Life is short then do what brings happiness to life.ชีวิตเราสั้น อะไรทำแล้วมีความสุข ก็ทำไป

เรื่องราวที่เขียนในบล๊อกเป็นประสบการณ์ และชิวิตประจำวันของโอ้ทเอง เขียนไว้เป็นบันทึก เก็บไว้อ่านย้อนหลังเมื่อวันเวลาผ่านไป ซึ่งเอากลับมาไม่ได้ หากสิ่งที่เขียนเป็นประโยชน์กับบางคน หรือหลายคนด้วยก็ดีใจ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ

Tuesday, September 18, 2012

ไม่ลำบาก และไม่หวังอะไรมากกว่านี้ และ ไม่กอบโกย


แค่อยากเขียนไว้เท่านั่นแหละ ...

ทุกวันนี้ลืมตาขึ้นมา ไม่ต้องทำอะไรมาก วัน ๆ ไร้สาระ ทำงานบ้าน ดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ อยากไปนอกบ้าน ไปช้อปปิ้ง ไปกินอาหารนอกบ้าน อยากทำอะไรก็ทำได้ตามอิสระ งานจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เดือดร้อน  อยากได้อะไรบอกมิสเตอร์ ถ้าไม่เกินกำลังของเขาไม่เคยแม้สักครั้งที่จะไม่ได้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนจริงๆที่มิสเตอร์บอก "ไม่"

ไม่ต้องฝันเฟื่อง ไม่ต้องคิดอยากได้อะไรมากไปกว่านี้แล้ว เท่านี้ก็สบายกาย สบายใจแล้ว มีแต่อย่างเดียวเท่านั้นคืออยู่ไกลบ้านอะไร ๆ ก็ไม่สะดวกเหมือนอยู่บ้าน
ทุกคนที่บ้านสบายดี เราติดต่อกันได้การสื่อสารที่ทันสมัย ได้เห็นภาพ เห็นวิดิโอกันอยู่

จะดิ้นรนอะไรไปมากกว่านี้อีกเน่อะ บางครั้งนีกอยากเรียน สิ่งที่ชอบ แต่ค่าเทอมแพง ระยะเวลาเรียนอย่างน้อยสองปีขี้นไป ก็ต้องใช้ปัจจัยของมิสเตอร์อีก เลิกคิดดีกว่า เรียนมาจะใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพได้หรือเปล่าก็ไม่รู้  ทุกวันนี้ก็สุขสบายดี ไม่ลำบาก

ไม่ต้องแข่งขันกับใคร ไม่ต้องอยากได้อะไร ไม่ต้องหวังเพิ่งใคร ต้องเพิ่งตัวเองให้มากที่สุด

นีกถึงพ่อที่อยู่อย่างพอเพียง ไม่ดิ้นรน ไม่แข่งขันกับใคร ไม่เบียดเบียนใคร อยู่นิ่งๆ ใครไม่หวังดีเข้ามายุ่งกับเรา เราก็เฉยๆซะ อย่าไปยุ่งกับเขา เรื่องทุกข์ก็มีบ้างเป็นปรกติของคน แต่จะเก็บมาทุกข์ทำไม ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ พ่อเคยพูดไว้เหมือนกัน ปล่อยไปตามธรรมชาติ

วันหน้า อนาคต จะคิดไปทำไม พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ พ่อบอกไว้ ต้องมองวันนี้ซิ วันนี้เราจะกินอะไร เราจะทำอะไร ให้ผ่านพ้นไป มองไปไกล ตอนเช้ายังอยู่ดี บ่ายๆๆ อาจเดินหกล้ม หัวฟาดพื้น ตายก็เป็นไปได้

ทุกวันนี้มีความสุขดีอยู่ แม้จะอยู่ไกลบ้านก็ยังมีมิสเตอร์ แต่หากวันหน้า มิสเตอร์เกิดเป็นอะไรไปก่อน น้อง ๆ พี่คงต้องขอไปอาศัยน้องๆๆล่ะนะ เพราะพี่คงมีแต่ตัวกลับไป สมบัติของเขา ก็ยกให้ครอบครัวเขา แค่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเท่านั้นล่ะ พี่บอกเขาไปแล้ว พินัยกรรมก็ทำแล้ว อะไรที่เป็นของเขา สุดท้ายก็เป็นของเขา

