Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุข ก็ทำไป

เรื่องราวที่เขียนในบล๊อกเป็นประสบการณ์ และชิวิตประจำวันของโอ้ทเอง เขียนไว้เป็นบันทึก เก็บไว้อ่านย้อนหลังเมื่อวันเวลาผ่านไป ซึ่งเอากลับมาไม่ได้ หากสิ่งที่เขียนเป็นประโยชน์กับบางคน หรือหลายคนด้วยก็ดีใจ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ

Tuesday, October 30, 2012

แจ๋วรับจ๊อบร้านเย็บผ้า



มีประสบการณ์ทำงานอีกงานมาเล่าจ้า

เป็นงานที่ร้านเย็บผ้าทำหนึ่งเดือน สัปดาห์ล่ะ สองวัน วันละ สาม ชั่วโมง พุธ 15.00-18.00 ศุกร์ 14.00-17.00 ค่าจ้างไม่มาก พอรับได้ แม้จะน้อยกว่าที่แจ๋วได้รับ หน้าที่หลัก เลาะผ้า หน้าที่รองลงมา แล้วแต่เจ้าของร้านมอบหมายให้ เช่นตัดผ้า ทำดอกไม้ เมื่อมีลูกค้าเข้าร้านช่วย วัด กลัดเข็มกลัดที่เสื้อผ้า ที่ต้องการซ่อม หรือ ตัดชาย เขียนใบรับ ส่งมอง- รับเงินลูกค้าที่มารับเสื้อผ้าที่ส่งซ่อมไว้

งานไม่ยาก และเป็นงานผ้าที่ชอบอยู่ด้วย สามชั่วโมงแต่ละวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รวมระยะเวลาที่ทำได้หนึ่งเดือน (นับวันที่ทำงานก็ 8 วันเท่านั้น) หลังจากนี้ หากมีงานอีก ทางร้านจะโทรมา

รู้จักร้านนี้จากเพื่อนที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน เมื่อครั้งที่เจ้าของร้านหาครูสอนโครเชท์ แล้วไม่มีนักเรียนมาสักที โอ้ทเลยบอกเลิก เพราะรอจนเบื่อ ไม่แน่นอน หายไปสักระยะ วันหนึ่งโอ้ทไปซื้อกับข้าวร้านจีนติดกับร้านนี้ ถือโอกาสแวะทักทาย หลังจากวันนี้เจ้าของร้านโทรมา เข้าไปคุยกัน ต้องการให้ช่วยงานที่ร้าน ชั่วคราว




Friday, October 19, 2012

เป๋อหน้าตาย

เมื่อบ่ายนี้ (19 ตค 2555) มิสเตอร์กลับมาบ้าน ลางานครึ่งวัน ไปรับรถเอาไปซ่อมตั้งแต่เมื่อวานเย็น เพราะระหว่างกลับบ้านเมื่อวานความร้อนขึ้นสูง มิสเตอร์บอกว่าน้ำแห้ง  สันนิษฐานว่าตั้งแต่ขับข้ามรัฐเมื่อฤดูร้อน ไม่ได้เติมน้ำเลย

(ปกติอยู่ไทยโอ้ทจะตรวจรถทุกวันก่อนเดินทาง (พ่อสอนไว้) แต่ที่นี่จำได้ว่า ปีแรกที่มา เติมน้ำในหม้อน้ำ ในฤดูหนาวพอดี น้ำ กลายเป็นน้ำแข็งในหม้อน้ำ ต้องใช้น้ำยาเคมีเติม ก็ไม่รู้นี่นา ตั้งแต่นั้นมาโอ้ทไม่เคยเช็คอีกเลย ไม่คุ้นกับระบบที่นี่)

