Thursday, June 23, 2016
ป้าโอ้ททำซูชิ
22 มิถุนายน 2559 วันนี้ป้าโอ้ททำซูชิเองล่ะ ครั้งแรก ต้องออกสื่อ ^)^ ไม่ใช่รายการสอนทำอาหารนะคะ อยากทำออกสื่อเฉยๆ
Saturday, June 18, 2016
Tuesday, June 14, 2016
Monday, June 13, 2016
เดินเล่นสักนิด นอร์ทดาโกต้า (ขับรถไปบ้านแม่ย่า #7)
1 มิถุนายน 2559 วันนี้อากาศดีกว่าเมื่อวาน ออกมาเดินเล่นแป้บก่อนพาแม่ย่าไปโรงพยาบาล
Sunday, June 12, 2016
ขึ้นฝั่งที่สเกกเวย์ อลาสก้า นั่งรถไฟชมธรรมชาติ 8 กรกฎาคม 2558
8 กรกฎาคม 2558
ดูอัลบัมภาพ
วันนี้มีเหตุ เหมือนฝันที่เป็นจริง แต่ไม่ใช่ฝันดีสักเท่าไร เป็นฝันร้ายเกือบจะร้ายมาก แต่สุดท้ายฝันร้ายกลายเป็นดี เหตุมีอยู่ว่า...
หลังจากพนักงานรถบัสสาวพูดภาษาไทยเก่งส่งนักท่องเที่ยวปลายทางแล้ว มีเวลาร่วมสองชั่วโมง มิสเตอร์และป้าพากันเดินขึ้นเขาเพื่อจะไปให้ถึงปลายทางบนเขาปู้นนนน นั่นคือบึง(อะไรสักอย่างป้าโอ้ทจำไม่ได้แล้ว เพราะกว่าจะเขียนเล่าผ่านมาหนึ่งปี) กว่าจะเดินขึ้นไป เอ้ย! ตะกายกันขึ้นไป (หมายถึงสองป้านะเพราะมิสเตอร์นำหน้าหายไปก่อนร่วมครึ่งชั่วโมง) หอบแห่ก หลายแห่ก ป้าโอ้ทต้องเดินไปพักไป เพราะไม่เช่นนั้นหอบขึ้นแน่ๆ ปกติเดินบนเขาก็จะเดินไป พักไปแบบนี้ล่ะ แต่ไม่กังวลเวลาเหมือนครั้งนี้นะ
ในที่สุดมิสเตอร์เดินสวนทางมา บอกว่าไปได้แค่บึงเล็ก จะไปถึงปลายทางที่ตั้งใจเวลาเราไม่พอนะ เหลือเวลาเพียงสามสิบนาทีเราต้องเดินลงกันแล้วล่ะ ป้าโอ้ทกะพี่แดงให้มิสเตอร์พาเดินไปจนถึงบึง สร้างภาพกันเล็กน้อย แล้วรีบเดินกลับ แต่ด้วยหนทางไม่ได้ราบเรียบเน่อะ ก็บนเขา แล้วยังต้องเร่งกับเวลาด้วย ป้าโอ้ทบอกมิสเตอร์ให้ล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ เผื่อไม่ทันยังไงจะได้แจ้งทางเรือว่าสองป้ายังไม่ถึงเรือ
สองป้ากึ่งเดินกึ่งวิ่ง แทบจะกลิ้งตกจากเขา มองลงมาเห็นเรือลำโต ค่อยชื้นใจนิด (ชื้นจริงๆ ไม่ใช่ชื่นใจ เพราะเรือยังอยู่) ลงมาถึงพื้นราบสองคนยังคงจ้ำพรวด ดูเหมือนจะใกล้ แต่ทำไมไม่ถึงสักที
