิเตอร์เป็นสีเขียว(หมายถึงยังมีเวลาจอดได้) บางมิเตอร์ สีแดง (หมายถึงต้องหยอดเงิน) แถมไม่มีเหรียญแล้วด้วยซิ เอาไง มีผู้ชายคนนึงเดินมาถามไป ไม่ได้เรื่องเลย แถมบอกให้ไปจอดบนตึกจอดอีกต่างหากเพราะมีคนดูแล ไม่เอาล่ะ จอดไว้แล้วเดินข้ามถนนไปเจอกอล์ฟที่รออยู่ ไม่ได้หยอดเหมือนกัน ระหว่างเดินไปร้านก๋วยเตี๋ยว
นี่ไงจ่ะ เส้นใหญ่เย็นตาโฟ ของโอ้ท จานที่เห็นด้านหลัง ผัดซีอิ้วของนก
ข้าวซอยของกอล์ฟ
อิ่มหนำพุงกาง แยกย้ายกันกลับ ที่แน่ๆ ต้องให้กอล์ฟบอกทางก่อนเพราะไม่รู้ไปทางไหน ระหว่างทางไปต้องจอดแวะปั้มเพราะนกจะเข้าห้องน้ำ ปรากฎว่าตอนออกมาจากปั้มเลี่ยวผิด หลงทางไปไหนมะรู้ กว่าจะวนกลับมาใช้เวลาเป็นชั่วโมง เพราะคิดว่าถนนสายที่รู้จักกลับบ้านได้แต่ดันไม่รู้ว่ากลับทิศไหนเพราะป้ายที่นี่จะมีบอก เหนือ ใต้ด้วย สุดท้ายกลับสู่ถนนเส้นเดิม ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
ปล.ก่อนออกจากรถแซนด์วิชกอล์ฟ โทรบอกดารินว่าจะซื้อแซนด์วิชไปฝากเพื่อนขาย จะถึงบ้าน 18.30 ปรากฎว่าหลงทาง โทรเข้าบ้าน ไม่ยอมรับซะด้วย ที่ไหนได้คุณชายงอน...โอ้ทสายเสมอเลย
ที่นำมาเขียนเพราะอยากให้เห็นว่าชีวิตต่างแดนไม่ได้สบายอย่างที่หลายๆคนคิด ต้องสู้และทำทุกอย่างให้อยู่รอด กอล์ฟกะนิกกี้ ต้องเรียนด้วยและทำงานไปด้วย เหมือนนักเรียนไทยหลายๆ คนที่ต้องสู้ๆๆๆ อยู่ให้ได้และ ให้รอด ขอชมเชย
No comments:
Post a Comment
ขอบคุณมิตรภาพ และความคิดถึงที่เอามาฝากไว้ที่นี่ค่ะ
Thank you for visiting.