Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุข ก็ทำไป

เรื่องราวที่เขียนในบล๊อกเป็นประสบการณ์ และชิวิตประจำวันของโอ้ทเอง เขียนไว้เป็นบันทึก เก็บไว้อ่านย้อนหลังเมื่อวันเวลาผ่านไป ซึ่งเอากลับมาไม่ได้ หากสิ่งที่เขียนเป็นประโยชน์กับบางคน หรือหลายคนด้วยก็ดีใจ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ

Tuesday, May 24, 2011

โดดๆๆๆ

นานๆๆ ออกกำลังกาย แค่นาที สองนาทีก็หอบแห่กแล้ว
19 พ.ค 2554...



22 พ.ค 2554

หลังหมดหน้าที่แจ๋ว ไปช้อปต่อสองชั่วโมง กลับถึงบ้านรดน้ำต้นไม้ซะก่อนเข้าบ้าน เสร็จแล้วสร้างภาพ แล้วก็กระโดด โลดเต้น นาทีกว่าๆๆ ก็หอบแห่กแล้วอะ แก่เลี้ยวววววววววว





ดูดอกไม้ที่บานแล้ว

22 พ.ค 2554...วันก่อนพาดูรอบบ้านแล้ววันนี้ดูดอกไม้ที่บ้านแล้วกันดีกว่า ส่วนมากกุหลาบ เดินผ่านกลิ่นหอมฉุยโชยมาเชียวแหละ



Saturday, May 21, 2011

งานเฉพาะกิจวันเดียวจบ

21 พ.ค 54...เมื่อวันอังคารเพื่อนโทรมาบอกมีงานให้ทำ และบอกรายละเอียด ฟังแล้วน่าสนใจ แต่ไกลไปนิด ชั่วโมงกว่า หาเพื่อนไปด้วยกันดีกว่าว่าแล้วโทรหาบิ๋ม ตกลงไป เพราะบิ๋มอยากทำเป็นประสบการณ์นอกเหนือจากเรียน ทำอะไรสนุกๆๆ  นัดกับคนจ้างไว้ 9 โมงเช้าเจอกันที่บ้านตามที่อยู่ที่ให้มา  บิ๋มมารับตามนัด 7.40น. ไปถึงบ้านที่นัด 8.50น. มีเวลากินข้าวเหนียวหมูนิดหน่อย (ทำไปเอง) ...

อ่านมาถึงตรงนี้คงสงสัยว่า แล้วงานอะไรล่ะเนี่ยไม่บอกสักที?   คนจ้างเป็นคนไทย ขายเสื้อผ้านำเข้าจากไทย ถ่ายแฟชั่น แล้วลงเวบ.. โอ้ทไปถึงช่วยจัดฉากสตูดิโอ ตั้ง เสา ใส่ฉากสี ติดไฟ และเตรียมเสื้อผ้า เลือกชุด แต่งตัวให้นางแบบ  ช่วยรีดผมนิดหน่อย นางแบบ 3 คน ช่วยกันเลือก และ แต่งตัวให้ สองคนกับบิ๋ม สนุกดี เป็นประสบการณ์อีกอย่าง ที่ชอบด้วย

นางแบบเหมือนในหนัง เวลาเปลียนเสื้อผ้าจะโป๋ ไม่อาย แต่เราสองคนไม่ได้สนใจ ไม่มอง จัดชุดและแต่งตัวให้ แล้วส่งออกไปถ่ายรูป

8 ชั่วโมงผ่านไป งานเสร็จเรียบร้อยด้วยดี  ได้ประสบการณ์อีกอย่าง ระหว่างเดินทางกลับ รู้สึกง่วง คงเหนื่อย แต่ตอนทำงานไม่รู้สีกเหนื่อยเลย ตั้งใจทำ แป้บเดียว เวลาผ่านไปจนเสร็จ

ต้องขอบใจเพื่อนที่โทรมาบอก

Thursday, May 19, 2011

พาชมรอบบ้าน ฤดูร้อนปี 2554

คลิปนี้ทำเมื่อวันที่ 15 พ.ค 2554 ตั้งใจทำให้พ่อแม่ และ ครอบครัวที่ไทยดูกัน วันที่ถ่ายทำอากาศสบาย อัดยาว 33 นาทีกว่า เกินยูทูปกำหนด เลยต้องแบ่งเป็น 3 ตอน แต่ยังไงโอ้ทก็ยังพูดมากอยู่ดี ไปดูกันเลยดีกว่าเน่อะ





