Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุข ก็ทำไป

เรื่องราวที่เขียนในบล๊อกเป็นประสบการณ์ และชิวิตประจำวันของโอ้ทเอง เขียนไว้เป็นบันทึก เก็บไว้อ่านย้อนหลังเมื่อวันเวลาผ่านไป ซึ่งเอากลับมาไม่ได้ หากสิ่งที่เขียนเป็นประโยชน์กับบางคน หรือหลายคนด้วยก็ดีใจ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ

Wednesday, February 23, 2011

แจ๋วแจ่มใส #14

22 ก.พ 2554...วันนี้เหนื่อยแต่เช้าเลยเพราะหิมะตกอีกแล้วเมื่อคืน หลังจากมิสเตอร์ไปทำงานก็จัดแจง ใส่เสื้อผ้า หมวก ถุงมือ พร้อมอุปกรณ์ไปตักหิมะหน้าบ้าน จัดการปัดรถซะก่อนอื่น เพราะไม่อยากไปทำงานช้ามาก






วันนี้ไปถึงบ้านทำงาน 12.30 แม่บ้านนอนอยู่บนเตียง ไม่ค่อยสดชื่นเพราะยังปวดท้องอยู่ แม่บ้านให้ทำความสะอาดตู้เย็นด้วย เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มทำ ไม่ได้รื้อชั้นออกมาล้าง เพียงเอาอาหาร และของในตู้ออกทีละชั้น แล้วเช็ด ตู้เย็นไม่เลอะมากนัก ทำง่ายๆๆ

ส่วนงานบ้านอื่นๆๆ ทำตามปกติ ซักผ้า ทำความสะอาดครัว ดูดฝุ่น ถูพื้น ก็ว่ากันไป ทุกวันนี้ทำเสร็จก่อนเวลาเกือบทุกวัน เพราะไม่ต้องทำอาหาร แม่บ้านเดินคล่องขึ้น ทำอาหารเอง บางวันลูกชายเป็นคนทำ บางวันมีอาหารเหลือค้างคืนเยอะมาก แม่บ้านใจดีให้กลับได้เลยไม่ต้องอยู่จนครบเวลา แล้วไม่หักเงินด้วย  โอ้ทบอกให้จ่ายตามชั่วโมงที่ทำ แม่บ้านยังว่าไม่เป็นไร จ่ายตามปกติ

อ่อ ตอนนี้เขียนสมัครเพิ่มอีกหนึ่งบ้าน ทำตอนเช้า 9-12 จริงๆๆ แล้วไม่เลือกทำช่วงเช้า แต่บ้านนี้ต้องการแค่เดือนละวัน ให้ค่าแรง 100 เหรียญ ได้รับข้อความตอบมาถามว่าค่าจ้างรับได้หรือเปล่า โอ้ทตอบไปว่า ได้แต่ขอดูสถานที่ก่อน เพราะเกรงว่าจะทำไม่เสร็จภายในเวลา ถ้าทำไม่ได้จะไม่รับงานนี้ เพราะช่วงบ่ายต้องไปทำอีกบ้าน ตอนนี้รอคำตอบอยู่

ปล. แม่บ้าน บ้านปัจจุบันเขียนรับรองการทำงานให้อ่านแล้ว ปลื้มมาก จับใจความได้ว่า ขยัน ซื้อสัตย์ ทำงานไม่เฉพาะทำความสะอาด แต่หยิบจับทุกอย่างที่เห็นว่าไม่เป็นระเบียบ จัดให้เข้าที่ ดูดีขึ้น และยังจัดข้าวของให้หยิบใช้ได้ง่าย ที่เคยจ้างมา โอ้ทดีที่สุด...อิอิ

ต้นฉบับจดหมาย ว่าตามนี้จ่ะ

February 22, 2011
It is my pleasure to give my strongest  recommendation for  Oath.    She has cleaned and organized my house every week day afternoon for the past year while I was recovering from knee replacement surgery.  During that time, all of my family members praised her for her outstanding ability to re-organize our rooms, making our lives less complicated.  Oath has a keen eye for  tasks that need to be done and is able to organized her time to complete multiple jobs in one afternoon.  She works very quickly and is extremely neat and careful.  We have been very happy with her ability to take on new tasks and  de-clutter dressers, closets and storage areas .  She has truly made our home an easier, less complicated place to live.
Oath is a very honest and trustworthy individual with a positive attitude toward all jobs.  Her duties included cleaning kitchens, toilets vacuuming, laundry, and a host of miscellaneous jobs she took upon herself to make our home less complex.
As a retired teacher from a local school district, I have employed several housekeepers over the years while my children were young  and I can truthfully say that housekeepers like Oath are very few and far between. 