ในที่สุด(รอบที่สอง) เราก็ถึงเรือ มีเวลาตั้งยี่สิบนาที สองสาวสร้างภาพกันสบายใจ จนกระทั่งเดินเข้าไปถึงจุดเช็คนักท่องเที่ยวกลับเข้าเรือ เราสองคนอยู่คนละแถว พี่แดงเช็คก่อน ปรากฎว่าการ์ดตีคืน พี่แดงไม่มีบันทึกของเรือ ป้าโอ้ทรีบพรวดไปที่เจ้าหน้าที่แถวพี่แดง ให้ข้อมูลห้อง ชื่อของตัวเอง แล้วก็ผลเดียวกับพี่แดง ตอนนั้นป้าโอ้ทใจป่วนแล้ว งานเข้า! ถามเจ้าหน้าที่ทันที " ฉันมาเรือถูกไหม" เจ้าหน้าที่ดูการ์ดเราสองคน ตอบมาว่า " ไม่ถูก " เอาล่ะงานนี้ ได้เป็นหมูเฝ้าเกาะกันแน่ๆ เจ้าหน้าที่ชี้ไปที่เรือลำตรงข้ามที่มองเห็น สองคนไม่รอช้า รีบจ้ำพรวดๆ ใช้เวลาสิบนาทีถึงเรือ ในระยะทางประมาณหนึ่งไมล์ คราวนี้ป้าโอ้ทรอบคอบขึ้นมาเชียว ก่อนจะถึงเรือลำที่มุ่งนี้ไป เห็นชื่อประจำเรือ เฮ้ย! ไม่ใช่ลำนี้ ยังไม่แน่ใจ หันไปถามนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินกลับเรือว่า เรือลำนี้ชื่ออะไร ได้คำตอบมา ชัวร์ป้าบบบบบ! หันไปบอกพี่แดง เรามาผิดลำอีกแล้ว
สงสารพี่แดงมาก หน้าซีดยิ่งกว่าไก่ต้มอีก ป้าโอ้ทโบกรถหลายคันแต่ไม่มีใครจอด พี่แดงบอกว่าเหนื่อย ป้าโอ้ทสงสาร ตัวเองก็เหนื่อย เริ่มจะหอบแต่ปากบอกพี่แดงไปว่า " ยังไงก็หยุดไมไ่ด้นะ" เหลือเวลาไม่ถึงสิบนาที เราจะทันไม่ทันต้องเสี่ยงล่ะ
ในระหว่างนั้นป้าโอ้ทเห็นรถแวนคันหนึ่งขับวนอยู่แถวนั้น นึกในใจว่า อยากจะขอให้เขาไปส่งที่เรือ แต่ไม่ทัน รถขับออกไปจากตรงนั้นซะก่อน และแล้วเราก็ผ่านเรือลำแรกที่ไปผิด นั่นล่ะถึงได้พบว่า เราสะเพร่า มัวแต่ถ่ายรูป ไม่ดูป้ายบอกทาง เดินผ่านไปได้
เรืออยู่ตรงหน้า แต่ระยะทางช่างแสนไกล เหลือเวลาห้านาที โอ้ย! ไม่รอดแน่ๆ ในใจป้าโอ้ทนึกว่า ถ้าเรือขยับแล่นออกไปต่อหน้าต่อตา ในขณะที่เราไปถึงท่าพอดี เราคงจะเศร้ากันที่สุด แต่แล้วเหมือนสวรรค์เข้าข้างเราสองคน รถแวนคันที่ป้าโอ้ทเห็นก่อนหน้านั้นมาจอด มีคนตะโกนว่า " ยูจะไปเรือนั่นใช่ไหม รถมารับยู" เยๆๆ รอดแล้ว ป้าโอ้ทหายใจไม่สะดวก หันไปดูพี่แดง ซีดกว่าเดิม
เมื่อรถแวนจอดหน้าท่าเรือ เราสองคนรีบวิ่งๆ เข้าไป นักท่องเที่ยวบนลำเรือ ไม่รู้จำนวนกี่พัน ทุกคนที่อยู่บนระเบียงห้องตัวเองโห่ลงมาที่สองป้า สนั่นท่าเรือ เมื่อเช็คเข้าเรือเรียบร้อย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ตักเตือนเราเหมือนเด็กน้อย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่อีกคนโทรแจ้งมิสเตอร์ว่าเรากลับมาแล้ว พนักงานคนนึงกระซิบบอกป้าโอ้ทว่า ยูโชคดีนะเนี่ย อีกห้านาทียูได้นอนที่เกาะนี้แล้ว
ดูอัลบัมภาพ
วันนี้มีเหตุ เหมือนฝันที่เป็นจริง แต่ไม่ใช่ฝันดีสักเท่าไร เป็นฝันร้ายเกือบจะร้ายมาก แต่สุดท้ายฝันร้ายกลายเป็นดี เหตุมีอยู่ว่า...