Tuesday, May 17, 2011

ส่งของไปรษณีย์ระหว่างประเทศเกิน $300 ต้องมีอินวอยส์

17 พฤษภาคม 2554

สดร้อน ๆ กลับมาจากไปรษณีย์ รอบสอง ทำไมเหรอ?  เล่าเลยจ้า

โอ้ทขายกล้องในอีเบย์ราคา $985  คนซื้ออยู่ประเทศไอร์แลนด์ จัดการห่อลงกล่องตรงไปไปรษณีย์ หวังจะส่งเสร็จภายในเวลาอันสั้น คนไม่เยอะด้วย (แอบดีใจในใจ เพราะปกติแถวยาววววววววววว) กรอกแบบส่งระหว่างประเทศ เข้าไปที่เคาน์เตอร์แจ้งเจ้าหน้าที่ไป ส่งแบบด่วน(เอ๊กซ์เพรสเมล์) ซื้อประกัน และ เลขติดตาม(แทรคกิ้งนับเบอร์)ด้วย ขอทราบค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่ดูและแจ้งมา ...ไม่แพงอย่างที่คิดแฮะ แต่ยังส่งไม่ได้เจ้าหน้าที่ยื่นแบบฟอร์มให้กรอกอีกชุด งั้นขอไปกรอกก่อนแล้วจะเข้ามาใหม่ โอ้ทบอกเจ้าหน้าที...

กรอกแบบฟอร์มเสร็จ เข้าแถวรอ ถึงคิวล่ะ เจ้าหน้าที่คนเดิม แจ้งไปว่าต้องการส่งอะไร อีกรอบเหมือนที่แจ้งเจ้าหน้าที่คนแรก แต่รอบนี้เจ้าหน้าที่บอกว่า ยูต้องใส่ราคาแต่ละรายการ ใส่รวมไม่ได้ ...อ้าว! อีกแล้ว โอ้ทเขียนแยกว่ามีอะไรในกล้องบ้าง แล้วใส่ปีกการาคาเดียว ทำไงล่ะไม่รู้ว่าอะไรเท่าไร เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าต้องใส่แต่ละรายการ  โอ้ทคิดไม่ออก ว่าเท่าไรบ้าง ถามเจ้าหน้าที่ว่ามีเครื่องคิดเลขให้ยืมไหม  ไม่มีจ้า งั้น เดี๋ยวฉันกลับมาใหม่ ขอไปคำนวนก่อนว่าอะไรเท่าไร....สร้างตัวเลขเองให้ได้ตามยอดจริง เสร็จแล้วกลับไปเข้าแถว (วันนี้คนน้อยมากๆๆ) เจอเจ้าหน้าที่คนเดิมคนที่สองนี่ละ รอบนี้เหมือนจะเรียบร้อย แต่ข้อมูลหน้าจอคอมฯ บอกว่าต้องมีใบอินวอยส์เพราะราคาเกิน $300 อ้าวอีกแล้ว..

โอ้ทย้อนเจ้าหน้าที่อีกว่าเคยส่ง $600 กว่าไม่เห็นใช้เลย เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า เจ้าหน้าที่คนที่รับวันนี้เขาคงไม่ได้อ่านจอ ...เอ้าแบบนี้มีด้วย โอ้ทถามไปอีกว่าส่งเอ็กซ์เพรส ด่วนๆๆน่ะ เพราะเจ้าหน้าที่พูดไพรออริตี้ ไม่ใช่ที่ต้องการส่ง เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลบอกว่า ด่วนก็ต้องมีอินวอยซ์  แล้วย้ำว่าต้องใช้เอกสารแสดงว่าซื้อมาเมื่อไร ที่ไหน ราคา โอ้ทตอบกลับว่า ไอเข้าใจ แต่ไอไม่มีเพราะซื้อออนไลน์ ทีนี้เจ้าหน้าที่เมินหนีบอกว่า ต้องมีอินวอยซ์ สองฉบับถึงส่งได้ เฮ้อ! ชักเหนื่อย  ถอยหลังกลับบ้านก่อน มาดูตัวอย่างอินวอยซ์ที่เคยซื้อของ แล้วพิมพ์เองเลย...