Arlys

Sunday, February 13, 2011

ค่ำคืนนี้...

มิสเตอร์อ่านหนังสืออยู่บนเตียงในห้องนอน ส่วนโอ้ทนั่งแปะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ห้องเล็กใกล้ๆ แล้วนึกอะไรขึ้นได้เดินไปหามิสเตอร์ ปล่อยปุ๋งก่อนหนึ่งปุ๋ง..อิอิ แล้วพูดว่า

โอ้ท : เมื่อเราแก่เราไม่แยกเตียงกันนอนน่ะ
มิสเตอร์ : ทำไม

โอ้ท : บ้านที่ไปทำงานแยกกันนอนคนละห้อง แล้วสามีเพื่อนบอกกับเพื่อนว่าถ้าแก่มากเขาขอแยกนอนคนเดียว โอ้ทไม่อยากนอนคนเดียว

มิสเตอร์ อมยิ้มทำหน้ากรุ่มกริ่ม ไม่พูด
โอ้ท : ยูอยากนอนคนเดียวเหรอ?

มิสเตอร์ : ยิ้มและพูดว่า เมื่อ สามปีที่แล้วอยากนอนคนเดียวมากๆๆๆ นอนไม่หลับ มีคนนอนอยู่ข้างๆๆ(สามปีที่แล้วเริ่มตั้งแต่โอ้ทมาอยู่ด้วย)
โอ้ท : อ้าว  ก็ยูนอนคนเดียวมานาน ไม่ชินนะซิ แต่ตอนนี้ชินแล้วใช่ไหม เพราะยูผลักไอออกจากเตียงประจำเลย...

ปล. ขำ ขำ จ้า

Saturday, February 12, 2011

แจ๋วแจ่มใส #11

31 ม.ค 2554... วันแรกของสัปดาห์อากาศยังคงหนาวไม่ลด หิมะ เอ้ยไม่ใช่ซิ น้ำแข็งกองเต็มหน้าบ้าน และข้างถนน แต่ชิวิตประจำวันของผู้คนยังดำเนินต่อไปอย่างปกติ แจ๋วแจ่มใสก็เริ่มงานเหมือนทุกคนเช่นกัน

วันนี้ไปถึงสาย 5 นาที แต่ไม่มีปัญหา อย่างที่เล่าบ่อยๆๆว่าแม่บ้านใจดี ไม่ว่ากันสายนิดๆๆหน่อยๆ เพราะแจ๋วอยู่เลยเวลานานๆ ให้บ่อยๆๆ วันนี้เริ่มงานด้วย เก็บถังขยะ ถามแม่บ้านว่าได้เตียงใหม่หรือยัง (ได้แล้วตั้งแต่วันเสาร์) เตียงเก่านุ่มเกินไปทำให้เหยียดขาตรงไม่ได้ และทำให้แม่บ้านเจ็บต้องเปลียนที่นอนที่แข็งขึ้น ...มาเข้าเรื่องหน้าที่แจ๋วต่อ แม่บ้านให้เปลียนที่นอนห้องพ่อบ้านวันนี้ และบอกว่าลูกชายเริ่มซักผ้าไปแล้ว แจ๋วจัดการรื้อที่นอนเอาผ้าลงไปซัก พร้อมปั่นของเก่า (มีค้างในเครื่องปั่นตั้งแต่วันศุกร์ไม่มีใครเก็บจนชื้นต้องปั่นใหม่) แล้วขึ้นไปจัดการที่นอนให้เสร็จ จากนั้นเก็บจานชามที่ล้างแล้วในเครื่องล้างเข้าที่ และจัดการจานชามที่สกปรกบนเคาน์เตอร์มากมายใส่ไว้ให้พร้อม วันนี้ได้เปิดเครื่องล้างอีก

สรุปว่าวันนี้สามชั่วโมง(กว่า) ไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากซักผ้า สองถัง และพับผ้าที่ตากไว้ตั้งแต่วันศุกร์ และผ้าใหม่วันนี้อีก หมดเวลา วันนี้ไม่ต้องทำอาหารใหม่ อุ่นอาหารแช่แข็ง แต่ก็ใช้เวลาชั่วโมงกว่าในการอุ่นเพราะตั้งเตาไม่ใส่ไมโครเวฟ เปิดไฟแรงก็ไหม้ก้นกะทะ เปิดไฟเบาก็ละลายช้า และเหมือนทุกวันดูดฝุ่นทางเดิน และห้องโถงก่อนกลับ พร้อมเก็บขยะถุงใหญ่ในครัวไปทิ้งถังรวม...