หลังจากพนักงานรถบัสสาวพูดภาษาไทยเก่งส่งนักท่องเที่ยวปลายทางแล้ว มีเวลาร่วมสองชั่วโมง มิสเตอร์และป้าพากันเดินขึ้นเขาเพื่อจะไปให้ถึงปลายทางบนเขาปู้นนนน นั่นคือบึง(อะไรสักอย่างป้าโอ้ทจำไม่ได้แล้ว เพราะกว่าจะเขียนเล่าผ่านมาหนึ่งปี) กว่าจะเดินขึ้นไป เอ้ย! ตะกายกันขึ้นไป (หมายถึงสองป้านะเพราะมิสเตอร์นำหน้าหายไปก่อนร่วมครึ่งชั่วโมง) หอบแห่ก หลายแห่ก ป้าโอ้ทต้องเดินไปพักไป เพราะไม่เช่นนั้นหอบขึ้นแน่ๆ ปกติเดินบนเขาก็จะเดินไป พักไปแบบนี้ล่ะ แต่ไม่กังวลเวลาเหมือนครั้งนี้นะ
ในที่สุดมิสเตอร์เดินสวนทางมา บอกว่าไปได้แค่บึงเล็ก จะไปถึงปลายทางที่ตั้งใจเวลาเราไม่พอนะ เหลือเวลาเพียงสามสิบนาทีเราต้องเดินลงกันแล้วล่ะ ป้าโอ้ทกะพี่แดงให้มิสเตอร์พาเดินไปจนถึงบึง สร้างภาพกันเล็กน้อย แล้วรีบเดินกลับ แต่ด้วยหนทางไม่ได้ราบเรียบเน่อะ ก็บนเขา แล้วยังต้องเร่งกับเวลาด้วย ป้าโอ้ทบอกมิสเตอร์ให้ล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ เผื่อไม่ทันยังไงจะได้แจ้งทางเรือว่าสองป้ายังไม่ถึงเรือ
สองป้ากึ่งเดินกึ่งวิ่ง แทบจะกลิ้งตกจากเขา มองลงมาเห็นเรือลำโต ค่อยชื้นใจนิด (ชื้นจริงๆ ไม่ใช่ชื่นใจ เพราะเรือยังอยู่) ลงมาถึงพื้นราบสองคนยังคงจ้ำพรวด ดูเหมือนจะใกล้ แต่ทำไมไม่ถึงสักที
ในที่สุด(รอบที่สอง) เราก็ถึงเรือ มีเวลาตั้งยี่สิบนาที สองสาวสร้างภาพกันสบายใจ จนกระทั่งเดินเข้าไปถึงจุดเช็คนักท่องเที่ยวกลับเข้าเรือ เราสองคนอยู่คนละแถว พี่แดงเช็คก่อน ปรากฎว่าการ์ดตีคืน พี่แดงไม่มีบันทึกของเรือ ป้าโอ้ทรีบพรวดไปที่เจ้าหน้าที่แถวพี่แดง ให้ข้อมูลห้อง ชื่อของตัวเอง แล้วก็ผลเดียวกับพี่แดง ตอนนั้นป้าโอ้ทใจป่วนแล้ว งานเข้า! ถามเจ้าหน้าที่ทันที " ฉันมาเรือถูกไหม" เจ้าหน้าที่ดูการ์ดเราสองคน ตอบมาว่า " ไม่ถูก " เอาล่ะงานนี้ ได้เป็นหมูเฝ้าเกาะกันแน่ๆ เจ้าหน้าที่ชี้ไปที่เรือลำตรงข้ามที่มองเห็น สองคนไม่รอช้า รีบจ้ำพรวดๆ ใช้เวลาสิบนาทีถึงเรือ ในระยะทางประมาณหนึ่งไมล์ คราวนี้ป้าโอ้ทรอบคอบขึ้นมาเชียว ก่อนจะถึงเรือลำที่มุ่งนี้ไป เห็นชื่อประจำเรือ เฮ้ย! ไม่ใช่ลำนี้ ยังไม่แน่ใจ หันไปถามนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินกลับเรือว่า เรือลำนี้ชื่ออะไร ได้คำตอบมา ชัวร์ป้าบบบบบ! หันไปบอกพี่แดง เรามาผิดลำอีกแล้ว
สงสารพี่แดงมาก หน้าซีดยิ่งกว่าไก่ต้มอีก ป้าโอ้ทโบกรถหลายคันแต่ไม่มีใครจอด พี่แดงบอกว่าเหนื่อย ป้าโอ้ทสงสาร ตัวเองก็เหนื่อย เริ่มจะหอบแต่ปากบอกพี่แดงไปว่า " ยังไงก็หยุดไมไ่ด้นะ" เหลือเวลาไม่ถึงสิบนาที เราจะทันไม่ทันต้องเสี่ยงล่ะ