กลับไปไปรษณีย์อีกรอบ เจ้าหน้าที่คนแรกกลับมาประจำเคาน์เตอร์ และคนที่สองออกพอดี เจ้าหน้าที่คนแรกทัก " อ้าว ยูยังอยู่อีกเหรอ" เข้าไปหาเขาแล้วบอกว่า ก็เจ้าหน้าที่คนนั้นขอใบอินวอยซ์ไอเลยต้องกลับไปทำมา รอบนี้ทุกอย่างเรียบร้อย เพียงแต่ประกันชดเชยสูงสุดเพียง $650 เท่านั้น ถ้าของชำรุด หรือหาย ก็ยังดีกว่าสูญหมดเลย

Monday, May 16, 2011

แจ๋วแจ่มใส # 16

วันนี้มีเรื่องขำของนายจ้างมาเล่า...

ฤดูร้อนแล้ว แม่บ้านต้องการประหยัดไฟ เพราะค่าไฟสูงมาก เนื่องจากทางเมือง (บ้านเราก็คงเป็นการไฟฟ้า แต่ที่นี่ทางเมืองจะเป็นผู้ดูแลค่าสาธารณูปโภคด้วย) ขึ้นอัตราค่าไฟ ปกติบ้านนี้ซักผ้าทุกวัน และปั่นหมาด เอาออกมาผึ่ง ฤดูร้อนมีแดด แม่บ้านบอกซักอย่างเดียวแล้วเอาผ้าตากแดดแทนปั่นแห้ง ประหยัดพลังงานไฟฟ้า แต่พ่อบ้านไม่ชอบใจที่เห็นแม่บ้านขึงราวเอาผ้าตากที่ระเบียง เนื่องจากดูไม่สวย แม่บ้านเล่าไป ขำไป...อ้าวแล้วจะทำไงล่ะ โอ้ทสงสัย แม่บ้านพาไปดูราวที่โยง(แม่บ้านทำเอง ซื้อราวสำเร็จมาโยง) ในห้องกระจก (ห้องแดด) แต่แม่บ้านอยากทำราวที่ระเบียงด้านหลังด้วย เอาไว้ตากผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน แม่บ้านบอกว่า ฉันจะตากตอนที่สามีไปทำงาน และเก็บก่อนสามีกลับ....โอ้ทอึ้ง และขำ แล้ววันนี้โอ้ทไปถึงเห็นราวตากผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ที่ระเบียงหลังบ้าน และ ราวตากผ้าเช็ดตัวในห้องกระจก โอ้ทถามแม่บ้านว่าสามีไม่โกรธเหรอ ตากแบบนี้ ได้คำตอบว่า เขารู้แล้ว และไม่พอใจอยู่ แต่ฉันบอกไปว่าจะตากตอนคุณไม่อยู่ และรีบเก็บก่อนคุณกลับมา...โอ้ทขำเลย เพราะที่เก็บนี่ไม่เฉพาะเก็บแต่ผ้าที่ตาก แต่เก็บทั้งราวที่ขึงด้วย  สรุปทั้งฤดูร้อน แม่บ้านต้องขึงราว  เอาผ้าตาก และ เก็บผ้า เก็บราว แบบนี้แน่ๆๆ

เนื่องจากต้องตากผ้าให้แห้งก่อนสามีกลับ แม่บ้านต้องทำเองตั้งแต่ซัก ตาก เก็บ เพราะต้องซักตอนเช้า และตากแดดตอนสาย ถ้ารอโอ้ทไปทำจะไม่ทันผ้าแห้ง เพราะโอ้ททำตอนเที่ยง..................จบความคืบหน้าวันนี้

ปล. ดีนะที่มิสเตอร์ไม่ว่าอะไร โอ้ทตากผ้าหลังบ้านเหมือนกันแต่ไม่ได้ขึงราว เอาแขวนบนราวพับได้ แบบนี้



รูปถ่ายเมื่อเช้านี้ก่อนไปทำงาน เริงร่า บ้าบอ