ใกล้คริสมาสต์
ทางบ้านมิสเตอร์ส่งข่าวมาว่าพี่ชายเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย มิสเตอร์เศร้ามากเตรียมเดินทางไปหาพี่ชายด่วน ตอนนั้นเวลาบ่ายแก่ มิสเตอร์ร้องไห้หนักป้าโอ้ทอยู่ข้าง ๆ บอกให้โทรคุยกับพี่ให้กำลังใจ และพูดถึงแม่เลี้ยงป้าโอ้ทตอนเป็นมะเร็ง หมอบอกอยู่ได้ไม่นานแต่แม่เลี้ยงใช้ชีวิตมีความสุขอยู่ได้ปีหรือสองปีนี่ล่ะก่อนเสีย มิสเตอร์โทรไปโรงพยาบาลคุยกับพี่ชายยิ่งร้องไห้หนักเพราะพี่ชายพูดสั่งเสีย ป้าโอ้ทแนะนำให้มิสเตอร์ไปคุยกับนายก่อนวันรุ่งขึ้นค่อยจองตั๋วเครื่องบิน มิสเตอร์ไปทำงานครึ่งวันโทรมาว่าคุยกับนายแล้ว นายกุมขมับเลยเพราะงานก็ต้องการมิสเตอร์แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ ครอบครัวสำคัญกว่าให้มิสเตอร์กลับบ้าน มิสเตอร์จองตั๋วเครื่องบินหกโมงเช้า จะไปถึงประมาณเที่ยง จองรถ โรงแรม แต่เพราะเศร้ามากนอนไม่หลับ ดื่มเยอะจนร่างกายไม่ไหว เดินพยุงตัวเองยังไม่ได้ ป้าโอ้ทดุให้เปลี่ยนเที่ยวบินเป็นตอนเย็นแล้วให้นอน ป้าโอ้ทก็ไม่ได้นอนเหมือนกัน เฝ้าดูและระวัง ในที่สุดมิสเตอร์บินรอบเย็นไปถึงหลังเที่ยงคืน จองตั๋วขาเดี่ยวเพราะไม่รู้จะอยู่กี่วัน อาการพี่ชายจะเป็นยังไง มิสเตอร์โทรมาคุยวันละครั้งตอนเข้าโรงแรมก่อนนอน ส่งข้อความมาบ้าง บางวันไม่โทร ไม่ข้อความ ป้าโอ้ทรอจนรอไม่ไหว ส่งข้อความไปบอกว่าเข้านอนแล้ว สถานการณ์แบบนี้ไม่รู้วุ่น หรือทำอะไร ยังไงกันบ้างเพราะอยู่โรงพยาบาลทั้งวันทั้งคืน ป้าโอ้ทไม่โทรเป็นการรบกวน ให้กำลังใจตอนคุยโทรศัพท์ทุกครั้ง ครบหนึ่งสัปดาห์มิสเตอร์โทรมาว่าจองตั๋วไม่ได้ เข้าเวบไม่ได้ ป้าโอ้ทจัดการให้ เดินทางกลับครั้งนี้ดีหน่อยมาถึงตอนห้าโมงเย็น ยังไม่มืด ก่อนออกไปรับทำอาหารเตรียมไว้ให้เสร็จ วันก่อนกลับแม่มิสเตอร์ดื้อไปฟาร์มคนเดียวลื่นหิมะเข้าฉุกเฉิน กระดูกสะโพกหักหรืออะไรสักอย่าง มิสเตอร์โกรธแม่ ไม่คุยกับแม่เพราะแม่น่าจะอยู่โรงพยาบาลกับพี่ชายแต่ดื้อไม่เชื่อใคร ห่วงแมว ให้อาหารแมว ป้ามิสเตอร์เรียกรถพยาบาลไปรับแม่ส่งโรงพยาบาล ผ่าตัด มิสเตอร์กลับมาทำงานได้วันเดียวบินกลับไปอีก ไปรับแม่กลับบ้าน อยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ มิสเตอร์อยากให้ป้าโอ้ทไปด้วย จะได้ช่วยดูแลแม่ แต่ฉุกเฉินหาคนเลี้ยงน้องเต่าบัคกี้ไม่ทัน วันกลับเที่ยวบินมิสเตอร์ออกจากโน่นเที่ยงมาถึงตอนเย็นอีกแต่ยกเลิกซ้อนกันทุกเที่ยว มาถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า ป้าโอ้ทไปรับที่สนามบินเหมือนเดิม
กลับมาทำงานได้วันครึ่งป่วยอีก ไอมาก เจ็บหน้าอก บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป นึกว่าเป็นหวัดธรรมดา ตัวป้าโอ้ทเองหอบขึ้นไม่มียา อยู่อเมริกาสิบห้าปีไม่เคยหอบ ไม่เคยหาหมอ (เป็นมาแต่กำเนิด กรรมพันธ์ุได้แม่ แม่เป็นหนักกว่ามาก เคยหมดสติหลายครั้ง หัวใจหยุดเต้นด้วย ตอนเด็กป้าโอ้ทจำได้ ตอนนั้นอยู่กับพ่อเลี้ยง เป็นนปั้มหัวใจให้ เลิกกันนานแล้วตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้หลังจากโอ้ทมาอเมริกา กลับไปอีกทีแยกกันแล้ว) ป้าโอ้ททำงานทำความสะอาดบ้านให้คนอื่น ดูแลตัวเองอย่างดี ครั้งนี้ฝุ่นเยอะจริงจนหอบกลับมาต้องรีบไปหาหมอ วันที่หอบยังไม่ได้ไป กลับมาพักที่บ้านก่อน วันรุ่งขึ้นไปหาหมอ (มีวิดิโอเล่าด้วยยูทูบ ป้าโอ้ทหาหมอรอนาน) ชวนมิสเตอร์ไปด้วยกัน ดื้อไม่ไป วันรุ่งขึ้นทรุด วันจันทร์ไปทำงานไม่ได้ ป้าโอ้ทบังคับมิสเตอร์ให้ไปหาหมอ พาไปที่เดียวกันนี่ล่ะ ที่มิสเตอร์เคยมาตรวจโควิด หมอบอกคิดว่าเป็นปอดบวม โอ้ยแย่แล้ว! ให้ยามากินถ้าอาการไม่ดีขึ้นต้องเข้าฉุกเฉิน คืนแรกที่กินยา ไอน้อยลง มิสเตอร์เจ็บหน้าอกน้อยลง ค่อยยังชั่ว ไม่ใช่ปอดบวม เย! ยังหยุดต่ออีกกี่วันน๊า?