ในระหว่างนั้นป้าโอ้ทเห็นรถแวนคันหนึ่งขับวนอยู่แถวนั้น นึกในใจว่า อยากจะขอให้เขาไปส่งที่เรือ แต่ไม่ทัน รถขับออกไปจากตรงนั้นซะก่อน และแล้วเราก็ผ่านเรือลำแรกที่ไปผิด นั่นล่ะถึงได้พบว่า เราสะเพร่า มัวแต่ถ่ายรูป ไม่ดูป้ายบอกทาง เดินผ่านไปได้
เรืออยู่ตรงหน้า แต่ระยะทางช่างแสนไกล เหลือเวลาห้านาที โอ้ย! ไม่รอดแน่ๆ ในใจป้าโอ้ทนึกว่า ถ้าเรือขยับแล่นออกไปต่อหน้าต่อตา ในขณะที่เราไปถึงท่าพอดี เราคงจะเศร้ากันที่สุด แต่แล้วเหมือนสวรรค์เข้าข้างเราสองคน รถแวนคันที่ป้าโอ้ทเห็นก่อนหน้านั้นมาจอด มีคนตะโกนว่า " ยูจะไปเรือนั่นใช่ไหม รถมารับยู" เยๆๆ รอดแล้ว ป้าโอ้ทหายใจไม่สะดวก หันไปดูพี่แดง ซีดกว่าเดิม
เมื่อรถแวนจอดหน้าท่าเรือ เราสองคนรีบวิ่งๆ เข้าไป นักท่องเที่ยวบนลำเรือ ไม่รู้จำนวนกี่พัน ทุกคนที่อยู่บนระเบียงห้องตัวเองโห่ลงมาที่สองป้า สนั่นท่าเรือ เมื่อเช็คเข้าเรือเรียบร้อย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ตักเตือนเราเหมือนเด็กน้อย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่อีกคนโทรแจ้งมิสเตอร์ว่าเรากลับมาแล้ว พนักงานคนนึงกระซิบบอกป้าโอ้ทว่า ยูโชคดีนะเนี่ย อีกห้านาทียูได้นอนที่เกาะนี้แล้ว
เมื่อถึงห้อง มิสเตอร์หน้าตูม แต่ไม่พูดอะไร ป้าโอ้ทหน้าทะเล้น ก็กลับมาแล้วจะซ้ำเติมกันทำไมใช่ปะ 😁 พี่แดงพูดขอโทษเจ้าหน้าที่เรือตลอดทาง และขอโทษมิสเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก พี่แดงบอกว่าถ้าเป็นป๋าพี่แดงคงโดนดุหนักแล้ว มิสเตอร์ใจดีจัง ... ฮ่าฮ่า มิสเตอร์ก็ดุ แต่เขาดุเงียบ เขารู้ว่าดุไปก็ไม่เกิดอะไรเพราะกลับมาแล้ว ป้าโอ้ทก็หน้าเป็น แต่รู้นะว่าผิด รับผิดโดยดี
ย้อนเล่าระหว่างเดินกันอยู่ พี่แดงบอกให้ป้าโอ้ทโทรหามิสเตอร์ แต่ป้าโอ้ทปฎิเสธเพราะคิดว่ามิสเตอร์ไม่ได้เปิดโทรศัพท์แน่ เนื่องจากตั้งแต่ลงเรือมิสเตอร์เปลียนเป็นโหมดเครื่องบิน รวมทั้งเปลียนเครื่องป้าโอ้ทด้วย ซึ่งป้าโอ้ทไม่เคยเปลียน จึงไม่ชินและลืมไปว่าเครื่องตัวเองก็ติดต่อไม่ได้ เจ้าหน้าที่เรือตำหนิว่าทำไมไม่เปิดโทรศัพท์ ติดต่อไปหลายครั้งแล้ว นั่นล่ะป้าโอ้ทถึงนึกได้ แต่ถ้าป้าโอ้ทฟังพี่แดงหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหามิสเตอร์คงไม่เกิดเหตุแบบนี้เพราะทางเรือคงส่งรถมารับเราได้ทันเวลา
ย้อนเล่าระหว่างเดินกันอยู่ พี่แดงบอกให้ป้าโอ้ทโทรหามิสเตอร์ แต่ป้าโอ้ทปฎิเสธเพราะคิดว่ามิสเตอร์ไม่ได้เปิดโทรศัพท์แน่ เนื่องจากตั้งแต่ลงเรือมิสเตอร์เปลียนเป็นโหมดเครื่องบิน รวมทั้งเปลียนเครื่องป้าโอ้ทด้วย ซึ่งป้าโอ้ทไม่เคยเปลียน จึงไม่ชินและลืมไปว่าเครื่องตัวเองก็ติดต่อไม่ได้ เจ้าหน้าที่เรือตำหนิว่าทำไมไม่เปิดโทรศัพท์ ติดต่อไปหลายครั้งแล้ว นั่นล่ะป้าโอ้ทถึงนึกได้ แต่ถ้าป้าโอ้ทฟังพี่แดงหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหามิสเตอร์คงไม่เกิดเหตุแบบนี้เพราะทางเรือคงส่งรถมารับเราได้ทันเวลา