รถต้องทิ้งค้างคืนที่ศูนย์และนัดรับบ่ายนี้ มิสเตอร์เอารถคันที่โอ้ทใช้ไปทำงาน กลับมาตอนเที่ยง ไปรับรถด้วยกัน มิสเตอร์บอกว่าทางศูนย์แจ้งตัวปัญหา คือพัดลมพัง  แต่ด้วยความที่โอ้ทติดใจว่า รถยังใหม่อยู่เพิ่งซื้อไม่น่าพัง ไปถึง เจ้าหน้าที่เอาเอกสารมา แจ้งว่าซ่อมพัดลม ค่าใช้จ่าย..โอ้ททำหน้าตาย ถามไปว่า

โอ้ท : ทำไมถึงพังได้ล่ะ รถยังใหม่อยู่เลยนะ
เจ้าหน้าที่ : อะไรนะ? ( ฟังภาษาอังกฤษโอ้ทไม่เข้าใจ พูดเร็วไปนิด..อิอิ)

โอ้ท : ทำไมถึงพังได้ล่ะ รถยังใหม่อยู่ ปีเดียวเอง...
มิสเตอร์ : ปี 2009 (พูดพร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถามกลับมาว่า)
เจ้าหน้าที่ : ซื้อมือสองเหรอ เพราะรถ สามปีแล้วนะ

โอ้ทได้ยินมิสเตอร์บอกปีที่ซื้อ นีกได้ เออวะ ! ผ่านมาหลายปีแล้วนี่หว่า ปีนี้ 2012 แต่ไม่อยากเสียฟอร์ม ก็ตั้งใจคอมเพลน (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรน๊าคำนี้) แล้ว ยังไม่ยอมเงียบ อีก

โอ้ท : ก็รถยังใหม่อยู่ ไม่น่าเสียได้เลยนะ
เจ้าหน้าที่ : ยูซื้อประกัน(ชิ้นส่วนรถยนต์จากศูนย์) หรือเปล่า

มิสเตอร์ : ไม่ได้ซื้อ
โอ้ท : เราไม่มีปัญหาว่ามีประกันไหม ค่าใช้จ่าย เราจ่ายได้ (มิสเตอร์จ่ายได้) แต่สงสัยว่าทำไมรถยังใหม่อยู่ เสียแล้ว
มิสเตอร์ : ปี 2009 (ยังคงพูดอยู่ข้างๆ)
โอ้ท : เราซื้อกันปลายปีนะ (ในใจนับๆๆ ว่าถึงปัจจุบัน 3 ปีนี่หว่า)

เจ้าหน้าที่ : ( ทำหน้า งง เงียบไป แล้วอธิบายต่อว่า...)  ระยะวิ่งเท่านี้...ไมล์ รถปีนี้ ก็ได้เวลาแล้วล่ะนะ
โอ้ท : เหรอ ไอก็แค่สงสัยเองว่าทำไมพังแล้ว รถยังใหม่อยู่ (ยังไม่เลิก...ทั้งรู้ว่าตัวเองข้อมูลผิดแล้วแต่ไม่อยากเสียฟอร์ม) ขอบคุณนะ

มิสเตอร์ : โอเค ขอบคุณนะ (รับเอกสารยื่นให้แคชเชียร์ เพราะชักจะทนเมียไม่ไหว)

เมื่อชำระเงินเรียบร้อย เดินออกจากประตูสำนักงาน

โอ้ท : ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก...ไอจำผิด นีกว่า เพิ่งผ่านไปปีเดียว
มิสเตอร์ : อะไร ของยู ไอบอกปี 2009 ตั้ง สามครั้ง

โอ้ท : ไอได้ยินแล้ว และ รู้ว่าตัวเองจำผิด แต่ไออยากคอมเพลน แล้วพูดไปแล้วด้วย ไม่อยากเสียฟอร์มนี่นา พูดทำหน้าตาเฉยๆๆ ไม่เห็นเหรอ

มิสเตอร์ : เขาจะคิดว่า ยูบ้าน่ะซิ รถ สามปี พูดอยู่ได้ว่า ปีเดียว

โอ้ท: ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เมียยูมั่นใจมากเลยเน่อะ

(ปล. พัดลมเจ้ง เปลียนตัวใหม่ 10xx ดอลล่าร์ ทำไมแพงขนาดนี้ฟะ ถ้าตัวเองคนเดียว ไม่มีปัญญาซ่อมนะเนี่ย )

จบ.