มิสเตอร์สันนิษฐานว่าได้ไข้มาจากโรงพยาบาลที่โน้น รอบแรกตอนแม่ล้มก่อนพี่ชายเข้าโรงพยาบาลนะ ได้โควิดกลับมา ป้าโอ้ทติดไปด้วยไข้ตัวร้อน นอนซมสามวันสามคืนทีเดียว ไม่ดูแลใคร ตัวใครตัวมัน เอาตัวเองยังไม่รอด รอบนี้ก็เป็นอาการไอมาก เจ็บหน้าอก ไม่มีแรงแต่ขับรถออกไปซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ตได้อยู่ วันป้าโอ้ทออกไปทำงานตอนเช้า ตอนเที่ยงกลับมาเห็นแซนด์วิชวางอยู่บนเค้าน์เตอร์ในครัว
อ่อ! ลืมบอกไป พี่ชายอาการดีขึ้น ทุกคนสรุปตกลงว่าย้ายจากโรงพยาบาลไปศูนย์พยาบาล( Nursing home) พี่ชายไม่มีประกันอยู่โรงพยาบาลจ่ายไม่ไหว แม่เป็นคนจ่ายเพราะพี่ชายไม่ทำงานไม่มีรายได้ "กินกงสี" ตอนมิสเตอร์เดินทางไปด่วนครั้งนึงแม่ล้ม แม่ให้ตังค์ค่าตั๋วเครื่องบินด้วย ครั้งนี้แม่ก็ให้ มิสเตอร์บอก เพราะตั๋วเครื่องบินแพง ราคาถูกเท่ากับไปไทย มิสเตอร์ซื้อชั้นหนึ่งแพงขึ้นไปอีก ประกอบกับเที่ยวบินมีน้อยอีก ป้าโอ้ทเห็นขาไปขาเดียวสี่พันเหรียญ ใช่ไม่ผิด สี่พันเหรียญ ตกใจ! แพงมากเท่ากับชั้นธุรกิจบินระหว่างประเทศ
ป้าโอ้ทหาหมอเพราะหอบ ได้ยาพ่นหลอดเล็กหนึ่งหลอด ยากินห้าวัน มิสเตอร์ไอ เจ็บหน้าอก หายใจเหมือนหอบ ได้ยาพ่นมาเหมือนกัน ยากินสองอย่าง
ขอให้ผ่านไปด้วยดี หมดทุกข์ หมดโรค มิสเตอร์ทำใจเรื่องพี่ชายได้มากขึ้นเพราะพี่ชายไม่ได้จากไปกระทันหันแต่อาการไม่ได้รักษาหายได้ เมื่อถึงเวลานั้นมิสเตอร์ไม่เศร้ามากเท่าตอนรู้ตอนแรกเพราะทำใจไว้แล้ว สักวันต้องมาถึง บอกว่าพี่ชายห่วงพี่สะใภ้จะไม่มีบ้านอยู่หลังพี่ชายจากไปเพราะบ้านเป็นชื่อแม่ กังวลว่าแม่จะไม่ให้พี่สะใภ้อยู่ (เรื่องราวของต่างชาติเยอะ ถ้าสนใจหาฟังในยูทูบ หาอ่านเพิ่มเติมกันเองนะคะ แต่ละบ้านแตกต่างกันไป ถ้าทรัพย์สินไม่ระบุชื่อบุคคล บุคคลที่ไม่มีชื่อจะครอบครองไม่ได้ คร่าว ๆ) มิสเตอร์บอกว่าพี่ชายยื่นเอกสารให้ปึกใหญ่ให้ช่วยดำเนินเรื่อง ติดต่อทนายและอื่น ๆ ที่ต้องทำ มิสเตอร์ไม่ได้อยู่ที่นั่นต้องค่อย ๆ คิดว่าจะติดต่อใคร ทำอะไร ยังไง ป้าโอ้ทก็ให้กำลังใจไป ตอนนี้เป็นยังไงไม่รู้เพราะมิสเตอร์ป่วยไม่หาย
No comments:
Post a Comment
ขอบคุณมิตรภาพ และความคิดถึงที่เอามาฝากไว้ที่นี่ค่ะ
Thank you for visiting.