วันต่อมา เราสองคนเดินตามมิสเตอร์ไม่ห่างเลยเพราะไม่อยากตกเรือ
ป้าโอ้ทอยู่นอร์ทดาโกต้า ฝนตก ลมเย็น (ขับรถไปบ้านแม่ย่า#6)
31 พฤษภาคม 2559
ลมแรงมาก ฝนลงเม็ด และหนาวด้วย จมูกบี้เลยป้าโอ้ท อากาศเย็นมาก เสื้อแจ๊คเก็ตเอาไม่อยู่ ป้าโอ้ทออกมาเดินได้แป้บเดียวเพ่นเข้าบ้าน พรุ่งนี้ป้าโอ้ทไปโรงพยาบาลกะมิสเตอร์และแม่ย่าด้วย เปลียนใจเพราะเผื่อมิสเตอร์จะเหงา ^_^
ป้าโอ้ทอยู่บ้านทุ่ง นอร์ทดาโกต้า (ขับรถไปบ้านแม่ย่า#5)
30 พฤษภาคม 2559
ป้าโอ้ทเตรียมเรือยางมาจากบ้าน ตั้งใจจะให้มิสเตอร์พาไปแม่น้ำตรงบ้านเก่าที่เคยขับจี๊บไปประจำที่เรามาบ้านนี้ แต่ปรากฎว่าอากาศไม่เป็นใจ ฝนตกทุกวัน ลมพัดเย็นจนหนาว อุณหภูมิต่ำเท่าฤดูหนาวกันทีเดียว ไม่สามารถ
ป้าโอ้ทพลาดเป็นครั้งที่สองในการจัดเสื้อผ้า ครั้งแรกคือตอนไปล่องเรือสำราญที่อลาสก้า และครั้งนี้ เนื่องจากเช็คอุณหภูมิแล้ว ร้อนจ้าร้อน ฤดูร้อน ป้าโอ้ทเตรียมเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนล้วนๆ มีเสื้อแจ๊คเก็ตยีนส์ตัวเดียว ดีนะครั้งนี้มีขายาวติดมาด้วยสองตัว ตอนเรือสำราญเตรียมไปแต่เสื้อบางๆ กับขาสั้น
ครั้งนี้ป้าโอ้ทต้องยืมเสื้อแม่ย่าใส่เพราะไม่ไหว แม่ย่ากับญาติพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฤดูร้อนเหมือนฤดูหนาว อากาศเปลียนไปเปลียนมา ฝนตกทุกวัน
เรามาบ้านทุ่งกันสองคน แม่ย่าจะมาด้วยแต่รถไม่มีที่เพราะมิสเตอร์ขนของมาจากเดลาแวร์เต็มรถ เราจะกลับมาอีกครั้งพาแม่ย่ามาด้วย แม่ย่าอยากมาดูแมว เป็นห่วงแมว เพราะตั้งแต่ขาเจ็บแม่ย่าขับรถไม่ได้ เดินยังต้องใช้ไม้สามขาช่วย
ไปเล่นที่ทุ่งไม่ได้ ป้าโอ้ทก็เดินเล่นอยู่ในบริเวณลานบ้านนี่ล่ะ มาดูวิดิโอกันนะคะ
ไปเล่นที่ทุ่งไม่ได้ ป้าโอ้ทก็เดินเล่นอยู่ในบริเวณลานบ้านนี่ล่ะ มาดูวิดิโอกันนะคะ
ป้าโอ้ทอยู่นอร์ทดาโกต้า (ขับรถไปบ้านแม่ย่า #4)
29 พฤษภาคม 2559
วันนี้หลานสาวมิสเตอร์รับใบประกาศนียบัตรจบไฮสคูล มีพิธีที่โรงเรียน อีกเมืองหนึ่ง เพราะบ้านพี่เขยกะพี่สะใภ้อยู่คนละเมืองกับแม่ย่า ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมง แม่ย่าไปด้วย ต้องพานั่งรถเข็น จากนั้นไปปาร์ตี้หลังพิธี พี่สะใภ้กะหลานสาวเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ๆไว้ เป็นปาร์ตี้เล็กๆ มีเพื่อนๆ ญาติไม่กี่คน
เราสามคนเดินทางกลับถึงบ้านแม่ย่าราวๆ ห้าโมงเย็น มีปาร์ตี้อีกบ้านหนึ่ง หลานสาวอีกคนจบเหมือนกันแต่คนละโรงเรียน แม่ย่าเหนื่อยแล้วขอพักที่บ้าน มิสเตอร์กะป้าโอ้ทไปกันเอง