Tuesday, October 9, 2012

อเมริกันซิติเซ่น คนใหม่...ซะเมื่อไรกันล่ะ



11 มกราคม 2555
โอ้ทตั้งใจว่าปีนี้ 2555 จะยื่นเอกสาร ขออเมริกันซิติเซ่น อยากได้พาสปอร์ตเร็วๆๆ ยิ่งเมื่อไปนอร์ธดาโกต้าครั้งนี้ มิสเตอร์กับญาติคุยกันว่า น่าไปล่องเรือ ไปอลาสก้าด้วยกัน ยิ่งทำให้อยากได้พาสปอร์ตเร็วๆๆ เผื่อจะวางแผนออกนอกประเทศด้วย 

กลับจากนอร์ธดาโกต้า จนเริ่มปีใหม่ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป โอ้ทเริ่มหาข้อมูลในเวบ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ก่อนอื่นจัดการปริ้นข้อมูล และ แบบฟอร์มออกมาก่อน และจัดการอ่านเอกสารแนะนำ ซึ่งมีหลายหน้า ต้องค่อยๆๆอ่าน ค่อยๆๆ เตรียมเอกสาร และ กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ซึ่ง ณ วันนี้เริ่มกรอกไปบ้างนิดหน่อยเท่านั้น และ อ่านข้อมูลแนะนำบ้างเล็กน้อย

จากนั้น เสริจหาว่ามีที่ไหนสอน เตรียมตัวสำหรับคนที่จะยื่นขอซิติเซ่นบ้าง ได้ข้อมูลมาหลายที่เหมือนกัน แต่เลือกโทรสอบถามที่ใกล้บ้าน ปรากฎว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยเรียนภาษาอังกฤษแล้วไม่ชอบคนสอนแล้วเลิกเรียนกลางคัน แล้วทำให้ฉุกคิดถึงกลุ่มที่โอ้ทกำลังเรียนอยู่ จัดแจงโทรไปสอบถาม แจ้งความจำนงค์ไว้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ที่ติดต่อด้วยไม่อยู่ ณ ขณะนั้น ฝากเบอร์โทรกลับไว้

27 มกราคม 2555
เจ้าหน้าที่จากกลุ่มจัดสอนภาษาอังกฤษที่ติดต่อไว้โทรกลับมาแจ้งว่าไม่มีเปิดสอน แต่มีข้อมูลฝากกับครูมาให้ เก็บไว้อ่านได้จนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย 

เมื่อที่นี่ไม่มีสอน โอ้ทต้องหาที่สอนใหม่ เสริจหา หา หา ไม่เจอรัฐที่ตัวเองอยู่เลย หาไปหามา เข้าไปเวบเรื่องขอสัญชาติอเมริกันอีก แล้วก็ได้ข้อมูล เลือกที่ใกล้บ้านที่สุด ส่งอีเมล์ไป รอตอบกลับ

13 กุมภาพันธ์ 2555
เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดสอนภาษาอังกฤษ องค์กรที่เรียนอยู่ ฝากบัตรคำถาม-คำตอบมาให้อ่าน

9 ตุลาคม 2555
อัพเดท ณ ปัจจุบัน เปลี่ยนใจยังไม่ยื่น เพราะตัวขี้เกียจเกาะหนึบ ได้ตำรามานานหลายเดือนแล้ว ยังวางอยู่นิ่งๆ 

23 พฤจิกายน 2555
คิดไปคิดมา หาข้อมูลหลังกรีนการ์ด 10 ปีหมดแล้วทำยังไงต่อดีกว่า มีพาสปอร์ตอเมริกันสะดวกในการเดินทางหลายๆ ประเทศ แต่ต้องจ่ายภาษีแพงๆๆตามหน้าที่พลเมืองอเมริกันนี่ ไม่น่าสนใจเลนสักนิด