ก่อนเข้าบ้านแวะส่งของที่ไปรษณีย์ คนไม่เยอะมากวันนี้ค่อยดีหน่อย เพราะอยากกลับบ้านเร็วๆๆ หิวๆๆๆ มาถึงจัดการอุ่นจานนี้เลย มีอาหารค้างคืนอยู่ในตู้เย็นค่อยยังชั่ว

วันนี้ทำเค๊กกล้วยหอมเอาไปให้ครู กับเพื่อนๆๆที่เรียนภาษากินกันด้วย บิ๋มแวะมาหาก่อนกลับบ้าน ช่วยทำเค๊กด้วย แบ่งกันไปกินทั่วหน้า



Tuesday, February 8, 2011

แจ๋วแจ่มใส #13

8 ก.พ 2554...วันนี้ฟ้าโปร่ง แดดออก สดใสจัง เปิดประตูส่งมิสเตอร์อากาศยังเย็นอยู่เลย ดูเครื่องอ่านอุณหภูมิ วัดได้ 39ฟาเรนไฮต์ แต่แดดจ้าแบบนี้ถ่ายรูปสวย ไม่ได้การรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปลั่นล้าดีกว่า...





เสร็จเรียบร้อย สร้างภาพหลังบ้านใกล้ๆๆนี่ล่ะ เพราะเดินเหยียบหิมะที่แข็งเป็นน้ำแข็งลื่นๆๆๆ ล้มเจ็บไม่พอ กล้องพังด้วย ไม่เสี่ยงดีกว่า  เมื่อได้ภาพสมใจแล้วจัดการโหลด และโพสในเฟสบุ๊ค จนถึงเวลาทำงาน ออกจากบ้านสบายใจขับรถไปช้าๆๆ เพราะมือกดชัตเตอร์ไปด้วย ฟ้าใสมาก







ไปถึงบ้านทำงาน มองนาฬิกา อ้าวตายละหว่า! บ่ายโมงแล้วเหรอเนี่ย ไม่แน่ใจมาดูที่มือถือบ่ายโมงจริงๆๆ  ดูนาฬิกาที่บ้านผิด หรือนาฬิกาตายกันแน่ แม่บ้านไม่ว่าอะไร แต่ต้องทำงานให้ครบชั่วโมงคือต้องเลิกเย็นไปหนึ่งชั่วโมง ไม่น่าเลย แม่บ้านบอกว่าสงสัยถ่านนาฬิกาจะอ่อน แถมจะให้ถ่านมาเปลี่ยนอีกด้วย...

งานวันนี้ปกติตามหน้าที่ ซักผ้า ดูดฝุ่น เช็ดพื้นห้องสามห้อง และห้องโถง ทางเดินก่อนกลับ

ถึงบ้านดูนาฬิกาบนฝาผนัง ก็ตรงนี่นา  งั้นไปดูที่แลบทอปซิ นี่ไงตัวผิด เวลาช้าไป 1 ชั่วโมง สรุปความผิดอยู่ที่ตัวเองนะแหละ...ฮ่าฮ่า

Friday, February 4, 2011

น้ำแข็งเกาะผิวถนน

1 ก.พ 2554... วันนี้แปลกใจว่าทำไมมิสเตอร์เดินเล่นบนน้ำแข็งให้ลื่น (ระหว่างเดินไปที่รถหน้าบ้าน) นึกสนุกมั้ง นึกในใจ สักเดี๋ยวมิสเตอร์เดินลื่นกลับเข้ามาในบ้าน พร้อมพูดว่าขับรถไปทำงานแบบนี้ไม่ปลอดภัย แล้วโทรศัพท์เช็คที่ทำงานว่าเปิดทำการหรือเปล่า ปรากฎว่าเปิด โอ้ททำหน้า งง มิสเตอร์บอกให้ใส่รองเท้าออกไปเดิน นั่นละถึงรู้ว่าทำไม

ผิวถนนคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็งบางๆๆ เดินลำบาก ทำให้นึกถึงวันที่รถหมุนหน้ามินิมาร์ทที่นอร์ธดาโกต้าเลย (มิสเตอร์ขับ) แต่นั่นน้ำแข็งหนา  รีบกลับเข้าบ้านคว้ากล้องถ่ายรูป ส่วนมิสเตอร์เดินลื่นๆๆ ออกมาที่รถ ปัดน้ำแข็งที่เกาะรอบตัวรถ แล้วค่อยๆๆขับออกไป 