ขอเล่าสักนิดเท่าที่ป้าโอ้ทรู้นะ ไม่ได้รู้เยอะ ที่บ้านเราพิธีมอบใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาโดยทั่วไปของไทยจะเป็นระดับอุดมศึกษา คือมหาวิทยาลัยเน่อะ หรือบางสถาบันของเอกชนจะมีพิธี ซึ่งไม่ได้เป็นปกติ แต่ทางนี้จบไฮสคูลเป็นปกติ ทำให้ป้าโอ้ทนึกถึงครั้งหนึ่งเพื่อนที่เดลาแวร์จ้างป้าโอ้ทไปถ่ายรูปให้งานของลูกชายตอนจบไฮสคูล ป้าโอ้ทลืมไปเลย
ป้าโอ้ทมีโอกาสเข้าร่วมพิธีรับปริญญาเพื่อนสองคน ระดับ ป.ตรี หนึ่งครั้ง และ ป. โทหนึ่งครั้ง มหาวิทยาลัยที่นี่จะจัดกันเอง นักศึกษาที่จบแต่ละครั้งไม่เยอะ หลักร้อย หลักพันจัดว่ามาก ส่วนบ้านเรามหาวิทยาลัยนักศึกษาจบแต่ละครั้งหลักหมื่น โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรามฯ ที่ป้าโอ้ทจบมาหลายหมื่นกันทีเดียว
มีคลิปสั้นๆ มาฝากค่ะ
วันนี้หลานสาวมิสเตอร์รับใบประกาศนียบัตรจบไฮสคูล มีพิธีที่โรงเรียน อีกเมืองหนึ่ง เพราะบ้านพี่เขยกะพี่สะใภ้อยู่คนละเมืองกับแม่ย่า ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมง แม่ย่าไปด้วย ต้องพานั่งรถเข็น จากนั้นไปปาร์ตี้หลังพิธี พี่สะใภ้กะหลานสาวเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ๆไว้ เป็นปาร์ตี้เล็กๆ มีเพื่อนๆ ญาติไม่กี่คน
เราสามคนเดินทางกลับถึงบ้านแม่ย่าราวๆ ห้าโมงเย็น มีปาร์ตี้อีกบ้านหนึ่ง หลานสาวอีกคนจบเหมือนกันแต่คนละโรงเรียน แม่ย่าเหนื่อยแล้วขอพักที่บ้าน มิสเตอร์กะป้าโอ้ทไปกันเอง
ขอเล่าสักนิดเท่าที่ป้าโอ้ทรู้นะ ไม่ได้รู้เยอะ ที่บ้านเราพิธีมอบใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาโดยทั่วไปของไทยจะเป็นระดับอุดมศึกษา คือมหาวิทยาลัยเน่อะ หรือบางสถาบันของเอกชนจะมีพิธี ซึ่งไม่ได้เป็นปกติ แต่ทางนี้จบไฮสคูลเป็นปกติ ทำให้ป้าโอ้ทนึกถึงครั้งหนึ่งเพื่อนที่เดลาแวร์จ้างป้าโอ้ทไปถ่ายรูปให้งานของลูกชายตอนจบไฮสคูล ป้าโอ้ทลืมไปเลย
ป้าโอ้ทมีโอกาสเข้าร่วมพิธีรับปริญญาเพื่อนสองคน ระดับ ป.ตรี หนึ่งครั้ง และ ป. โทหนึ่งครั้ง มหาวิทยาลัยที่นี่จะจัดกันเอง นักศึกษาที่จบแต่ละครั้งไม่เยอะ หลักร้อย หลักพันจัดว่ามาก ส่วนบ้านเรามหาวิทยาลัยนักศึกษาจบแต่ละครั้งหลักหมื่น โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรามฯ ที่ป้าโอ้ทจบมาหลายหมื่นกันทีเดียว
มีคลิปสั้นๆ มาฝากค่ะ
แวะอุทยานแห่งชาติแบดแลนด์แป้บ (ขับรถไปบ้านแม่ย่า#3)
28 พฤษภาคม 2559
วันนี้ตื่นเช้าเหมือนเมื่อวาน หม่ำมื้อเช้าเสร็จ เอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่วอลมาร์ทใกล้โรงแรม เมื่อวานระหว่างทางรถแจ้งถึงกำหนดถ่ายน้ำมันเครื่อง มิสเตอร์บอกความผิดป้าโอ้ทที่ไม่บอก เพราะป้าโอ้ทใช้รถคันนี้ประจำ 😁ไปถึงจุดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเราวนไปจอดด้านหลัง ปรากฎว่าประตูเปิดไม่ได้ จอดรถไว้แล้ววนมาประตูหน้า เจอช่างสองคน ช่างบอกให้มิสเตอร์เดินออกไปเอารถวนมาด้านหน้า ให้ออกประตูที่เราเปิดกันไม่ได้ตอนแรก แค่นั้นล่ะสัญญาณสนั่นห้างกันทีเดียว เพราะประตูนี้เป็นประตูฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่คนที่บอกให้มิสเตอร์ออกเดินมาจะโทรตามเจ้าหน้าที่ในห้าง ในจังหวะเจ้าหน้าที่เดินออกมาพอดี มิสเตอร์วนกลับมาที่ป้าโอ้ทยืนอยู่ ป้าโอ้ทแซวว่าทำให้สัญญาณดัง
เดินเล่นในวอลมาร์ทรอรถประมาณ 30 นาที ราวเก้าโมงเช้า เราสองคนออกสู่ถนน ระหว่างทางมีฝนตกพรำ ๆ เป็นช่วง ฟ้าใส เมฆขาวเต็มท้องฟ้า หลังฝนตกป้าโอ้ทเห็นรุ้งกินน้ำด้วย นานๆ จะได้เห็น ถ่ายรูปไว้ด้วยล่ะ มิสเตอร์ใช้เส้นทางอุทยานแห่งชาติแบดแลนด์ (Badland National Park) มิสเตอร์บอกว่าเส้นทางนี้ไม่เคยใช้ จอดแวะถ่ายรูปนิดหน่อย แล้วเดินทางต่อไป จากจุดนี้อีกสามชั่วโมงถึงบ้านแม่ย่า ป้าโอ้ทหลับไปหลายตื่น
วันนี้ตื่นเช้าเหมือนเมื่อวาน หม่ำมื้อเช้าเสร็จ เอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่วอลมาร์ทใกล้โรงแรม เมื่อวานระหว่างทางรถแจ้งถึงกำหนดถ่ายน้ำมันเครื่อง มิสเตอร์บอกความผิดป้าโอ้ทที่ไม่บอก เพราะป้าโอ้ทใช้รถคันนี้ประจำ 😁ไปถึงจุดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเราวนไปจอดด้านหลัง ปรากฎว่าประตูเปิดไม่ได้ จอดรถไว้แล้ววนมาประตูหน้า เจอช่างสองคน ช่างบอกให้มิสเตอร์เดินออกไปเอารถวนมาด้านหน้า ให้ออกประตูที่เราเปิดกันไม่ได้ตอนแรก แค่นั้นล่ะสัญญาณสนั่นห้างกันทีเดียว เพราะประตูนี้เป็นประตูฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่คนที่บอกให้มิสเตอร์ออกเดินมาจะโทรตามเจ้าหน้าที่ในห้าง ในจังหวะเจ้าหน้าที่เดินออกมาพอดี มิสเตอร์วนกลับมาที่ป้าโอ้ทยืนอยู่ ป้าโอ้ทแซวว่าทำให้สัญญาณดัง
เดินเล่นในวอลมาร์ทรอรถประมาณ 30 นาที ราวเก้าโมงเช้า เราสองคนออกสู่ถนน ระหว่างทางมีฝนตกพรำ ๆ เป็นช่วง ฟ้าใส เมฆขาวเต็มท้องฟ้า หลังฝนตกป้าโอ้ทเห็นรุ้งกินน้ำด้วย นานๆ จะได้เห็น ถ่ายรูปไว้ด้วยล่ะ มิสเตอร์ใช้เส้นทางอุทยานแห่งชาติแบดแลนด์ (Badland National Park) มิสเตอร์บอกว่าเส้นทางนี้ไม่เคยใช้ จอดแวะถ่ายรูปนิดหน่อย แล้วเดินทางต่อไป จากจุดนี้อีกสามชั่วโมงถึงบ้านแม่ย่า ป้าโอ้ทหลับไปหลายตื่น
Saturday, June 11, 2016
สวนน้อยของป้าโอ้ทวันนี้
6 พฤษภาคม 2559
ฤดูร้อนปีนี้อากาศเปลียนไป มา เย็นๆ หนาวๆ ไม่ร้อนสักที พอวันร้อนขึ้นมา ป้าโอ้ทอดไม่ได้ที่จะพาชมสวนน้อยของป้าโอ้ท อยากทำสวน แต่ความขยันมีน้อยเหลือเกิน 🤗 คิดถึงย่า เพราะย่าป้าโอ้ทนะปลูกต้นไม้ ดอกไม้งามมากๆ ปลูกอะไรก็งาม
