10 มกราคม 2559
สืบเนื่องจากเรื่องเล่าโชคดีตั้งแต่ต้นปี ใครยังไม่ได้อ่านคลิกที่นี่นะคะ ตอนนี้รถมีให้ใช้คันเดียว ป้าโอ้ทโรงเรียนเปิดพรุ่งนี้แล้ว มิสเตอร์ยังคงไปทำงานปกติ เอาล่ะซิ! รถเมล์ รถแท๊กซี่ก็ไม่มี รถไฟก็ไม่ผ่านเส้นทาง ทำอย่างไรล่ะ?
เทอมนี้ป้าโอ้ทไม่มีเรียนเช้าสักวัน เริ่มเรียนสิบโมง วันที่ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงก็เสี่ยงสายไปก็แล้วกัน วันที่เรียนใกล้บ้านก็รอดไป ป้าโอ้ทเสนอว่าจะขับรถไปส่งมิสเตอร์ที่ทำงานก่อน แล้วตรงไปโรงเรียน ตอนเย็นไปรับ เพราะไม่รู้ว่ารถจะเสร็จเมื่อไร เพราะมิสเตอร์บอกทางศูนย์แจ้งว่ารอยาง ล้อ ป้าโอ้ทไม่รู้ว่ารอส่วนไหน เอาว่าต้องรอเพราะในสต๊อคที่ศูนย์นี้ไม่มี เพิ่งสั่งไป
ที่ทำงานมิสเตอร์ป้าโอ้ทเคยไปเมื่อปีแรกที่ยังมีรถคันเดียวแล้วป้าโอ้ทขอเอารถมาใช้หนึ่งวัน มิสเตอร์จอดหน้าประตูใหญ่ แล้วเดินเข้าไปเกือบสองกิโลเมตรถึงตึกที่ทำงาน เพราะคนที่ไม่ได้ทำงานจะเข้าไปในพื้นที่ต้องทำเรื่องยุ่งในการแลกบัตรทั้งเข้า และ ออก (รู้อีกเพราะมิสเตอร์เคยพาเข้าไปแล้วหนึ่งครั้ง) ไม่ได้ง่ายเหมือนที่บ้านเรา แค่แลกบัตรกัน ไม่เลย เอาเป็นว่ามิสเตอร์ต้องเดินเข้าไป ตอนเย็นป้าโอ้ทก็ไปรับตรงจุดลานจอดรถหน้าประตูใหญ่ ซึ่งป้าโอ้ทเลิกเรียนวิชาสุดท้ายวันจันทร์ 17.50น มิสเตอร์เลิกงาน 17.00น ป้าโอ้ทบอกให้มิสเตอร์รอโทรศัพท์จากป้าโอ้ทก่อน เพราะถ้าเดินออกมาก่อนแล้วป้าโอ้ทยังไม่ถึงมิสเตอร์ รมณ์ บ่ จอย แน่ๆ วันแรกป้าโอ้ทคิดว่ายังไม่เริ่มเรียน แค่บอกรายละเอียดหัวข้อการเรียน และ หนังสือ น่าจะเลิกเร็วกว่าเวลา
มิสเตอร์บอกวันอังคารจะติดต่อเช่ารถ จนกว่าจะได้รถคืน
ที่เล่ามาจะให้เห็นว่าเมื่อไม่มีรถบริการสาธารณะแบบนี้ สิ่งที่จำเป็นคือรถเช่า เพราะสองคนต้องใช้รถในการเดินทางไปทำภาระกิจของแต่ละคน เมื่อปีก่อนๆ ไม่มีปัญหาเพราะป้าโอ้ทยังไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ อยู่บ้านทุกวัน ทั้งวัน เมืองที่ป้าโอ้ทอยู่เป็นเมืองเล็ก รถประจำทางมีอยู่ไม่กี่สาย และวิ่งไม่ทั่วเมือง ผู้คนส่วนใหญ่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง ซึ่งจะต่างจากเมืองใหญ่ที่ผู้คนจะไม่นิยมใช้รถส่วนตัวเพราะสะดวกในการเดินทาง รถบริการสาธารณะเยอะ และทั่วทุกเส้นทาง ทั้งรถเมล์ รถไฟใต้ดิน บนดิน
No comments:
Post a Comment
ขอบคุณมิตรภาพ และความคิดถึงที่เอามาฝากไว้ที่นี่ค่ะ
Thank you for visiting.