เวลาใกล้เที่ยงโอ้ทออกไปทำงานน้ำแข็งยังไม่ละลายหมด วันนี้ไม่มีแดด ขับรถบนหิมะก็กลัว เพราะล้อจะไถล วันนี้ยิ่งน่ากลัวกว่าอีก  ประสบการณ์รถหมุนยังจำได้ดี ขับช้ามากๆๆวันนี้ กลัวว่ารถที่สวนทางมาจะไถลมาชนด้วย

ไหนจะหิมะ ไหนจะน้ำแข็ง ไหนจะอากาศเย็น ไม่ชอบเลยจริงๆๆฤดูหนาวเนี่ย



แจ๋วแจ่มใส #12

4 ก.พ 2554... วันนี้แม่บ้านให้ขับรถพาไปโรงพยาบาลตามหมอนัด เวลานัดเลื่อนจากบ่ายสามโมง เป็น 13.45 วันนี้ไม่มีงานเยอะด้วย มีผ้าซักกองเดียว เก็บถังขยะทิ้ง และดูดฝุ่น เวลาบ่ายโมงออกเดินทาง ขับรถของแม่บ้านไปเพราะมีป้ายคนพิการ รูปรถเข็น จอดในที่เฉพาะได้ ที่นี่ถ้าไม่มีป้ายจะจอดไม่ได้โดนปรับทันที เมื่อไปถึงติดต่อเจ้าหน้าที่ และนั่งรถสักพักแม่บ้านเข้าห้องตรวจ แจ๋ว(โซเฟอร์)นั่งรถ พร้อมถักนิตติ้งไปด้วย



 

เมื่อแม่บ้านตรวจเสร็จเรียบร้อย ขับพาไปร้านขายยาใกล้ๆๆ ที่นี่ทางโรงพยาบาลไม่จ่ายยาให้เหมือนบ้านเรา แต่จะมีใบสั่งยาจากหมอไปยื่นซื้อยาจากร้านขายยา มีเภสัชกรทุกร้าน หรือยาบางตัวไม่ต้องมีใบสั่งยาหมอจะบอกชื่อยามาแล้วไปซื้อตามเคาน์เตอร์แผนกยาในห้างฯ ร้าน ได้  ซื้อยาเสร็จ แวะธนาคารก่อนเข้าบ้าน เวลาบ่ายสามโมงเศษ แม่บ้านบอกไม่ต้องทำอาหารวันนี้ ได้พิเศษ $30 รวมกับเงินประจำสัปดาห์อีก $150   ดีใจจังสัปดาห์นี้ได้$180 แม่บ้านใจดีมาก จะพูดบ่อยๆว่าให้เงินน้อยไปหรือเปล่า วันนี้ยังพูดว่าถ้าจ้างเท๊กซี่แพงกว่านี้เยอะเลย  เอาผ้าที่ซักเสร็จใส่เครื่องปั่นแห้งก่อนกลับ
พักผ่อนเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์หน้าทำหน้าที่แจ๋วต่อ

Tuesday, February 1, 2011

เรียนภาษาอังกฤษฟรี # 2



1 กุมภาพันธ์ 2554

หลังจากได้ใบขับขี่แล้วเมื่อต้นมกราคม 2552(2009) เริ่มหาที่เรียนภาษาอังกฤษใหม่ อยากเรียนที่ยากขึ้น แหล่งข้อมูลคือห้องสมุดที่เดิม รอบนี้ติดต่อไปที่วิทยาลัยเสียเงินด้วย แต่ไม่มาก $20/ 50 ชั่วโมง ประมาณเดือนครึ่ง ที่เลือกที่นี่เพราะอยากเรียนตอนกลางวัน ช่วงที่มิสเตอร์ไปทำงานโอ้ทก็หาอะไรทำได้ เลยเลือกเรียนตอนกลางวันดีกว่า

ติดต่อ สมัครเรียบร้อย เริ่มเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน จันทร์-พุธ เวลา 9.00-11.30 อ่อ ที่นีเรียนแล้วไม่ได้ประกาศนียบัตร หรือเรียนแบบมีโครงสร้างตามหลักสูตรที่เคยอ่านจากหลายๆๆคนหรอกนะ ไม่มีการสอบเลื่อนชั้น แต่ครูจะทำการทดสอบรายบุคคล เพื่อรู้ระดับ และการพัฒนาของนักเรียนแต่ละคน