ฤดูร้อนปีนี้อากาศเปลียนไป มา เย็นๆ หนาวๆ ไม่ร้อนสักที พอวันร้อนขึ้นมา ป้าโอ้ทอดไม่ได้ที่จะพาชมสวนน้อยของป้าโอ้ท อยากทำสวน แต่ความขยันมีน้อยเหลือเกิน 🤗 คิดถึงย่า เพราะย่าป้าโอ้ทนะปลูกต้นไม้ ดอกไม้งามมากๆ ปลูกอะไรก็งาม
Monday, June 6, 2016
ป้าโอ้ททำได้ 💪
6 มิถุนายน 2559
มิสเตอร์กะป้าโอ้ทกลับจากไปบ้านแม่ย่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตู้จดหมายหน้าบ้านแน่นเชียว ส่วนมากเป็นจดหมายขยะ แต่... มีซองสีน้ำตาลจากโรงเรียนป้าโอ้ทด้วยหนึ่งซอง ป้าโอ้ทคิดว่าเป็นใบแจ้งยอดชำระค่าเทอม เปิดซองออกมาปรากฎว่าคือ ใบแจ้งนักเรียนเรียนดีเทอมนี้ ป้าโอ้ทได้กะเขาด้วย หลังจากที่เห็นภาพของเพื่อนคนหนึ่งในเฟสบุ๊คมา สอง สามเทอม ลูกสาว และ ลูกชายของเพื่อนเรียนเก่งทั้งคู่ และ ได้คะแนนถึงเกณฑ์ดีเด่นในระดับอธิการบดี (ป้าโอ้ทไม่รู้นะว่าภาษาไทยแปลว่าอะไร ภาษาอังกฤษ คือ ดีนลิส เรคคอกนิชั่น Dean's List Regonition) ป้าโอ้ทจำไม่ได้ว่าช่วงเกรดเท่าไร รู้ว่าของตัวเองเทอมนี้ 3.47 และเกรดโดยรวม 3.18 ป้าโอ้ทคิดว่าแต่ละสถาบันมีเกณฑ์ ช่วงเกรดไม่เท่ากัน(มั้ง) ป้าโอ้ทเคยดูผ่านๆ แต่ไม่ได้สนใจ เพราะไม่ได้คิดว่าเรียนแล้วต้องได้เกรดดี หรือ ไม่ดี เรียนเพื่อให้ได้ความรู้ในสิ่งที่สนใจและอยากทำให้ได้เร็วกว่าเรียนด้วยตัวเอง
เอาเป็นว่าเทอมนี้ได้มากะเขาด้วยหนึ่งเทอม เด็กๆ มีไฟลุกโชติช่วง ป้าโอ้ทต้องคอยปั่นไฟ มาดูหลักฐานกันดีกว่า จะว่าป้าโอ้ทโม้... หุหุ ไม่ได้โม้เด้อ ^_^ ขี้คุย ยอมรับ
มิสเตอร์กะป้าโอ้ทกลับจากไปบ้านแม่ย่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตู้จดหมายหน้าบ้านแน่นเชียว ส่วนมากเป็นจดหมายขยะ แต่... มีซองสีน้ำตาลจากโรงเรียนป้าโอ้ทด้วยหนึ่งซอง ป้าโอ้ทคิดว่าเป็นใบแจ้งยอดชำระค่าเทอม เปิดซองออกมาปรากฎว่าคือ ใบแจ้งนักเรียนเรียนดีเทอมนี้ ป้าโอ้ทได้กะเขาด้วย หลังจากที่เห็นภาพของเพื่อนคนหนึ่งในเฟสบุ๊คมา สอง สามเทอม ลูกสาว และ ลูกชายของเพื่อนเรียนเก่งทั้งคู่ และ ได้คะแนนถึงเกณฑ์ดีเด่นในระดับอธิการบดี (ป้าโอ้ทไม่รู้นะว่าภาษาไทยแปลว่าอะไร ภาษาอังกฤษ คือ ดีนลิส เรคคอกนิชั่น Dean's List Regonition) ป้าโอ้ทจำไม่ได้ว่าช่วงเกรดเท่าไร รู้ว่าของตัวเองเทอมนี้ 3.47 และเกรดโดยรวม 3.18 ป้าโอ้ทคิดว่าแต่ละสถาบันมีเกณฑ์ ช่วงเกรดไม่เท่ากัน(มั้ง) ป้าโอ้ทเคยดูผ่านๆ แต่ไม่ได้สนใจ เพราะไม่ได้คิดว่าเรียนแล้วต้องได้เกรดดี หรือ ไม่ดี เรียนเพื่อให้ได้ความรู้ในสิ่งที่สนใจและอยากทำให้ได้เร็วกว่าเรียนด้วยตัวเอง
เอาเป็นว่าเทอมนี้ได้มากะเขาด้วยหนึ่งเทอม เด็กๆ มีไฟลุกโชติช่วง ป้าโอ้ทต้องคอยปั่นไฟ มาดูหลักฐานกันดีกว่า จะว่าป้าโอ้ทโม้... หุหุ ไม่ได้โม้เด้อ ^_^ ขี้คุย ยอมรับ
Sunday, June 5, 2016
Subscribe to:
Posts (Atom)