ไปถึงบ้าน ฟ้ามืดเชียว แจ๋วเดินตรงไปที่เครื่องซักผ้าก่อน มีผ้าในเครื่องซัก และ เครื่องปั่น แต่จะปั่นหรือ ว่าจะตาก ไม่รู้ จะลงมือทำเลยก็ไม่ได้เพราะตอนนี้แม่บ้านต้องการประหยัดพลังงาน และค่าไฟ ถึงเอาผ้าตากแดด ขึ้นไปถาม แม่บ้านได้ความว่าจะปั่น แต่ดูแล้วแดดทำท่าจะออก (บานไม่หุบ) งั้นเอาไปตากแดดดีกว่า จัดการเก็บผ้าทั้งในเครื่องซัก และเครื่องปั่นใส่ตะกร้า เอาขึ้นบ้าน แต่ฟ้ายังไม่สว่างมาก เกรงว่าฝนตก เอาไปตากในห้องกระจกก้แล้วกัน แม่บ้านกลับไปคุยโทรศัพท์ต่อกับใครไม่รู้ รู้แต่ว่าคอมฯของแม่บ้านมีไวรัส คุยกับคนปลายสายเพื่อแก้ไข...แจ๋วเอาบันไดน้อยต่อปีนเพื่อผูกราว แต่ว่า ราวล๊อคไม่เป็นนะซิ เพราะแขวนแล้ว เชือกยังรูดอยู่เลย (แม่บ้านใช้ราวแบบม้วนเก็บ ไม่ได้ใช้เชือกผูกเสาเหมือนที่บ้านเรา) สุดท้ายเอาวางไว้ แล้วแจ๋วไปทำงานบ้านอื่นๆๆต่อ เมื่อแม่บ้านคุยโทรศัพท์ เสร็จก็ออกไปตากผ้าที่ระเบียง เพราะแดดออกแล้ว
แจ๋วทำงานจนเสร็จ แม่บ้านเอาค่าแรงสัปดาห์นี้มาวางให้ที่โต๊ะอาหาร แจ๋วไม่ได้นับ คว้าใส่กระเป๋ากางเกง แล้วลากลับเลย ระหว่างทางจะไปธนาคาร ควักเงินมา อ้าว! มีแค่วันเดียว หล่นที่ไหนหรือเปล่า วนรถกลับไปหา แม่บ้านออกไปข้างนอกแล้ว โทรเข้ามือถือไม่รับด้วย แต่เดาว่าไปไม่นาน เพราะผ้ายังตากอยู่ กับข้าวยังวางบนเตา ระหว่างรอแจ๋วเก็บผ้าที่แห้งพันใส่ตะกร้าไว้ให้แม่บ้าน
แม่บ้านกลับมาแปลกใจ เมื่อรู้สาเหตุ ก็หัวเราะ แล้วรีบหยิบเงินที่ขาดให้ อาจเป็นเพราะโอ้ทแจ้งว่าสัปดาห์หน้า ทำงาน วันเดียว และสัปดาห์ต่อไป ทำงานวันเดียว เพราะมิสเตอร์พักร้อน จะพาไปเที่ยว....อ่อ แม่บ้าน จ่ายให้รวมถึงสัปดาห์หน้าเลย รวมเป็น สามวัน จัดแจงฝากธนาคารเรียบร้อย ค่อยโล่งใจ นึกว่า หล่นหายไปไหนแล้วตั้ง $30
จบจ้า..
ไปอยู่กี่ปีแล้วครับ ชีวิตในต่างแดนสนุกไหมหรือเหนื่อยมากกว่า
ReplyDeleteสามปีกว่านิดหน่อยค่ะ จะว่าสนุก ก้ไม่เชิง จะว่าเหนื่อยก็ไม่ใช่ อยู่ที่เหตุผลของการมาอยู่แต่ละคนน่ะค่ะ โอ้ทมาเพราะมีครอบครัว สามีดูแลดี ก็ไม่ลำบาก อยู่ที่เราทำให้ตัวเองสนุกก็สนุก ถ้าต้องดิ้นรนก็คงไม่สนุก และเหนื่อยค่ะ แต่ละคนก็แตกต่างกันไป
ReplyDelete