เริ่มตั้งแต่เรียนวันแรกครูทะยอยให้สอบ โดยแยกไปอีกห้องฟังวิทยุ และทำข้อสอบไป ส่วนนักเรียนคนอื่นๆๆที่ยังไม่ได้สอบนั่งเรียนกันไป จำไม่ได้ว่าสอบไปทั้งหมดกี่ครั้ง เพราะครูบอกว่าคะแนนได้เยอะกว่าคนอื่น ต้องสอบไปเรื่อยๆๆจนรู้ระดับ

ในห้องที่เรียนเป็นห้องพื้นฐาน นักเรียนพูดกันไม่ค่อยได้ บางคนเข้าใจมาก แต่หลายคนเข้าใจน้อย โอ้ทถือเป็นการทบทวนและฝึกออกเสียง แต่จากการเรียนที่นี่ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะทีเดียว เรียนอยู่ สองเทอม แล้วเลิกเพราะได้งานทำช่วงกลางวัน (เช็ดกระจก หาอ่านได้ในบล๊อกจ่ะ)

อ่อ ลืมเล่าว่าระหว่างที่สมัครเรียนที่วิทยาลัยนี้ ยังไปเรียนที่โบสถ์อยู่บ้าง ตอนเย็นได้ที่เรียน(ฟรี)อีกที่แล้วด้วย แต่คนละวัน ช่วงที่ก่อนได้ทำงานเช็ดกระจก เรียนอยู่ทั้งหมด สามที่ วันจันทร์เช้าเรียนที่วิทยาลัย ตอนบ่ายเรียนที่โบสถ์ อังคารเย็นเรียนอีกที่นึงเป็นหลักสูตรการเขียน พุธเช้าเรียนที่วิทยาลัย พฤหัสไปทำกิจกรรมนอกสถานที่กับกลุ่มภาษาอังกฤษที่โบสถ์ และตอนเย็นเรียนการเขียน

เมื่อได้งานทำ ไม่ได้ไปเรียนที่โบสถ์กับที่วิทยาลัยอีก แต่ยังไปเรียนการเขียนตอนเย็น แต่เรียนไม่นานเลิกเรียนด้วยไม่ชอบวิธีการสอนของครู แต่ทำงานได้เพียงสามสัปดาห์ต้องมีอันเลิกทำ (หาอ่านได้ในบล๊อกจ่ะ)

เมื่องานก็ไม่ได้ทำ ภาษาอังกฤษไม่ได้เรียนที่ไหนอีก ต้องหาที่เรียนใหม่แล้ว กลับไปที่แหล่งข้อมูลอีกเหมือนเดิม ได้ใบปลิวใบเดิม ที่ติดต่อเรียนการเขียน คราวนี้โทรไปหลายที่ ที่ไม่ไกลมาก แต่ละที่ปฎิเสธเนื่องจากเปิดสอนขั้นพื้นฐานสำหรับคนที่พูดไม่ได้ หรือเข้าใจน้อยมากๆๆ ขอเรียนเขาก็ไม่รับ ก็ต้องหาต่อไป มีที่ไหนยังไม่ได้โทรก็โทรไป จำไม่ได้ว่าโทรไปกี่ที่ จนกระทั่ง มีที่หนึ่งติดต่อมาให้ไปทดสอบ... หลักจากทดสอบต้องรอครูติดต่อนัดเรียน เพราะนักเรียนรอคิวเยอะมาก

ช่วงคริสมาสต์พอดี ปี2552(2009) เดินทางไปบ้านแม่ย่า สองสัปดาห์ กลับมาเช็คข้อความโทรศัพท์ ครูฝากข้อความไว้นัดให้ไปเรียน แต่ตอนนั้นยังอยู่นอร์ธดาโกต้า ดีใจมากๆๆที่ได้รับการติดต่อเร็ว (เพราะปัจจุบันครูเล่าว่าบางคน รอเป็นปี เพื่อนที่เรียนในห้องด้วยกันปัจจุบันบางคนรอเป็นปี รอหลายเดือน) รีบโทรกลับไปหาครูตามเบอร์ที่ฝากไว้ แต่ครูไปสอนแล้ว (เบอร์บ้าน) ฝากข้อความไว้

หลังจากนั้น หนึ่งสัปดาห์ครูโทรมาอีก จังหวะโอ้ทไม่อยู่บ้านอีกแล้ว คลาดกันสองครั้ง แล้วจะได้เรียนไหมเนี่ย (นึกในใจว่าจะถูกตัดรายชื่อออก)

ในที่สุดครบเดือน ได้คุยกับครูแล้ว..เยๆๆๆ ครูแจ้งสถานที่ วัน เวลาเรียน จันทร์ กับ พฤหัส 19.00-20.30...

ติดตามต่อไปจ้า