ทุกวันสวดมนต์ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีคนคิดร้าย เดินทางไปไหนปลอดภัย รวมทั้งตัวเองด้วย

คิดดี จิตใจไม่เป็นทุกข์



Tuesday, September 4, 2012

ทำความสะอาดบ้านพักพนักงานร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าของคนไทย


วันนี้ไปทำความสะอาดบ้านพัก พนักงานร้านอาหารญี่ปุ่น เจ้าของเป็นคนไทย(ผู้หญิง) กับ มาเลเซีย(สามี) รู้จักพี่เขาตั้งแต่ตอนนกอยู่ เพราะนกเคยไปสมัครงาน แล้วไปซื้ออาหารที่ร้านพี่เขา นกแนะนำ จากนั้นโอ้ทไปซื้ออาหารบ่อยๆ แล้วคุยกัน พี่เจ้าของร้านมีอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าด้วย บอกว่าจะเรียกให้ไปทำความสะอาด จากนั้นหลายเดือนแล้ว จนโอ้ทคิดว่าพี่เขาคงไม่จ้าง กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กย 2554 พี่โทรมา เยๆๆๆ ได้งานเพิ่ม แม้จะเป็นครั้งคราวก็เถอะ งานนี้คิดชั่วโมงละ 15 ดอลล่าร์   ตกลงไปทำวันนี้เพราะ วันจันทร์ต้องทำบ้านปกติ


บ้านหลังเล็กๆ สองชั้น ในภาพเป็นสองหลังชนกัน ทำหลังที่เห็นหน้าบ้าน พี่เจ้าของบ้านให้ทำ สามชั่วโมง บอกไว้แล้วว่าสกปรกมาก ต้องล้างบ้านเลยล่ะ คิดว่ามี ฝุ่นเยอะเท่านั้น แต่เมื่อไปถึงเดินสำรวจ ทั่วบ้าน ทั้งสองชั้น นีกในใจ สามชั่วโมงทำได้สบายๆๆ แต่เมื่อเข้าไปในครัว พิจารณาแล้ว คงไม่เสร็จ เพราะแค่ขัด ล้าง เตาก็ปาไปชั่วโมงกว่าแล้ว ไหนจะพื้นอีก เป็นพื้นหิน แต่คราบน้ำมัน คราบกาแฟ ขัดออกยากมาก เตาเองก็คราบน้ำมันจากสีขาวเป็นสีเหลือง (ไม่ได้ถ่ายภาพก่อนทำไว้เพราะเกรงใจ)



เช็ดเครื่องซักผ้าเฉพาะฝา เพราะเวลาไม่พอ เช็ด ปัดฝุ่นทีวี ชั้นวางทีวี ชั้นวางของ ดูดฝุ่นพื้นห้องนั่งเล่น ไม่ได้ทำบันไดบ้านเลย น้องคนไทยหยุดวันนี้หนึ่งคนช่วยล้างห้องน้ำ  สรุปว่า สามชั่วโมงจัดการในครัวได้บ้าง ดูดีกว่าก่อนทำ แต่คงต้องไปทำอีก สอง หรือ สามครั้งนั่นละถึงจะสะอาด เอี่ยม ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแล้วแต่เจ้าของบ้าน


เจ้าของบ้านเตรียมน้ำยาฟอกขาวไว้ กับ น้ำยาล้างจาน และ สเปรย์ฉีดทำความสะอาดครัว เราเตรียมไปบ้างเพราะไม่แน่ใจว่ามีอะไรให้ใช้บ้าง แต่น้ำยาที่มีก็ไม่ช่วยให้สะอาดได้ดี แล้วต้องออกแรงขัดด้วย เป็นวันแรกที่ทำความสะอาดบ้านแล้วเหงื่อท่วม เพราะน้ำมันขัดออกยากมาก ต้องนั่งขัดพื้นกันเลยล่ะ



เวลาจำกัด ทำเท่าที่ทำได้ล่ะ ก็ยังดูดีกว่าก่อนทำขึ้นเยอะ จากนั้น แวะรับทรัพย์ และ ซื้อน้ำปั่นเย็นๆๆ ก่อนกลับบ้าน